ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบของจำเลยตาม พ.ร.บ.ศุลกากร: ขอบเขตและข้อจำกัดในการบังคับใช้
หน้าที่นำสืบจะตกอยู่แก่จำเลยตาม ม.100 แห่ง พ.ร.บ.ข้างต้นจะต้องเป็นเรื่องเกี่ยวด้วยผู้ลอบลักหนี้ภาษีขาเข้าและขาออกหรือเป็นผู้สมรู้ในการนี้+เท่านั้นผู้รับซื้อของไว้จากพ่อค้าโดยเปิดเผยถึงแม้ของนั้นจะยังไม่เสียภาษีก็ตามก็หาตกอยู่ในบังคับมาตราข้างต้นนั้นไม่ ซื้อของไว้โดยชื่อไม่ทราบว่าเป็นของยังไม่ได้เสียภาษีไม่มีผิดตาม ม.27 + การที่จะริบของตามม.34 ต้องปรากฎว่าเป็นของที่ได้หลีกเลี่ยงไม่เสียภาษีหรือเป็นของต้องห้ามอย่างใด เมื่อโจทก์สืบไม่สมจะริบของนั้นมิได้ อุทธรณ์ฎีกา โจทก์ยื่นฎีกาครั้งแรกศาลชั้นต้นสั่งไม่รับเพราะฎีกาโจทก์ไม่ได้ระบุข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโดยแจ้งชัด+โจทก์จึงไปทำฎีกามายื่น+ภายในอายุความเช่นนี้ศาลรับไว้พิจารณาได้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิด พ.ร.บ.ศุลกากร และ+ ม.100 มาด้วย ศาลชั้นต้นเชื่อฟังพะยานโจทก์ ศาลอุทธรณ์ไม่ชื่อโจทก์จึงฎีกาว่าเป็นหน้าที่ของจำเลยต้องพิศูจน์ไม่เรียกว่าเป็นข้อกฎหมายที่มิได้ร้องอ้างอิงมาแต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาวินิจฉัยได้