โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๒ เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๑ ขับรถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ ๑ ไปตามทางการที่จ้างสวนกับรถยนต์บรรทุกของนายจวนซึ่งมีนายศักดิ์เป็นคนขับ จำเลยที่ ๒ ขับโดยประมาท รถจึงกระทบกับรถซึ่งนายศักดิ์เป็นผู้ขับ เป็นเหตุให้นายหมุน บุตรโจทก์ ซึ่งนั่งอยู่ทางขวาของนายศักดิ์ตกจากรถตาย พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ ๒ ตามสำนวนคดีดำที่ ๙๘/๒๕๐๔ จำเลยต้องร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นค่านำศพไปเก็บ ค่าปลงศพ ค่าขาดไร้อุปการะและดอกเบี้ย ขอให้พิพากษาให้จำเลยใช้เงิน
จำเลยให้การต่อสู้คดี
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๒ ได้ถูกฟ้องทางอาญาในเรื่องเดียวกันนี้ ศาลต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาส่วนอาญานั้นว่า จำเลยที่ ๒ กระทำการโดยประมาทด้วย (ในคดีส่วนอาญา ศาลฟังไว้ว่า นายหมุนตายเนื่องจากความประมาทของจำเลยที่ ๒ และนายศักดิ์ด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่าย) จำเลยที่ ๒ จึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ครึ่งหนึ่งคือ ๖,๑๐๐ บาท ทั้งนี้เพราะมิได้ฟ้องนายศักดิ์ด้วย ส่วนจำเลยที่ ๑ นั้นโจทก์ไม่ได้นำสืบว่าจำเลยที่ ๒ กระทำโดยประมาท เพื่อให้จำเลยที่ ๑ ในฐานะนายจ้างต้องร่วมกับผิดแต่จำเลยที่ ๑ นำสืบได้ว่าจำเลยที่ ๒ ไม่ได้ประมาท จำเลยที่ ๑ จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ พิพากษาให้จำเลยที่ ๒ ชำระเงิน ๖,๑๐๐ บาทกับดอกเบี้ยแก่โจทก์ ยกฟ้องเกี่ยวกับจำเลยที่ ๑
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่า ๑.ตามคำพิพากษาในคดีอาญาแดงที่ ๘/๒๕๐๕ (ดำที่ ๙๘/๒๕๐๔) ศาลวินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๒ แต่ฝ่ายเดียวขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้นายหมุนบุตรโจทก์ตาย นายศักดิ์ผู้ขับรถอีกคันหนึ่งมิได้ขับโดยประมาทจึงควรให้จำเลยที่ ๒ ใช้ค่าสินไหมทดแทนเต็มจำนวนไม่ใช่เพียงครึ่งหนึ่งคือ ๖,๑๐๐ บาท ๒.โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ ๑ รับผิดชอบในฐานเป็นนายจ้าง โจทก์นำสืบแต่เพียงว่า จำเลยที่ ๑ เป็นนายจ้างจำเลยที่ ๒ และจำเลยที่ ๒ ขับรถไปในทางการที่จ้าง ก็เพียงพอให้จำเลยที่ ๑ ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๒ แล้ว
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า
๑.ในคดีอาญาแดงที่ ๘/๒๕๐๕ นั้น อัยการโจทก์ได้ระบุในฟ้องและนำสืบว่าจำเลยที่ ๒ ในคดีนี้และนายศักดิ์ ต่างขับรถสวนกันด้วยความประมาทจึงเกิดเหตุ และศาลก็ได้อาศัยข้อเท็จจริงนี้พิพากษาว่า จำเลยที่ ๒ มีความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้คนตาย เห็นได้ว่าศาลมิได้ชี้ขาดว่าจำเลยที่ ๒ กระทำการโดยประมาทแต่ฝ่ายเดียว อัยการโจทก์ก็เป็นผู้ดำเนินคดีอาญาแทนโจทก์ในคดีนี้ ข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ย่อมมีผลผูกพันโจทก์ด้วย จึงไม่มีเหตุที่เปลี่ยนแปลงคำวินิจฉัยที่ให้จำเลยที่ ๒ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพียงครึ่งหนึ่ง
๒.คดีนี้จำเลยที่ ๑ ได้ให้การปฏิเสธว่า จำเลยที่ ๒ มิได้กระทำการโดยประมาท โจทก์ย่อมมีหน้าที่ต้องนำสืบด้วยว่า จำเลยที่ ๒ ได้ขับรถโดยประมาท ข้อเท็จจริงในคดีอาญาแดงที่ ๘/๒๕๐๕ ไม่มีผลผูกพันจำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เมื่อโจทก์ไม่นำสืบ จำเลยที่ ๒ จึงไม่ต้องรับผิด
พิพากษายืน