โจทก์ฟ้องว่า  จำเลยได้ทำสัญญาเช่าท่าเทียบเรือของโจทก์  เมื่อครอบกำหนดตามสัญญาเช่า  ท่าเทียบเรือของโจทก์เสียหายรวมเป็นเงิน ๒,๓๘๐ บาท  ขอให้ศาลบังคับจำเลยให้ซ่อมแซมท่าเทียบเรือให้เรียบร้อยดังเดิม  หรือใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่า  ทรัพย์ต่าง ๆ ตามสัญญา  ได้ส่งมอบให้โจทก์เสร็จสิ้นไปแล้ว  หากมีการเสียหายเกิดขึ้นภายหลังวันสิ้นอายุสัญญาเช่าก็เป็นความผิดของโจทก์  เพราะทรัพย์ที่ส่งมอบเป็นทรัพย์ที่ผุ  เสื่อมสลายตามสภาพแห่งการใช้จำเลยได้ชำระค่าเช่าและให้โจทก์ตรวจดูทรัพย์  ก็ไม่มีทรัพย์อะไรเสียหาย
ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม  ไม่สามารถจเข้าใจสภาพแห่งข้อหาได้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เป็นเงิน ๘๐๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์  ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาปรึกษาแล้ว  คดีมีปัญหาเฉพาะข้อกฎหมาย  เท่าที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาว่า   ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่  ซึ่งจำเลยฎีกาว่า  จำเลยได้ต่อสู้ในคำให้การว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมประเด็นไม่ชัดแจ้งถึงความเสียหาย  ว่าเกิดขึ้นเมื่อใด  ได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า  ข้อความตอนที่ว่าประเด็นไม่ชัดแจ้งถึงความเสียหาย ว่าเกิดขึ้นเมื่อใดนั้น  จำเลยไม่ได้ให้การไว้  เพิ่งจะยกขึ้นมากล่าวอ้างภายหลัง  เป็นการไม่ชอบ  จำเลยให้การเพียงว่า  ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมไม่สามารถจะเข้าใจสภาพแห่งข้อหาได้  โดยมิได้ให้การว่า  ไม่สามารถจะเข้าใจสภาพแห่งข้อหา ข้อไหน อย่างไร คำให้การดังนี้ถือได้ว่า  เป็นคำให้การที่ไม่มีประเด็น  จึงไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาจำเลย.