ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน: อุทธรณ์ข้อเท็จจริงต้องห้ามตามกฎหมาย
คดีนี้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า สิ่งปลูกสร้างอาคารชุด ร. เป็นส่วนควบของที่ดินตามโฉนดที่ดิน โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 3 อุทธรณ์ สรุปได้ความว่า จำเลยที่ 1 ก่อสร้างอาคารชุด ร. โดยเจ้าของที่ดินยินยอมให้จำเลยที่ 1 ก่อสร้าง จำเลยที่ 1 จึงเป็นผู้มีสิทธิเหนือพื้นดิน ทั้งยังปรากฏตามสัญญาซื้อขายว่า ซื้อขายเฉพาะที่ดิน ไม่รวมสิ่งปลูกสร้าง และงบการเงิน ก็ระบุว่าจำเลยที่ 1 มีสินค้าคงเหลือเป็นอาคารชุด ซึ่งปลูกสร้างบนที่ดิน อันเป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลที่เกี่ยวกับบริษัท กรณีจึงเป็นที่แจ้งชัดว่า กรรมสิทธิ์ในสิ่งปลูกสร้างอาคารชุด ร. ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินตามโฉนดที่ดิน เป็นของจำเลยที่ 1 ผู้เป็นลูกหนี้โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 3 ดังนี้ ในการวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 3 ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ต้องย้อนไปวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 1 ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดินให้ก่อสร้างอาคารชุด ร. บนที่ดินดังกล่าวหรือไม่ อุทธรณ์ของโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 3 จึงเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลชั้นต้นเพื่อนำไปสู่ข้อกฎหมายที่โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 3 อ้างอันเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อความผิดที่โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 3 ฟ้องจำเลยที่ 3 ถึงที่ 6 มีระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 22 ประกอบ พ.ร.บ.ให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ.2520 มาตรา 3