โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๓๔๐, ๓๔๐ ตรี ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ รวม ๖๐,๔๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรคสอง, ๓๔๐ ตรี, ๘๓ จำคุก ๑๘ ปี ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์รวม ๖๐,๔๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๘ พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุในฟ้อง มีคนร้าย ๓ คน ร่วมกัน ปล้นทรัพย์เสื้อยืด ๑ ตัว ๔๐๐ บาท ของนายมนตรี หอมหวล ผู้เสียหาย และรถจักรยานยนต์ ๑ คัน ราคา ๖๐,๐๐๐ บาท ของบริษัทแสงฟ้าคาวาซากิ จำกัด ซึ่งอยู่ในความครอบครองของผู้เสียหายไป โดยคนร้ายมีและใช้อาวุธปืนสั้นจี้บังคับ ผู้เสียหายและใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมามีน้ำหนักมั่นคงเชื่อได้ว่า จำเลยเป็น คนร้ายที่ร่วมกับพวกปล้นทรัพย์ของผู้เสียหายตามฟ้อง อย่างไรก็ดี ตามคำขอท้ายคำฟ้อง โจทก์ขอให้จำเลยคืนหรือใช้ ราคาทรัพย์รวม ๖๐,๔๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย แต่ได้ความจากคำเบิกความของนายสาโรจน์พยานโจทก์ตอบทนายจำเลย ถามค้านว่า พยานไปรับรถจักรยานยนต์ที่ถูกปล้นคืนจากสถานีตำรวจภูธรอำเภอคลองท่อมและบริษัทแสงฟ้าคาวาซากิ จำกัด ได้รับรถคันดังกล่าวคืนไปแล้ว ดังนั้น จำเลยจึงควรรับผิดคืนเสื้อยืดหรือใช้ราคาทรัพย์เพียง ๔๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย ปัญหานี้เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้คู่ความมิได้ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้ไขให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๕ วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา ๒๒๕
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ ๔๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ภาค ๘.