โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรับราชการเป็นตำรวจประจำแผนก ๔ กอบกำกับการ ๒ กองตำรวจสันติบาล จำเลยได้ปลอมหนังสือราชการ บันทึกคำให้การผู้ขอหนังสือเดินทางไปต่างประเทศ หน่วยสอบสวนหนังสือเดินทาง กองตำรวจสันติบาล ฉบับลงวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๑๖ โดยจำเลยเขียนข้อความลงในช่องว่างของแบบบันทึกดังกล่าวว่า นายจุ้นฮอง แซ่ล้อ ได้มาให้ถ้อยคำกับจำเลย และจำเลยได้เซ็นชื่อนายจุ้นฮอง แซ่ล้อ ปลอมลงในแบบบันทึกดังกล่าว ทั้งนี้ นายจุ้นฮอง แซ่ล้อ ไม่ได้ไปให้ถ้อยคำกับจำเลย จำเลยทำปลอมขึ้นโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ประชาชน และกรมตำรวจ โดยเจตนาให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารราชการที่แท้จริง โดยนายจุ้นฮอง แซ่ล้อ ได้มาให้ถ้อยคำเช่นนั้น เหตุเกิดที่แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๕
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๔ ให้จำคุก ๑ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยเขียนบันทึกคำให้การของนายจุ้นฮอง แซ่ล้อ โดยมิได้สอบปากคำนายจุ้นฮอง แล้วจำเลยยังได้ลงลายมือชื่อนายจุ้นฮองเองด้วย ซึ่งเป็นการปลอมเอกสารขึ้นทั้งฉบับ เพื่อให้ทางราชการเชื่อว่าเป็นคำให้การของนายจุ้นฮอง แซ่ล้อ โดยแท้จริง ทำให้เสียหายแก่ราชการของกรมตำรวจ และกระทรวงการต่างประเทศ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๔ การที่โจทก์ฟ้องจำเลยให้ลงโทษฐานปลอมเอกสารราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๕ แต่ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาไม่ใช่เอกสารราชการ ศาลก็ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๔ ซึ่งมีอัตราโทษเบากว่าได้ และไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ
พิพากษายืน