พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1187/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำที่เข้าข่ายฉ้อโกงต้องมีการหลอกลวงเป็นสาระสำคัญ การรับว่าจะทำสิ่งใดแล้วไม่ทำไม่ใช่ความผิดฐานฉ้อโกง
โจทก์กล่าวฟ้องว่า จำเลยใช้อุบายหลอกลวงเอาความเท็จมากล่าวแก่ผู้เสียหายว่าจำเลยร้อนเงิน ขอยืมเข็มขัดนาคไปจำนำก่อนเพื่อเอาเงินไปใช้หนี้ วันรุ่งขึ้นจะจัดการไถ่คืนให้ ซึ่งความจริงจำเลยไม่ได้มีเจตนาจะนำเข็มขัดนาคไปจำนำและจัดการไถ่คืนให้ผู้เสียหายดังกล่าว แต่จำเลยมีเจตนาจะเอาเข็มขัดนาคนั้นเสียเลย ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงมอบเข็มขัดนาคของผู้เสียหายให้จำเลยไป แล้วจำเลยเอาเข็มขัดนาคสายนี้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย
การบรรยายฟ้องเช่นนี้ ไม่เป็นฟ้องฐานฉ้อโกง ในฟ้องแสดงเพียงว่าจำเลยรับจะทำอะไรแล้วไม่ทำตามรับเท่านั้น การไม่ทำตามรับเช่นนี้ไม่ใช่ความผิดฐานฉ้อโกง แม้ในฟ้องมีคำว่าจำเลยใช้อุบายหลอกลวง แต่เมื่ออ่านฟ้องโดยตลอดจะพบว่า ไม่มีการหลอกลวงอันเป็นความผิดอาญา.
(ประชุมครั้งใหญ่ 11/2500)
การบรรยายฟ้องเช่นนี้ ไม่เป็นฟ้องฐานฉ้อโกง ในฟ้องแสดงเพียงว่าจำเลยรับจะทำอะไรแล้วไม่ทำตามรับเท่านั้น การไม่ทำตามรับเช่นนี้ไม่ใช่ความผิดฐานฉ้อโกง แม้ในฟ้องมีคำว่าจำเลยใช้อุบายหลอกลวง แต่เมื่ออ่านฟ้องโดยตลอดจะพบว่า ไม่มีการหลอกลวงอันเป็นความผิดอาญา.
(ประชุมครั้งใหญ่ 11/2500)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ทางน้ำในที่ดินส่วนตัว แม้มีผู้ใช้ประโยชน์ต่อเนื่อง ไม่ทำให้เป็นทางสาธารณะ
คลองหรือทางน้ำรายพิพาทได้ขุดขึ้นในที่ดินของเอกชนโดยเจ้าของที่ดินไม่ได้อนุญาตให้เป็นทางสาธารณะการที่มีผู้คนใช้เรือเข้าออกในทางน้ำนี้มานาน หาทำให้ทางน้ำหรือคลองรายพิพาทกลายเป็นทางหลวงหรือทางสาธารณะเสมอไปไม่.
(อ้างฎีกาที่ 123/2483,183/2494)
(อ้างฎีกาที่ 123/2483,183/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1056/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การห้ามชั่วคราวโดยมิได้รับสำเนาคำร้อง หากอีกฝ่ายทราบและแถลงคัดค้านในศาล ถือว่าได้รับแจ้งแล้ว
ในคดีที่มีคำร้องขอให้ห้ามชั่วคราวตาม ม.256 แม้อีกฝ่ายไม่ได้รับสำเนาคำร้องแต่เมื่อได้ทราบคำร้องนั้น ถึงกับได้มาแถลงในคราวศาลนัดพร้อมแล้ว มีผลเท่ากัน.