คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันขุดทำลายพระเจดีย์วัดแม่โจรอันเป็นที่เคารพทางพุทธสาสนาและได้จดทะเบียนเป็นวัตถุโบราณอยู่ในความอารักขาของกรมศิลปากรขอให้ลงโทษตามกฎหมายอาญามาตรา ๑๗๒ และ พรบ ว่าด้วยโบราณสถาน ศิลปวัตถุโบราณวัตถุและการพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ พ.ศ. ๒๔๗๗ ม. ๑๐, ๓๐,
ศาลจังหวัดสุโขทัยพิพากษาว่าจำเลยมีผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้างจึงพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญามาตรา ๑๓๒ ซึ่งเป็นบทหนัก
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยมุ่งจะค้นหาทรัพย์ไม่มีเจตนาทำลายเจดีย์เพื่อหมิ่นประมาทสาสนา จึงพิพากษาแก้ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม พรบ ว่า ด้วยโบราณสถาน ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุและการพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ พ.ศ. ๒๔๗๗
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าเจดีย์รายนี้เป็นที่เคารพศักการะบูชาในทางพุทธสาสนาดั่งนี้การที่จำเลยขุดทำลายลง แม้จะมุ่งหาทรัพย์ก็ดี เมื่อจำเลยรู้อยู่ว่าเจดีย์นั้นเป็นที่สักการะบูชาในทางพุทธสาสนาจำเลยย่อมมีผิดตามกฎหมายอาญามาตรา ๑๗๒ ด้วย จึงพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ยังคับคดีไปตามศาลชั้นต้น