คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1385

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 30 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการครอบครองปรปักษ์ในที่ดินมีข้อห้ามโอนสิทธิ การนับระยะเวลาครอบครองต้องพ้นระยะห้ามโอน
ผู้คัดค้านได้สละการครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่ผู้ร้องตั้งแต่วันทำหนังสือสัญญาซื้อขาย แต่ที่พิพาทมีข้อบังคับห้ามโอนภายใน 10 ปี นับแต่วันที่ผู้คัดค้านได้รับโฉนดที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 31 แสดงว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ดินที่ทางราชการจัดให้ราษฎรทำกินบทบัญญัติดังกล่าวมีเจตนาจะปกป้องราษฎรให้มีที่ทำกินเป็นเวลาอย่างน้อย 10 ปี และภายในระยะเวลาดังกล่าวทางราชการได้ควบคุมที่ดินนี้อยู่ ยังไม่ปล่อยให้เป็นสิทธิเด็ดขาดแก่ผู้คัดค้านจึงไม่อาจสละหรือโอนการครอบครองที่ดินตามหนังสือสัญญาซื้อขายให้แก่ผู้ร้องได้ ทั้งผู้ร้องจะเอาระยะเวลาการครอบครองซึ่งอยู่ภายในข้อบังคับห้ามโอนกรรมสิทธิ์มารวมคำนวณเป็นระยะเวลาครอบครองปรปักษ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1382 หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 803/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านจากการครอบครองปรปักษ์และการยกให้ โดยพิจารณาผลกระทบต่อสิทธิของโจทก์และจำเลย
หลังจาก ต. มารดาได้ลงชื่อโจทก์จำเลยและ ป. ซึ่งเป็นบุตรทั้งสาม เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดินในปี 2511 แล้ว ต.มารดาก็ยังคงครอบครองบ้านพิพาทอย่างเป็นเจ้าของแต่ผู้เดียวต่อไป แม้บ้านพิพาทจะเป็นส่วนควบของที่ดินซึ่งกรรมสิทธิ์ในบ้านจะเป็นของโจทก์จำเลยและ ป. ด้วยโดยผลของกฎหมายและ ต. มารดาไม่ทราบการครอบครองบ้านพิพาทของ ต.มารดาก็เป็นการครอบครองโดยปรปักษ์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ในส่วนของโจทก์จำเลยและ ป. ก่อนที่ ต.มารดาจะถึงแก่ความตายได้ยกบ้านพิพาทให้จำเลยซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านพิพาทอยู่แล้ว การที่จำเลยอยู่ในบ้านพิพาทต่อมาจำเลยย่อมครอบครองบ้านพิพาทโดยเจตนาเป็นเจ้าของต่อจาก ต. มารดา เมื่อรวมระยะเวลาครอบครองเกิน10 ปีแล้ว บ้านพิพาทย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยแต่ผู้เดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1336/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระจำยอมโดยการใช้ต่อเนื่องเกิน 10 ปี สิทธิในภาระจำยอมตกสู่ผู้รับโอน
เจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 2676 คนเดิม ได้ใช้ทางเดินผ่านเข้าออกในที่ดินจำเลยกับพวกโฉนดเลขที่ 1683 ออกไปสู่ทางสาธารณะเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วโดยไม่มีผู้ใดโต้แย้งขัดขวาง ทางพิพาทก็ตกอยู่ในภาระจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 2676 เมื่อที่ดินแปลงดังกล่าวโอนมาเป็นของโจทก์ที่ 1 สิทธิในภาระจำยอมย่อมตกมาเป็นของโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 1 และผู้อยู่ในที่ดินดังกล่าวย่อมมีสิทธิใช้ทางพิพาท จำเลยไม่มีสิทธิห้ามมิให้ใช้ทางพิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลือกตั้งสมาคม: สถานที่จัดและผู้มีอำนาจออกหนังสือแจ้งการประชุม
การที่จำเลยที่ 1 กับพวกไม่ได้จัดให้มีการเลือกตั้งขึ้น ในที่ทำการของสมาคมเป็นเพราะมีเหตุจำเป็นเนื่องจากคณะกรรมการสมาคมชุดอื่นเป็นฝ่ายครอบครองอาคารที่ทำการ ของสมาคมอยู่ หากเข้าไปจัดในสถานที่นั้นอาจมีเรื่องวิวาทบาดหมางเกิดขึ้นได้ ห้องประชุมของสมาคมก็เล็กไม่เหมาะสำหรับใช้เป็นที่ประชุมใหญ่ซึ่งมีจำนวนสมาชิกมาก ทั้งเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติก็แจ้งว่า สถานที่ใด ซึ่งสมาคมเช่าไว้ก็ใช้เป็นสถานที่สำหรับทำการเลือกตั้งได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นที่ตั้งของสมาคมเสมอไปเห็นได้ว่าข้อบังคับของสมาคมในข้อนี้ไม่ใช่เป็นข้อบังคับอันเด็ดขาด หากมีความจำเป็นหรือเพื่อความเหมาะสมก็อาจใช้สถานที่อื่นเป็นที่ทำการเลือกตั้งได้ทั้งไม่ปรากฏว่าโจทก์และสมาชิกอื่นได้รับความเสียหาย จึงยังถือไม่ได้ว่าการเลือกตั้งไม่ชอบเพราะเหตุที่ไม่ได้จัดให้มีขึ้นในที่ทำการของสมาคม
ตามระเบียบของสมาคมระบุให้การออกหนังสือแจ้งวันนัดประชุมใหญ่แก่สมาชิกเป็นหน้าที่ของกรรมการและเลขานุการแต่เลขานุการติดธุระ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นอุปนายกของสมาคมจึงทำการแทน และจำเลยที่ 1 ลงนามในหนังสือดังกล่าวในฐานะรักษาการแทนเลขานุการสมาคม จึงถือได้ว่าการออกหนังสือดังกล่าวเป็นการออกโดยเลขานุการของสมาคมตามข้อบังคับของสมาคมการเลือกตั้งคณะกรรมการสมาคมได้ดำเนินการไปโดยชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับของสมาคมแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลือกตั้งสมาคม: การเลือกสถานที่และผู้มีอำนาจออกหนังสือแจ้งการประชุม
การที่จำเลยที่ 1 กับพวกไม่ได้จัดให้มีการเลือกตั้งขึ้นในที่ทำการของสมาคมเป็นเพราะมีเหตุจำเป็นเนื่องจากคณะกรรมการสมาคมชุดอื่นเป็นฝ่ายครอบครองอาคารที่ทำการของสมาคมอยู่ หากเข้าไปจัดในสถานที่นั้นอาจมีเรื่องวิวาทบาดหมางเกิดขึ้นได้ ห้องประชุมของสมาคมก็เล็กไม่เหมาะสำหรับใช้เป็นที่ประชุมใหญ่ซึ่งมีจำนวนสมาชิกมาก ทั้งเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติก็แจ้งว่า สถานที่ใดซึ่งสมาคมเช่าไว้ก็ใช้เป็นสถานที่สำหรับทำการเลือกตั้งได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นที่ตั้งของสมาคมเสมอไปเห็นได้ว่าข้อบังคับของสมาคมในข้อนี้ไม่ใช่เป็นข้อบังคับอันเด็ดขาด หากมีความจำเป็นหรือเพื่อความเหมาะสมก็อาจใช้สถานที่อื่นเป็นที่ทำการเลือกตั้งได้ ทั้งไม่ปรากฏว่าโจทก์และสมาชิกอื่นได้รับความเสียหาย จึงยังถือไม่ได้ว่าการเลือกตั้งไม่ชอบเพราะเหตุที่ไม่ได้จัดให้มีขึ้นในที่ทำการของสมาคม
ตามระเบียบของสมาคมระบุให้การออกหนังสือแจ้งวันนัดประชุมใหญ่แก่สมาชิกเป็นหน้าที่ของกรรมการและเลขานุการ แต่เลขานุการติดธุระ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นอุปนายกของสมาคมจึงทำการแทน และจำเลยที่ 1 ลงนามในหนังสือดังกล่าวในฐานะรักษาการแทนเลขานุการสมาคม จึงถือได้ว่าการออกหนังสือดังกล่าวเป็นการออกโดยเลขานุการของสมาคมตามข้อบังคับของสมาคม การเลือกตั้งคณะกรรมการสมาคมได้ดำเนินการไปโดยชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับของสมาคมแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1991/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองตามมาตรา 1382 กรณีวัดได้รับที่ดินยกให้ก่อนจดทะเบียนเป็นวัด
วัดโจทก์เข้าครอบครองที่ดินพิพาทด้วยความสงบ เปิดเผยและด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตั้งแต่ยังเป็นเสนาสนะอันมีพระสงฆ์พำนักอยู่เป็นประจำและยังไม่มีประกาศของกระทรวงศึกษาธิการตั้งขึ้นเป็นวัดในพระพุทธศาสนาเมื่อนับเวลาดังกล่าวรวมเข้ากับระยะเวลาตั้งแต่มีประกาศกระทรวงศึกษาธิการตั้งเป็นวัดขึ้นในพระพุทธศาสนาจนถึงวันฟ้องเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปีวัดโจทก์จึงได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทโดยการครอบครองตาม มาตรา 1382
ถ้อยคำว่า 'วัดสุคันธารามหรือวัดหนองชะอม โดยพระอธิการเจริญจากวโรเจ้าอาวาสขอมอบให้จ่าสิบเอกนิติอิ่มจิตต์เป็นผู้มีอำนาจฟ้อง' นั้นถูกต้องชัดเจน แต่ข้อความว่าพระอธิการเจริญ เจ้าอาวาสวัดสุคันธารามมอบอำนาจให้จ่าสิบเอกนิติฟ้องจำเลยในคดีแพ่งเรื่องธรณีสงฆ์ก็เข้าใจได้ว่ามอบอำนาจในฐานะผู้แทนนิติบุคคล มิได้แสดงว่าพระอธิการเจริญมอบอำนาจในฐานะส่วนตัว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1369/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมโดยอายุความ: การใช้ทางเดินต่อเนื่องเกิน 10 ปี ทำให้เกิดสิทธิ
ผู้ซื้อที่ดินนับเวลาใช้ทางเดินเป็นภารจำยอมรวมกับที่ผู้ขายที่ดินใช้มาก่อนเป็นเวลาเกิน 10 ปี จึงได้สิทธิโดยอายุความได้
ฟ้องขอให้เปิดทางภารจำยอมยาวประมาณ 50 เมตร ได้ความตามแผนที่วิวาทที่ทำในการพิจารณาคดีว่ายาว 56 เมตรศาลพิพากษาให้เปิดทางตามที่พิจารณาได้ความ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1295/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต่อเนื่องจากผู้ครอบครองเดิม สิทธิครอบครองไม่ขาดอายุ แม้ไม่ได้จดทะเบียน
บุตรรับโอนที่ดินมาจากบิดามารดา ในระหว่างที่บิดามารดาครอบครอง ได้แลกทำนาที่นาโอนนั้นกับที่นาของบุคคลภายนอก โดยไม่ใช่เป็นการแลกเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ ดังนี้ ถือว่าบุคคลภายนอกทำนาที่นาที่โอนนั้นโดยอาศัยสิทธิของบิดามารดา เท่ากับบิดามารดาเป็นผู้ครอบครอง ย่อมนับเวลานั้นเข้ากับเวลาครอบครองของบุตรผู้รับโอนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1385
แม้จะไม่ได้แจ้งการครอบครองหรือเสียภาษีบำรุงท้องที่ที่ดินที่ครอบครองปรปักษ์ก็ไม่ทำให้สิทธิครอบครองของผู้ครอบครองปรปักษ์เสียไป
ผู้ซื้อที่ดินโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต ถูกแย่งการครอบครองเกินกว่า 10 ปี จะยกเหตุที่ผู้ครอบครองปกปักษ์ไม่ได้จดทะเบียนสิทธิขึ้นกล่าวอ้างหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1295/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต่อเนื่องและการโอนสิทธิโดยมิได้มีการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครองยังคงต่อเนื่อง
บุตรรับโอนที่ดินนาจากบิดามารดา ในระหว่างที่บิดามารดาครอบครองได้แลกทำนาที่นาที่โอนนั้นกับที่นาของบุคคลภายนอก โดยไม่ใช่เป็น การแลกเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ ดังนี้ถือว่าบุคคลภายนอกทำนาที่นาที่โอนนั้นโดยอาศัยสิทธิของบิดามารดา เท่ากับบิดามารดาเป็นผู้ครอบครอง ย่อมนับเวลา นั้นเข้ากับเวลาครอบครองของบุตรผู้รับโอนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1385
แม้จะไม่ได้แจ้งการครอบครองหรือเสียภาษีบำรุงท้องที่ที่ดิน ที่ครอบครองปรปักษ์ ก็ไม่ทำให้สิทธิครอบครองของผู้ครอบครองปรปักษ์เสียไป
ผู้ซื้อที่ดินโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตถูกแย่งการครอบครองเกินกว่า 10 ปี จะยกเหตุที่ผู้ครอบครองปรปักษ์ไม่ได้จดทะเบียนสิทธิขึ้นกล่าวอ้างหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1647/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์และการรับรองเอกสารมหาชน
บัญชีบันทึกคำร้องทุกข์ของประชาชนและคำเปรียบเทียบของพนักงานผู้มีหน้าที่เป็นหลักฐานเก็บไว้ที่อำเภอ เป็นเอกสารมหาชน เมื่ออำเภอได้ส่งสำเนาเอกสารซึ่งมีพนักงานเจ้าหน้าที่รับรองถูกต้องไปยังศาลตามที่ถูกอ้าง ก็ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าสำเนาเอกสารที่ส่งไปนั้นเป็นของแท้จริงและถูกต้อง ไม่จำเป็นต้องอ้างเจ้าหน้าที่ที่รับรองสำเนานั้นมาเป็นพยานเบิกความรับรองอีก
เจ้าของที่ดินเดิมกับพวกได้ครอบครองที่พิพาทซึ่งเป็นที่ข้างเคียงมาโดยความสงบและเปิดเผยอย่างเป็นเจ้าของติดต่อกันมาเกินกว่า 10 ปี จึงได้กรรมสิทธิ์โดยทางครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 จำเลยได้รับโอนที่ดินมารวมทั้งที่พิพาทจากผู้ครอบครองโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน และได้ครอบครองที่พิพาทสืบต่อมาจากผู้ครอบครอง จึงยกอายุความครอบครองขึ้นยันโจทก์ผู้เป็นเจ้าของที่พิพาทได้
of 3