คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 230

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 25 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3522/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำเลยในการมีทนาย และดุลพินิจศาลในการส่งตัวจำเลยไปสืบพยานนอกสถานที่
ก่อนเริ่มการพิจารณาคดีในศาลชั้นต้น จำเลยแถลงว่าจะหาทนายความเอง และในระหว่างการพิจารณาไม่ปรากฏว่าจำเลยร้องขอให้ศาลตั้งทนายความให้ศาลจึงไม่จำต้องตั้งทนายความให้จำเลย
โจทก์ขอส่งประเด็นไปสืบพยานที่ศาลอื่น ศาลชั้นต้นสอบจำเลยแล้วจำเลยไม่ค้านและยังแถลงว่าไม่ตามประเด็นไปด้วย ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องผ่านเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครขอให้ส่งตัวจำเลยตามประเด็นศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วไม่เห็นสมควรและไม่อนุญาต ดังนี้ เป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นมีอำนาจใช้ดุลพินิจสั่งได้ และเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ชอบแล้ว
จำเลยฎีกาอ้างข้อเท็จจริงนอกสำนวน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3522/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำเลยในการมีทนาย และดุลพินิจศาลในการพิจารณาพยานหลักฐานนอกสถานที่
ก่อนเริ่มการพิจารณาคดีในศาลชั้นต้น จำเลยแถลงว่าจะหาทนายความเอง และในระหว่างการพิจารณาไม่ปรากฏว่าจำเลยร้องขอให้ศาลตั้งทนายความให้ศาลจึงไม่จำต้องตั้งทนายความให้จำเลย
โจทก์ขอส่งประเด็นไปสืบพยานที่ศาลอื่น ศาลชั้นต้นสอบจำเลยแล้วจำเลยไม่ค้านและยังแถลงว่าไม่ตามประเด็นไปด้วย ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องผ่านเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครขอให้ส่งตัวจำเลยตามประเด็น ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วไม่เห็นสมควรและไม่อนุญาต ดังนี้ เป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นมีอำนาจใช้ดุลพินิจสั่งได้ และเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ชอบแล้ว
จำเลยฎีกาอ้างข้อเท็จจริงนอกสำนวน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 377-378/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำเลยในการติดตามการสืบพยานประเด็น การไม่อนุญาตถือเป็นการตัดสิทธิในการต่อสู้คดี
ประจักษ์พยานรู้เห็นขณะเกิดเหตุมีเพียง 2 คน คือคนหนึ่งเป็นพยานโจทก์ อีกคนหนึ่งจำเลยระบุอ้างเป็นพยานจำเลยและแถลงขอให้ส่งประเด็นไปสืบยังศาลอื่น โดยจำเลยแถลงขอตามประเด็นไปฟังการพิจารณาที่ศาลนั้นด้วย การที่ศาลใช้ดุลพินิจสั่งไม่อนุญาตให้ตัวจำเลยตามประเด็นไปฟังการพิจารณาเท่ากับเป็นการตัดพยานสำคัญของจำเลย อันเป็นการไม่ให้โอกาสจำเลยได้ต่อสู้คดีได้เต็มภาคภูมิ จึงเป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่ดิน: ศาลฎีกาเน้นยึดข้อเท็จจริงที่ศาลล่างฟังเป็นยุติในคดีอาญา แม้จำเลยโต้แย้งสิทธิในที่ดิน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบุกรุกที่ดินของโจทก์ ซึ่งมีราคา 6 หมืนกว่าบาท และทำลายทรัพย์สินในที่ดินนั้น ขอให้ลงโทษและขับไล่จำเลย จำเลยปฏิเสธว่ามิได้บุกรุกและทำให้เสียทรัพย์กับต่อสู้ว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลย ศาลชั้นต้นฟังว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยกระทำผิดจริง พิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 363 และ358 ปรับ 550 บาท และให้ขับไล่จำเลยกับให้ใช้ค่าเสียหาย ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะว่าให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 363 แต่บทเดียวปรับ 500 บาท นอกจากที่แก้นี้คงยืนตามคำพิพากษาศษลชั้นต้น ดังนี้ ่ข้อที่จำเลยฎีกาต่อมาว่า จำเลยโต้แย้งสิทธิที่ดินพิพาทในทางแพ่งมาตั้งแต่ก่อนโจทก์ฟ้อง ไม่เป็นการบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญาเพราะขาดเจตนานั้น ย่อมเป็นฎีกาโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งศาลล่างฟังมาแล้วว่าจำเลยมีเจตนาบุกรุก จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ส่วนข้อที่จำเลยฎีกาในทางแพ่งว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย แม้จะเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง แต่ประเด็นนี้ ในคดีส่วนอาญา ศาลล่างก็ฟังเป็นยุติแล้วว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ศาลฎีกาจึงต้องฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นเช่นนั้นด้วย ไม่มีทางฟังเป็นอย่างอื่นไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 879/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการงดพยานบุคคลเมื่อข้อเท็จจริงตรงกันกับที่รับสารภาพ
เมื่อปรากฏว่า พยานที่จำเลยขอให้ส่งประเด็นไปสืบนั้น ตรงตามที่รับกันแล้ว ศาลมีอำนาจสั่งงดไม่สืบเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 879/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการงดสืบพยานเมื่อพยานตรงกับที่รับกันแล้วในคดีอาญา
เมื่อปรากฏว่า พยานที่จำเลยขอให้ส่งประเด็นไปสืบนั้นตรงตามที่รับกันแล้ว ศาลมีอำนาจสั่งงดไม่สืบเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานประเด็น – การยินยอมของจำเลย – กระบวนการถูกต้องตามกฎหมาย
การส่งประเด็นไปสืบพยานโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 230 จำเลยก็ดีทนายจำเลย ก็ดีจะตามประเด็นไปก็ได้ จะส่งคำถามไปให้ศาลซักถามให้ก็ได้ หรือจะไม่ตามประเด็นไป และไม่ส่งคำถามไปก็ได้ กฎหมายไม่บังคับเด็ดขาด
ศาลที่ได้รับประเด็นไม่แจ้งวันนัดสืบพยานประเด็นของโจทก์ให้ทนายจำเลยทราบ ครั้นเมื่อประเด็นกลับ ศาลได้อ่านให้คู่ความฟัง ทนายจำเลยหาได้คัดค้านถึงการที่ศาลไม่แจ้งวันนัดสืบพยานประเด็นไม่ กลับยินยอมให้สืบพยานโจทก์ต่อไปดังนี้ กระบวนพิจารณาที่ศาลทำไป จึงถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเผชิญสืบพยานจำเลย: การไม่เข้าร่วมและผลที่ตามมา
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 230 มิได้บัญญัติเฉพาะการส่งประเด็นไปสืบแต่อย่างเดียว หากบัญญัติรวมถึงการเดินเผชิญสืบด้วย
ในการเผชิญสืบจำเลยจะไปฟังการพิจารณาหรือไม่ก็ได้หากจำเลยไม่ไป เมื่อศาลสืบกลับมาแล้วอ่านให้จำเลยฟังจำเลยไม่คัดค้านอย่างใดดังนี้ไม่ขัดต่อวิธีพิจารณา
การพิจารณาและสืบพยานซึ่งกฎหมายบังคับให้ทำต่อหน้าจำเลยนั้น เฉพาะการพิจารณาและสืบพยานในศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเดินเผชิญสืบพยานนอกศาลและการพิจารณาคดีอาญาที่ชอบด้วยกฎหมาย
ป.วิธี.อาญาม.230มิได้บัญญัติฉเพาะการส่งประเด็นไปสืบแต่หย่างเดียว หากบัญญัติรวมถึงการเดินผเชินสืบด้วย.
ไนการผเชินสืบจำเลยจะไปฟังการพิจารนาหรือไม่ก็ได้หากเลยไม่ไป เมื่อสาลสืบกลับมาแล้วอ่านไห้จำเลยฟัง จำเลยไม่คัดค้านหย่างได ดังนี้ไม่ชัดต่อวิธีพิจารนา.
การพิจารนาและสืบพยานซึ่งกดหมายบังคับไห้ทำต่อหน้าจำเลยฉเพาะการพิจารนาและสืบไนสาลตาม ป. วิธีพิจารนาอาญา ม.172 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 351/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งรับอุทธรณ์ 'รับอุทธรณ์สำเนาให้อีกฝ่ายหนึ่งแก้' ไม่ถือเป็นการรับรองอุทธรณ์ข้อเท็จจริง
คดีมโนสาเร่ ศาลชั้นต้นสั่งในฟ้องอุทธรณ์ว่า "รับอุทธรณ์สำเนาให้อีกฝ่ายหนึ่งแก้" ไม่ถือว่าเป็นคำสั่งรับรองให้อุทธรณ์ข้อเท็จจริง
of 3