โจทก์ฟ้องว่าจำเลยหลอกลวงให้นางนิตยา อารีรัตน์ ภริยาโจทก์ร่วมให้ส่งเงิน 2,550 บาท ที่โจทก์ร่วมฝากนางนิตยา อารีรัตน์ ไว้โดยกล่าวเท็จว่าจะเอาเงินนี้ไปประกันหญิงนครโสเภณีแทนนางนิตยาอารีรัตน์ นางนิตยาฯ หลงเชื่อจึงส่งมอบเงินดังกล่าวให้ไปคดีนี้โจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เสียหายด้วยได้ร้องทุกข์มอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแล้ว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341กับให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน 2,550 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธและตัดฟ้องว่าฟ้องเคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นว่าฟ้องไม่เคลือบคลุม และวินิจฉัยว่า นางนิตยาฯผู้รับฝากเงินและถูกจำเลยหลอกลวงนั้น เป็นผู้เสียหาย แต่มิได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี ส่วนนายโฮยกุ๋ยไม่ใช่ผู้เสียหาย เพราะจำเลยมิได้หลอกลวงนายโฮยกุ๋ย ๆ จึงไม่มีอำนาจร้องทุกข์ ผู้ว่าคดีจึงไม่มีอำนาจฟ้อง และนายโฮยกุ๋ยโจทก์ร่วมไม่ใช่ผู้เสียหายย่อมไม่มีอำนาจฟ้องเช่นเดียวกัน พิพากษายกฟ้อง
โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฝ่ายเดียวฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เงินที่นายโฮยกุ๋ยฝากนางนิตยาฯ ไว้นั้นนางนิตยาฯ มีอำนาจที่จะเอาไปใช้จ่ายได้ และมีหน้าที่ต้องคืนเงินให้ครบจำนวน 2,550 บาทแก่นายโฮยกุ๋ยผู้ฝาก การที่นางนิตยาฯจ่ายให้จำเลยไปเพราะจำเลยหลอกลวง ก็ต้องถือว่านางนิตยาฯ เป็นผู้เสียหาย ส่วนนายโฮยกุ๋ยโจทก์ร่วมมิได้ถูกหลอกลวงแต่อย่างใดเลยจึงไม่ใช่เป็นผู้เสียหายจากการกระทำผิดของจำเลย ไม่มีอำนาจร้องทุกข์แต่คดีนี้เป็นคดีที่ยอมความกันได้และไม่ปรากฏว่านางนิตยาผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลย ฉะนั้นผู้ว่าคดีศาลแขวงพระนครใต้โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
พิพากษายืน