คดีนี้โจทก์จำเลยขอให้ศาลงดสืบข้อเท็จจริงไว้ก่อนโดยขอให้ชี้ขาดในข้อกฎหมายในข้อที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลยตามสัญญากู้ ซึ่งจำเลยแลสามีได้กู้ไปแต่จำเลยตัดฟ้องว่า (๑) สัญญากู้ไม่สมบูรณ์เพราะจำเลยกดลายพิมพ์นิ้วมือไม่มีพะยานลงชื่อรับรอง (๒) สามีจำเลยตายเกือบ ๒ ปี แล้วคดีโจทก์ขาดอายุความ
ศาลเดิมตัดสินให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าข้อตัดฟ้องของจำเลยฟังไม่ขึ้น ให้ศาลเดิมพิจารณาแลตัดสินตามรูปความ
จำเลยฎีกา โจทก์แก้ฎีกาว่าที่ศาลอุทธรณ์สั่งให้พิจารณา ตัดสินเช่นนี้ จำเลยฎีกาไม่ได้ตาม พ.ร.บ. วิธีพิจารณาแพ่ง ม. ๙๖ ข้อ ๑
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้จำเลยฎีกาได้ เพราะศาลเดิมได้พิจารณาตัดสินตามประเด็นที่คู่ความตกลงกันไว้เป็นลำดับมา แม้ศาลอุทธรณ์ตัดสินกลับก็ไม่ทำให้ประเด็นเดิมที่ได้พิจารณาตัดสินแล้วตกไปไม่ แลเห็นว่าการกู้ตามประมวลแพ่ง ม. ๖๕๓ จะเป็นฉะบับใหม่หรือเก่าก็ตาม ต้องทำเป็นหนังสือแลลงลายมือชื่อ แต่สัญญากู้นี้มีแต่ลายพิมพ์นิ้วมือ ไม่มีพะยานลงชื่อรับรองจึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ลงลายมือชื่อในสัญญากู้ สัญญากู้คงผูกพันแต่สามีจำเลยผู้เดียว หาเกี่ยวถึงจำเลยไม่หากโจทก์จะฟ้องคดีนี้ได้ก็แต่ภายใน ๑ ปีแต่โจกท์จะฟ้องคดีนี้ได้ก็แต่ภายใน ๑ ปีแต่โจกท์ฟ้องเกือบ ๒ ปีแล้วคดีขาดอายุความโจทก์ฟ้องไม่ขึ้น จึงตัดสินให้ยกฟ้อง