ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิรับเงินบำเหน็จชราภาพตามอัตราเดิม แม้มีการเปลี่ยนแปลงประกาศอัตราผลประโยชน์
ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 มาตรา 77 ทวิ กำหนดว่าในกรณีที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเดือนให้มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพตั้งแต่เดือนถัดจากเดือนที่อายุครบห้าสิบห้าปีบริบูรณ์ เว้นแต่เมื่อมีอายุครบห้าสิบห้าปีบริบูรณ์และความเป็นผู้ประกันตนยังไม่สิ้นสุดลงตามมาตรา 38 หรือมาตรา 41 ให้ผู้นั้นมีสิทธิได้รับตั้งแต่เดือนถัดจากเดือนที่ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง และในกรณีที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบไม่ครบหนึ่งร้อยแปดสิบเดือนและความเป็นผู้ประกันตนได้สิ้นสุดลงตามมาตรา 38 หรือมาตรา 41 ให้ผู้นั้นมีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ ดังนั้น สิทธิในการได้รับเงินบำเหน็จชราภาพของโจทก์จึงเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนที่ความเป็นผู้ประกันตนของโจทก์สิ้นสุดลงคือเดือนธันวาคม 2551 ซึ่งขณะที่ความเป็นผู้ประกันตนของโจทก์สิ้นสุดลงนั้นยังอยู่ภายใต้บังคับประกาศสำนักงานประกันสังคม เรื่อง กำหนดอัตราผลประโยชน์ตอบแทนเงินบำเหน็จชราภาพประจำปี พ.ศ.2550 ที่กำหนดให้โจทก์มีสิทธิได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเงินบำเหน็จชราภาพในอัตราร้อยละ 6.30 ต่อปี ของเงินสมทบสุทธิ แม้ต่อมาจะมีการออกประกาศสำนักงานประกันสังคม เรื่อง กำหนดอัตราผลประโยชน์ตอบแทนเงินบำเหน็จชราภาพประจำปี พ.ศ.2551 ในวันที่ 26 มกราคม 2552 ที่กำหนดอัตราผลประโยชน์ตอบแทนเงินบำเหน็จชราภาพเป็นร้อยละ 0.10 ต่อปี และโจทก์ยื่นคำขอรับเงินบำเหน็จชราภาพในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งเป็นวันหลังจากจำเลยออกประกาศเรื่อง กำหนดอัตราผลประโยชน์ตอบแทนเงินบำเหน็จชราภาพประจำปี พ.ศ.2551 ก็ตาม แต่เมื่อประกาศดังกล่าว ข้อ 4 กำหนดว่าผู้ใดมีสิทธิได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเงินบำเหน็จชราภาพอยู่ก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับอยู่เพียงใด ก็ให้มีสิทธิได้รับผลประโยชน์ตอบแทนนั้นต่อไปตามสิทธิ ดังนั้น เมื่อโจทก์มีสิทธิได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเงินบำเหน็จชราภาพในอัตราร้อยละ 6.30 อยู่ก่อนวันที่มีประกาศของจำเลยประจำปี พ.ศ.2551 โจทก์จึงมีสิทธิได้รับผลประโยชน์ตอบแทนดังกล่าวต่อไป