โจทก์ฟ้องว่า  นายเผอิญ  จิตรากร  ได้ขอเปิดบัญชีเงินฝากในนามโจทก์ต่อธนาคารจำเลย  โดยนายเผอิญกับพวกได้ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารเพื่อแสดงว่านายเผอิญเป็นกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนโจทกก์  จำเลยกระทำโดยประมาท  มิได้ตรวจสอบหลักฐานให้ถูกต้องเสียก่อนตามปกติผู้ประกอบธุรกิจเช่นจำเลยจะพึงต้องกระทำ  ทั้งไม่สอบถามมายังบริษัทโจทก์  ธนาคารจำเลยได้เปิดบัญชีเงินฝากในนามบริษัทโจทก์เป็นเจ้าของบัญชี  ให้นายเผอิญเป็นผู้มีอำนาจลงชื่อในเช็คเบิกเงินในบัญชีได้  ด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของจำเลยดังกล่าว  เป็นเหตุให้นายเผอิญซึ่งสมคบกับนายสุทิน  จิตรากร  พนักงานเก็บเงินของโจทก์  นำเอาเช็คที่ลูกค้าออกให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้รวม ๕ ฉบับ  เป็นเงิน ๑๒๐,๕๓๖ บาท ๔๗ สตางค์  เข้าบัญชี  แล้วนายเผอิญออกเช็คเบิกเงินจำนวนดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว  ขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าเสียหาย ๑๒๐,๕๓๖ บาท ๔๗ สตางค์  พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีให้แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า  จำเลยมิได้ทำละเมิดต่อโจทก์  โจทก์เองเป็นฝ่ายประมาทเลินเล่อไม่วางระบบวิธีการรับและเก็บรักษาเช็คให้รัดกุม  เป็นเหตุให้นายเผอิญกับนายสุทินพนักงานเก็บเงินของโจทก์ยักยอกเอาเช็คที่ลูกค้าชำระหนี้มาเข้าบัญชีของธนาคารจำเลย  แล้วเบิกถอนเอาไปได้
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า  นายเผอิญ  จิตรากร  มาขอเปิดบัญชีเงินฝากในนามบริษัทโจทก์  โดยนำหลักฐานเอกสารมาแสดงต่อธนาคารจำเลย  สาขาคลองประปา  ครบถ้วนตามระเบียบที่ธนาคารจำเลยวางไว้สำหรับนิติบุคคลมาขอเปิดบัญชีเงินฝาก  ทั้งในเอกสารระบุไว้ว่านายเผอิญ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนบริษัทได้  ในเอกสารไม่มีร่องรอยแสดงให้เห็นพิรุธอันน่าสงสัย  จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องสอบไปยังบริษัทโจทก์หรือกองทะเบียนกระทรวงพาณิชย์  การประกอบธุรกิจธนาคารหรือการค้า  ต้องการความรวดเร็วเพื่อให้ความสะดวกแก่ลูกค้า  ฉะนั้นพนักงานของธนาคารจำเลย  สาขาคลองประปา  รับเปิดบัญชีเงินฝากให้นายเผอิญ  จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ชอบด้วยเหตุผลแล้ว  และที่นายเผอิญนำภาพถ่ายเอกสารมาแสดง  และธนาคารจำเลยสาขาคลองประปายอมรับพิจารณาภาพถ่ายเอกสารที่รับรองว่าถูกต้อง  ก็เป็นการกระทำตามปกติธรรมดาที่เคยปฏิบัติมาของธนาคาร  หาใช่ประมาทเลินเล่อไม่  เมื่อพนักงานของธนาคารจำเลยตรวจดูเอกสาร ล. ๑  ซึ่งบ่งบอกลักษณะว่าเป็นหนังสือของทางราชการใช้โดยเฉพาะ  ผู้ใดพบเห็นก็ย่อมจะเข้าใจว่าเป็นหนังสือรับรองของทางราชการโดยไม่เกิดความระแวงสงสัย  แล้วเชื่อว่าเป็นของแท้  และยอมรับเปิดบัญชีเงินฝากให้นายเผอิญในนามบริษัทโจทก์  อันเป็นการกระทำโดยรอบคอบที่ใช้ความระมัดระวังพอสมควรแล้ว  ต่อมานายเผอิญได้เอาเช็คเข้าบัญชี  และมีการถอนเงินไปตามข้อตกลงและวิธีการทางปฏิบัติตามปกติของธนาคาร  เป็นเหตุผลทำให้พนักงานของธนาคารจำเลยเชื่อโดยสุจริตว่านายเผอิญเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทโจทก์ที่แท้จริง
ที่โจทก์ฎีกาว่า  บริษัทโจทก์ได้จดทะเบียนโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว  บุคคลทั้งหลายย่อมรู้  ข้ออ้างนี้จะผูกพันบุคคลทั่วไปเฉพาะนิติกรรมสัญญาเท่านั้น  ไม่มีผลถึงเรื่องละเมิดเช่นกรณีนี้  ฝ่ายจำเลยเองก็นำสืบไว้ว่า  ไม่เคยรู้ว่ามีบริษัทโจทก์อยู่ก่อนที่นายเผอิญมาแจ้ง
สรุปแล้ว  ข้อเท็จจริงรับฟังไม่ได้ว่าฝ่ายจำเลยกระทำโดยประมาทเป็นการละเมิดแก่โจทก์  จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด
พิพากษายืน