พบผลลัพธ์ทั้งหมด 34 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำเลยในคดีพนันซ้ำ ขณะยังอยู่ในระยะรอการลงโทษ
จำเลยต้องโทษตาม พระราชบัญญัติการพนันและศาลให้รอการลงโทษไว้ต่อมายังไม่ครบ 3 ปี จำเลยกระทำผิดต่อ พระราชบัญญัติการพนันอีก จะเพิ่มโทษจำเลยตาม พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา14ทวิ ยังไม่ได้ เพราะยังถือไม่ได้ว่าพ้นโทษไปแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1601/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษปรับแทนการจำคุก และผลกระทบต่อการรอการลงอาญา รวมถึงการเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบ
การที่ศาลวางโทษจำคุกจำเลยแต่ให้ยกโทษจำคุกเสียคงปรับสถานเดียวไม่เรียกว่าลงโทษจำคุกจำเลย ดังนี้ จึงยกโทษจำคุกที่เคยรอการลงอาญาไว้มาลงแก่จำเลยไม่ได้ และเมื่อปรากฏว่าจำเลยยังอยู่ในระหว่างรอการลงอาญายังเรียกไม่ได้ว่าพ้นโทษมาแล้ว จึงเพิ่มโทษจำเลยฐานไม่เข็ดหลาบตามมาตรา72 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1601/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกโทษจำคุกที่รอการลงอาญาและการเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบ ต้องมีโทษจำคุกจริงและพ้นโทษคดีก่อน
การที่ศาลวางโทษจำคุกจำเลยแต่ให้ยกโทษจำคุกเสียคงปรับสถานเดียวไม่เรียกว่าลงโทษจำคุกจำเลยดังนี้ จึงยกโทษจำคุกที่เคยรอการลงอาญาไว้มาลงแก่จำเลยไม่ได้ และเมื่อปรากฎว่าจำเลยยังอยู่ในระหว่างรอการลงอาญายังเรียกไม่ได้ว่าพ้นโทษมาแล้ว จึงเพิ่มโทษจำเลยฐานไม่เข็ดหลาบตามมาตรา 32 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำคุกเดิมและการพิจารณาโทษที่รอการลงโทษตามมาตรา 42 และ 72
จำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกและปรับ แต่โทษจำคุกรอการลงอาญาไว้ เช่นนี้ ศาลจะเพิ่มโทษจำเลยในคดีหลังตามมาตรา 42 ที่แก้ไขใหม่ไม่ได้เพราะไม่ได้ระบุไว้เป็นพิเศษเช่นของเดิมและจะเพิ่มโทษตามมาตรา 72 ก็ไม่ได้ เพราะโทษที่รอไว้ยังไม่ได้รับจริง ไม่เรียกว่าพ้นโทษไปแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำเลยที่มีโทษรอการลงโทษ และหลักเกณฑ์การเพิ่มโทษตามกฎหมายอาญา
จำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกและปรับ แต่โทษจำคุกรอการลงอาญาไว้ เช่นนี้ ศาลจะเพิ่มโทษจำเลยในคดีหลังตามมาตรา 42 ที่แก้ไขใหม่ไม่ได้ เพราะไม่ได้ระบุไว้เป็นพิเศษเช่นของเดิมและจะเพิ่มโทษตามมาตรา 72 ก็ไม่ได้ เพราะโทษที่รอไว้ยังไม่ได้รับจริง ไม่เรียกว่าพ้นโทษไปแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1859/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษคดีหลังเมื่อมีโทษคดีก่อนรอการลงอาญา: มาตรา 72 และ 42 แก้ไขเพิ่มเติม
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะอาญา(ฉบับที่ 14)2494ซึ่งมีความตอนหนึ่งว่า "ให้....บวกโทษที่รอการลงอาญาไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีหลัง" นั้น ความตอนนี้ย่อมมีความมุ่งหมายเช่นเดียวกับมาตรา 42 ของเดิมนั้นเอง คือให้ลงโทษที่รอการลงอาญาไว้ในคดีก่อนเป็นโสดหนึ่งต่างหากจากโทษที่จำเลยจะต้องรับสำหรับความผิดครั้งหลัง
แต่ในเรื่องเพิ่มโทษตามมาตรา 72 นั้น ในกรณีรอการลงอาญา มาตรา 42 ที่แก้ไขใหม่ หาได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้เพิ่มโทษได้ดุจมาตรา 42 ของเดิมไม่ฉะนั้นเมื่อโทษในคดีเดิมถูกรอการลงอาญาไว้ จำเลยจึงหาได้ถูกจำคุกและพ้นโทษจำคุกในคดีก่อนแล้วมากระทำผิดในคดีใหม่นี้อีกไม่ จึงจะเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 72 ไม่ได้
แต่ในเรื่องเพิ่มโทษตามมาตรา 72 นั้น ในกรณีรอการลงอาญา มาตรา 42 ที่แก้ไขใหม่ หาได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้เพิ่มโทษได้ดุจมาตรา 42 ของเดิมไม่ฉะนั้นเมื่อโทษในคดีเดิมถูกรอการลงอาญาไว้ จำเลยจึงหาได้ถูกจำคุกและพ้นโทษจำคุกในคดีก่อนแล้วมากระทำผิดในคดีใหม่นี้อีกไม่ จึงจะเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 72 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1857/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 72 กรณีรอการลงอาญา: ศาลฎีกาตัดสินว่าไม่สามารถเพิ่มโทษได้หากจำเลยยังไม่ได้รับโทษจำคุก
พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ก.ม.ลักษณะอาญา ( ฉะบับที่ 14 ) 2494 ซึ่งมีความตอนหนึ่งว่า " ให้...บวกโทษที่รอการลงอาญาไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีหลัง " นั้น ความตอนนี้ย่อมมีความมุ่งหมายเช่นเดียวกับมาตรา 42 ของเดิมนั้นเอง คือให้ลงโทษที่รอการอาญาไว้ในคดีก่อนเป็นโสดหนึ่งต่างหากจากโทษที่จำเลยจะต้องรับสำหรับความผิดครั้งหลัง
แต่ในเรื่องเพิ่มโทษตามมาตรา 72 นั้น ในกรณีรอการลงอาญา มาตรา 42 ที่แก้ไขใหม่ หาได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้เพิ่มโทษได้ดุจมาตรา 42 ของเดิมไม่ ฉะนั้นเมื่อในคดีเดิมถูกรอการลงอาญาไว้ จำเลยจึงหาได้ถูกจำคุกและพ้นโทษจำคุกในคดีก่อนแล้วมากระทำผิดในคดีใหม่นี้อีกไม่ จึงจะเพิ่มโทษจำเลยมาตรา 72 ไม่ได้
แต่ในเรื่องเพิ่มโทษตามมาตรา 72 นั้น ในกรณีรอการลงอาญา มาตรา 42 ที่แก้ไขใหม่ หาได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้เพิ่มโทษได้ดุจมาตรา 42 ของเดิมไม่ ฉะนั้นเมื่อในคดีเดิมถูกรอการลงอาญาไว้ จำเลยจึงหาได้ถูกจำคุกและพ้นโทษจำคุกในคดีก่อนแล้วมากระทำผิดในคดีใหม่นี้อีกไม่ จึงจะเพิ่มโทษจำเลยมาตรา 72 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1611-1613/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเพียงพอของฟ้องอาญา และการพิจารณาบาดแผลถึงทุพพลภาพเพื่อลงโทษทางอาญา
ฟ้องบรรยายว่า จำเลยบังอาจสมคบกันใช้กำลังกายโดยใช้มือกอดรัดคอ ตบ ตี ชก และข้อศอกตีและใช้เท้าเตะกลุ้มรุมทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ฯลฯ ดังนี้ เป็นการบรรยายข้อเท็จจริงพอสมควรเท่าที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 แล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ถูกทำร้ายมีบาดแผล 4 แห่ง คือ หน้าผากเหนือคิ้วขวาเป็นรอยขีดหนังขาดโลหิตชับ ที่ใต้ตาขวาฟกช้ำหนังกำพร้าขาดโลหิตชับเหนือคิ้วซ้ายมีรอยฟกบวมเล็กน้อยกับที่ต้นคอและบ่าซ้ายบวมอักเสบและที่ข้อไหล่ซ้ายเคล็ดใช้แขนไม่สดวกอีกแห่งหนึ่ง บาดแผลหลังนี้ต้องรักษาอยู่เดือนเศษจึงหาย เรียกได้ว่ามีอาการถึงทุพพลภาพ จึงเป็นบาดเจ็บตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 254
ก.ม.ลักษณะอาญาแก้ไขเพิ่มเติมฉะบับที่ 14 พ.ศ.2494 ที่แก้ไขมาตรา 41,42 นั้น ไม่มีการเพิ่มโทษสำหรับที่ถูกรอการลงอาญาไว้ และการที่จะนำโทษเก่ามาบวกกับโทษใหม่ตามมาตรา 42 นั้น โทษครั้งใหม่ที่จำเลยได้รับต้องเป็นโทษจำคุกด้วย
ถูกทำร้ายมีบาดแผล 4 แห่ง คือ หน้าผากเหนือคิ้วขวาเป็นรอยขีดหนังขาดโลหิตชับ ที่ใต้ตาขวาฟกช้ำหนังกำพร้าขาดโลหิตชับเหนือคิ้วซ้ายมีรอยฟกบวมเล็กน้อยกับที่ต้นคอและบ่าซ้ายบวมอักเสบและที่ข้อไหล่ซ้ายเคล็ดใช้แขนไม่สดวกอีกแห่งหนึ่ง บาดแผลหลังนี้ต้องรักษาอยู่เดือนเศษจึงหาย เรียกได้ว่ามีอาการถึงทุพพลภาพ จึงเป็นบาดเจ็บตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 254
ก.ม.ลักษณะอาญาแก้ไขเพิ่มเติมฉะบับที่ 14 พ.ศ.2494 ที่แก้ไขมาตรา 41,42 นั้น ไม่มีการเพิ่มโทษสำหรับที่ถูกรอการลงอาญาไว้ และการที่จะนำโทษเก่ามาบวกกับโทษใหม่ตามมาตรา 42 นั้น โทษครั้งใหม่ที่จำเลยได้รับต้องเป็นโทษจำคุกด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1611-1613/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา, บาดเจ็บสาหัส, และการเพิ่มโทษจำคุกสำหรับผู้เคยได้รับรอการลงโทษ
ฟ้องบรรยายว่า จำเลยบังอาจสมคบกันใช้กำลังกายโดยใช้มือกอดรัดคอ ตบ ตี ชก และข้อศอกตีและใช้เท้าเตะกลุ้มรุมทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ฯลฯ ดังนี้ เป็นการบรรยายข้อเท็จจริงพอสมควรเท่าที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ถูกทำร้ายมีบาดแผล 4 แห่ง คือ หน้าผากเหนือคิ้วขวาเป็นรอยขีดหนังขาดโลหิตซับ ที่ใต้ตาขวาฟกช้ำหนังกำพร้าขาดโลหิตซับ เหนือคิ้วซ้ายมีรอยฟกบวมเล็กน้อย กับที่ต้นคอและบ่าซ้ายช้ำบวมอักเสบและที่ข้อไหล่ซ้ายเคล็ดใช้แขนไม่สะดวกอีกแห่งหนึ่ง บาดแผลหลังนี้ต้องรักษาอยู่เดือนเศษจึงหาย เรียกได้ว่ามีอาการถึงทุพพลภาพ จึงเป็นบาดเจ็บตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254
กฎหมายลักษณะอาญา แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 14 พ.ศ.2494 ที่แก้ไขมาตรา 41,42 นั้น ไม่มีการเพิ่มโทษสำหรับคนที่ถูกรอการลงอาญาไว้ และการที่จะนำโทษเก่ามาบวกกับโทษใหม่ตามมาตรา 42 นั้น โทษครั้งใหม่ที่จำเลยได้รับต้องเป็นโทษจำคุกด้วย
ถูกทำร้ายมีบาดแผล 4 แห่ง คือ หน้าผากเหนือคิ้วขวาเป็นรอยขีดหนังขาดโลหิตซับ ที่ใต้ตาขวาฟกช้ำหนังกำพร้าขาดโลหิตซับ เหนือคิ้วซ้ายมีรอยฟกบวมเล็กน้อย กับที่ต้นคอและบ่าซ้ายช้ำบวมอักเสบและที่ข้อไหล่ซ้ายเคล็ดใช้แขนไม่สะดวกอีกแห่งหนึ่ง บาดแผลหลังนี้ต้องรักษาอยู่เดือนเศษจึงหาย เรียกได้ว่ามีอาการถึงทุพพลภาพ จึงเป็นบาดเจ็บตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254
กฎหมายลักษณะอาญา แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 14 พ.ศ.2494 ที่แก้ไขมาตรา 41,42 นั้น ไม่มีการเพิ่มโทษสำหรับคนที่ถูกรอการลงอาญาไว้ และการที่จะนำโทษเก่ามาบวกกับโทษใหม่ตามมาตรา 42 นั้น โทษครั้งใหม่ที่จำเลยได้รับต้องเป็นโทษจำคุกด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1266/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยกระทำผิดซ้ำหลังได้รับโทษรอการลงอาญา ศาลเพิ่มโทษตามกฎหมายและรวมโทษเดิม
จำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกมีกำหนด 9 เดือนมาแล้วแต่ถูกรอการลงอาญาไว้ มากระทำผิดฐานฆ่าคนตายตามมาตรา 249 ขึ้นอีกภายใน 5 ปี ศาลพิพากษาจำคุก 15 ปี และเพิ่มโทษตามมาตรา 42,72 อีก 1 ใน 3 เป็นโทษให้จำคุก 20 ปี แล้วเอาโทษที่รอไว้ 9 เดือนมาลงแก่จำเลย รวมเป็นโทษจำคุก 20 ปี 9 เดือน ศาลฎีกาพิพากษายืน