พบผลลัพธ์ทั้งหมด 698 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4944/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายเวลายื่นอุทธรณ์: เหตุขอคัดเอกสารไม่อาจถือเป็นพฤติการณ์พิเศษ
โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์อ้างว่า โจทก์ขอคัดคำพิพากษาและคำเบิกความพยานโจทก์ไว้แล้ว แต่ยังคัดไม่ได้โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ขวนขวายมาติดต่อเจ้าหน้าที่ศาลอย่างไรหรือไม่ อันจะมีเหตุขัดข้องคัดไม่ได้ทั้งตามคำร้องของโจทก์ถือไม่ได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 23 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15จึงต้องยกคำร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4651/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลาอุทธรณ์ เหตุสุดวิสัย ทนายความเพิ่งได้รับมอบอำนาจและสำเนาคำพิพากษา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากฎีกาไม่ชัดแจ้ง
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ยื่นเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์แล้ว เมื่อไม่ปรากฏว่าเป็นกรณีมีเหตุสุดวิสัยคำร้องขอขยายระยะเวลาจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 การที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าศาลชั้นต้นใช้เวลาพิจารณาพิพากษา2 ปี จำเลยที่ 1 แต่งทนายความชั้นอุทธรณ์ในระยะกระชั้นชิดทนายจำเลยที่ 1 ไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ในระยะเวลาได้ จึงเป็นเหตุสุดวิสัยนั้น ไม่ได้โต้แย้งคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ว่าไม่ถูกต้องด้วยข้อเท็จจริง หรือข้อกฎหมายประการใดบ้าง จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3524/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมศาลและการใช้อำนาจทั่วไปของศาลฎีกาเพื่อแก้ไขปัญหา
ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์อุทธรณ์อย่างคนอนาถา แต่ให้นำเงินค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์มาวางศาลภายใน 15 วัน ต่อมาโจทก์ขอขยายเวลาไปอีก 60 วัน ศาลชั้นต้นอนุญาตเพียง 15 วันศาลอุทธรณ์พิพากษายืน เมื่อศาลอุทธรณ์มิได้สั่งในเรื่องกำหนดระยะเวลาให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์มาวางศาล และตามฎีกาโจทก์เป็นเรื่องขอให้ศาลฎีกาใช้อำนาจทั่วไปที่มีอยู่กำหนดเวลาชำระค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ให้ใหม่ด้วย ศาลฎีกาย่อมเห็นสมควรให้เวลาแก่โจทก์ได้มีโอกาสวางเงินค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3015/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลายื่นฎีกา: เหตุสุดวิสัยต้องเป็นเหตุการณ์ภายนอกควบคุมมิใช่ความบกพร่องของคู่ความและทนาย
จำเลยที่ 2 แต่งทนายความให้มีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาใช้สิทธิในการฎีกาแทนได้ การที่ทนายความติดต่อกับจำเลยที่ 2ไม่ได้เพราะจำเลยที่ 2 เดินทางไปค้าขายและไปล้มป่วยที่ต่างจังหวัดก็เป็นความผิดพลาดบกพร่องของจำเลยที่ 2 กับทนายความเอง ถือไม่ได้ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษอันศาลจะพึงขยายระยะเวลาการยื่นฎีกาให้จำเลยที่ 2 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2294/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตวางค่าธรรมเนียมฎีกาหลังพ้นกำหนด ศาลชี้เป็นการสั่งขยายเวลา ไม่ใช่คำสั่งรับ/ไม่รับฎีกา ต้องอุทธรณ์ตามลำดับชั้น
ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยที่ 1 วางเงินค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาและค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แทนโจทก์ เพราะวางเมื่อพ้นกำหนดฎีกา เป็นคำสั่งเกี่ยวกับการขอขยายระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 หาใช่การสั่งเกี่ยวกับการรับหรือไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ไม่ หากจำเลยที่ 1 ประสงค์จะคัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าว ก็ชอบที่จะอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ไปตามลำดับชั้นศาล ไม่มีบทกฎหมายใดให้อำนาจจำเลยที่ 1ฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวโดยตรงต่อศาลฎีกาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2012/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายนัดและการแจ้งภูมิลำเนา การไม่แจ้งย้ายที่อยู่ไม่ถือเป็นเหตุสุดวิสัยในการขยายเวลาฎีกา
เจ้าหน้าที่ศาลส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปให้โจทก์ณ บ้านเลขที่ตามคำฟ้องโดยวิธีปิดหมายตามคำสั่งศาล แม้โจทก์จะย้ายไปรับราชการต่างจังหวัด แต่เมื่อไม่ปรากฏหลักฐานว่า โจทก์ได้ย้ายทะเบียนบ้านและครอบครัวไปด้วยดังนี้ ถือว่าโจทก์มีถิ่นที่อยู่หลายแห่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 45(เดิม) การส่งหมายนัดดังกล่าวจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 74และมาตรา 79 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 แล้ว การที่โจทก์ย้ายไปรับราชการในต่างจังหวัดและมิได้อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ตามฟ้อง ทำให้โจทก์ไม่ทราบวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นั้น ไม่ใช่เหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมาย-วิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นฎีกาข้ามกำหนด: เหตุขยายเวลาต้องเป็นพฤติการณ์พิเศษที่ไม่อาจกะเกณฑ์ได้
โจทก์ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วันที่ 19 สิงหาคม 2534 โจทก์ไม่ทำฎีกาและคำร้องยื่นขอให้ผู้พิพากษาผู้พิจารณาคดีอนุญาตให้ฎีกาจนเหลือเวลาอีกเพียง 2 วัน จะครบกำหนดยื่นฎีกา จึงมายื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาออกไปอีก 25 วัน นับแต่วันครบกำหนดอ้างว่าผู้พิพากษาผู้พิจารณาคดีในศาลชั้นต้นย้ายไปรับราชการที่ศาลอื่น ทั้งที่ปรากฏว่าผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีอีกนายหนึ่งยังรับราชการอยู่ที่ศาลชั้นต้นนั้นแม้โจทก์ประสงค์จะให้ผู้พิพากษาที่ย้ายไปเป็นผู้อนุญาตให้ฎีกา ระยะเวลาหนึ่งเดือนก็เพียงพอที่จะดำเนินการได้ทันหากโจทก์รีบจัดการเสียแต่เมื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ข้ออ้างของโจทก์จึงถือไม่ได้ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษไม่เป็นเหตุที่จะขยายระยะเวลายื่นฎีกาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลาฎีกาต้องมีพฤติการณ์พิเศษ การอ้างเหตุผู้พิพากษาโยกย้ายไม่เพียงพอ
การขอขยายระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ใน ป.วิ.พ. หรือตามที่ศาลกำหนดไว้ หรือตามกฎหมายอื่นให้พึงทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษโจทก์ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 วันที่ 19 สิงหาคม 2534 แต่ไม่ทำฎีกาและยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษาผู้พิจารณาคดีอนุญาตให้ฎีกาจนเวลาล่วงเลยไปถึงวันที่ 17 กันยายน 2534 ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 2 วันจะครบกำหนดยื่นฎีกากลับมายื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกาอ้างว่าผู้พิพากษาผู้พิจารณาคดีในศาลชั้นต้นย้ายไปรับราชการศาลอื่น ทั้งที่ปรากฏว่าผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีอีกนายยังรับราชการที่ศาลชั้นต้นนั้นเอง และถึงแม้โจทก์จะให้ผู้พิพากษาที่ย้ายไปเป็นผู้อนุญาตให้ฎีกา ระยะเวลาภายในหนึ่งเดือนก็เพียงพอที่จะดำเนินการหากโจทก์รีบจัดการเสียแต่เนิ่น ๆ ข้ออ้างดังกล่าวของโจทก์ถือไม่ได้ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษ จึงไม่เป็นเหตุที่จะขยายระยะเวลาฎีกาให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4146/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายต้องยื่นภายในกำหนดตามกฎหมาย แม้มีการดำเนินคดีล้มละลายซ้อน
ได้มีการประกาศโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยที่ 1 เด็ดขาดในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2532 ซึ่งถือว่าทุกคนไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือบุคคลภายนอกรวมทั้งผู้ร้องในคดีนี้ทราบว่าจำเลยที่ 1 ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตั้งแต่วันดังกล่าวแล้วแม้ผู้ร้องจะฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นคดีล้มละลายอีกคดีหนึ่งก่อนวันนั้นจนศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดจำเลยที่ 1 อีกก็ตาม ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นที่ผู้ร้องจะไม่ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดสองเดือนนับแต่วันที่ 7กุมภาพันธ์ 2532 ทั้งไม่อาจถือเป็นพฤติการณ์พิเศษหรือเหตุสุดวิสัยที่จะขยายระยะเวลาโดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 23 ได้ และหากผู้ร้องจะยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีนี้ในระหว่างที่ผู้ร้องดำเนินคดีล้มละลายกับจำเลยที่ 1 อีกคดีหนึ่งอยู่ ก็ไม่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้อน เพราะการขอรับชำระหนี้เป็นคนละเรื่องกับการดำเนินคดีล้มละลาย ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้และขอขยายกำหนดเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2532 ซึ่งพ้นกำหนดสองเดือนนับแต่วันประกาศโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้วเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ชอบที่จะสั่งยกคำขอรับชำระหนี้ และคำร้องขอขยายกำหนดเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้ของผู้ร้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3522/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายเวลาอุทธรณ์ต้องมีเหตุพิเศษ การไม่ดำเนินการโดยทนายโจทก์ถือเป็นความบกพร่องของผู้ฟ้อง
การที่ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอขยายเวลาอุทธรณ์ในวันครบกำหนดอุทธรณ์โดยอ้างว่า ตัวโจทก์ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่กรุงเทพมหานครขณะศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาคดีนี้ ตัวโจทก์เดินทางไปต่างประเทศจึงไม่ทราบคำพิพากษา คดีมีทุนทรัพย์สูง ตัวโจทก์ต้องพิจารณาปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตลอดจนตระเตรียมค่าฤชาธรรมเนียมนั้น เมื่อทนายโจทก์สามารถดำเนินคดีแทนโจทก์ได้อยู่แล้ว หากจะอุทธรณ์คำพิพากษาไปก่อนโดยขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมเพื่อรอตัวโจทก์ก็อาจกระทำได้ แต่ก็มิได้ขวนขวายกระทำ การที่โจทก์ไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ในกำหนดจึงเป็นเพราะความบกพร่องของตัวโจทก์และทนายโจทก์ มิใช่พฤติการณ์พิเศษที่จะยกขึ้นมากล่าวอ้างเพื่อขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 23