โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ได้ให้จำเลยจัดการให้คนเช่าที่นามีโฉนดของโจทก์และเก็บค่าเช่าแทน พ.ศ. 2493-2494 จำเลยเก็บข้าวค่าเช่าขายไปแต่นำส่งโจทก์เพียงส่วนหนึ่งคงค้างส่งอยู่อีกรวม 5,225 บาท ขอให้บังคับให้จำเลยส่งเงินจำนวนนี้
จำเลยให้การว่าที่นารายนี้เดิมเป็นของหลวงนาถฯ บิดา โจทก์หลวงนาถฯ โอนให้บุตรภรรยา โจทก์เพิ่งรับโอนเมื่อ พ.ศ. 2496 ปีที่โจทก์ฟ้องโจทก์หามีกรรมสิทธิ์เต็มตามโฉนดไม่จำเลยไม่ได้รับมอบให้เป็นผู้จัดการเก็บค่าเช่าแทนโจทก์ ปี พ.ศ.2493 หลวงนาถฯ ให้จำเลยหาคนทำนาถางให้เตียนไม่คิดค่าเช่าปี 2494 ขายข้าวค่าเช่าได้หักค่าใช้จ่ายแล้วส่งให้โจทก์หมด
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า พ.ศ. 2493-2494 โจทก์มีอำนาจฟ้องและเงินค่าเช่ายังอยู่ที่จำเลยอีก 1,710 บาท พิพากษาให้จำเลยส่งเงินนี้ให้โจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะให้หักค่าใช้จ่ายให้จำเลย 135 บาทคงให้ส่งเงินค่าเช่าให้โจทก์ 1,575 บาท
จำเลยฎีกาต่อมาว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ทั้งเป็นเรื่องโจทก์ตั้งจำเลยเป็นตัวแทนจัดการให้คนเช่านา แต่ไม่ได้ทำหนังสือแต่งตั้งจำเลยเป็นตัวแทนจึงฟ้องร้องไม่ได้
ศาลฎีกาเห็นว่าเรื่องนี้โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่จำเลยเก็บค่าเช่านาแล้วไม่ส่งให้โจทก์หรือส่งให้ไม่ครบตามที่จำเลยเรียกเก็บได้เนื้อแท้เป็นเรื่องโจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าเช่านาของโจทก์ที่จำเลยยึดถือไว้โดยไม่มีสิทธิ ฐานที่ตั้งแห่งฟ้องของโจทก์ไม่เกี่ยวข้องกับกรรมสิทธิ์ของที่ดินประการใด คดีจึงไม่มีประเด็นที่จำเลยจะโต้เถียงเลยไปถึงเรื่องกรรมสิทธิ์ของที่ดินได้ ฎีกาของจำเลยข้อนี้เป็นฎีกาคัดค้านความนอกประเด็นแห่งคดีไม่พึงรับฟัง
จำเลยฎีกาอีกว่าตามฟ้องของโจทก์เป็นเรื่องโจทก์ตั้งจำเลยเป็นตัวแทนโจทก์ เช่นนี้โจทก์จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้ ฎีกาของจำเลยข้อนี้ก็เป็นฎีกาคัดค้านความนอกประเด็นแห่งคดีเช่นเดียวกันเพราะฐานที่ตั้งแห่งฟ้องของโจทก์ไม่เกี่ยวข้องกับที่จะให้การที่จะบังคับคดีตามสัญญาเช่าที่ดินซึ่งตัวแทนทำไว้โดยไม่มีอำนาจนั้นแต่ประการใด ฎีกาจำเลยเช่นนี้จึงไม่พึงรับฟังเช่นเดียวกัน พิพากษายืน