ได้ความว่ามีผู้ร้ายมาถอดกลอนคอกโคเพื่อจะลักโคของจำเลย  ผู้ร้ายหนี  จำเลยไล่ตามทันจึงฟันผู้ร้ายไป ๑ ทีถูกศีร์ษะ  ผู้ร้ายหันมาเงื้อขวานจะฟันจำเลย ๆ จึงฟันผู้ร้ายไปอีกหลายที  ปรากฏว่าถูกผู้ร้ายมีบาดเจ็บสาหัสและไม่สาหัสรวม  ๑๘  แผล พอผู้ร้ายล้มจำเลยก็หยุดฟัน  ผู้ร้ายรักษาแผลอยู่ ๒ เดือนเศษก็ตายเพราะพิษบาดแผลนั้น   โจทก์จึงขอให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๒๔๙-๒๕๐
ศาลเดิมตัดสินว่าจำเลยทำร้ายผู้ร้ายโดยป้องกันเกินกว่าเหตุ  มีผิดตาม ม.๒๔๙-๕๓  ให้จำคุกไว้ ๖ เดือน แต่ให้รอการลงอาญาไว้
ศาลอุทธรณ์ตัดสินกลับว่า  จำเลยทำโดยป้องกันพอสมควรแก่เหตุตาม ม.๕๐ ไม่ควรมีผิด  แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ก็ควรได้รับผลตามบัญญัติ  จึงให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่าที่จำเลยฟันผู้ตายครั้งแรกนั้นก็เพื่อจะจับกุมผู้ตาย  ทั้งไม่ปรากฏว่าบาดแผลนั้นถึงสาหัส  ที่ผู้ตายถูกทำร้ายถึงสาหัสนั้นก็เกิดขึ้นเมื่อผู้ตายหันกลับมาต่อสู้จำเลย  ๆ จึงฟันตอบไปเพื่อป้องกันตัวและจับผู้ตาย  และเปนเวลาเดือนมืดจึงเปนการยากที่จำเลยจะทราบว่าฟันกี่ทีจึงจะสมควร  จึงตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์