คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นิติธรรมประกรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 548 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากปล้นทรัพย์เป็นชิงทรัพย์เมื่อจำนวนผู้กระทำผิดไม่ตรงตามฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลย(สองคน) สมคบกันปล้นโคของเจ้าทรัพย์ไป ทางพิจารณาได้ความว่า ผู้ร้าย 3 คน ร่วมกันกระทำผิดรายนี้ ก็ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ไม่ได้ ต้องลงโทษฐานชิงทรัพย์ ตาม มาตรา 339

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากปล้นทรัพย์เป็นชิงทรัพย์เนื่องจากจำนวนผู้กระทำผิดไม่ตรงตามฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลย(สองคน) สมคบกันปล้นโคของเจ้าทรัพย์ไป ทางพิจารณาได้ความว่า ผู้ร้าย 3 คน ร่วมกันกระทำผิดรายนี้ ก็ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ไม่ได้ต้องลงโทษฐานชิงทรัพย์ตาม มาตรา 339

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 974/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานคนกลางเพื่อพิสูจน์การครอบครองที่ดิน เจตนาคำท้าอยู่ที่การครอบครองเดิม ไม่ใช่การแย่งภายหลัง
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของครอบครองที่พิพาทตลอดมา30 ปีแล้ว จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยครอบครองเป็นเจ้าของตลอดมาถึง 17 ปีแล้ว คู่ความตกลงกันขอให้สืบพยานคนกลาง หากพยานคนกลางเบิกความว่า ที่พิพาทเป็นของฝ่ายใด โดยได้ครอบครองตลอดมาจนก่อนพิพาทกันชั้นอำเภอแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ ทนายคนกลางเบิกความว่า เห็นจำเลยครอบครองตลอดมา 17 ปีแล้ว เมื่อ 2-3 ปีมานี้ โจทก์ได้ยื่นแบบ ส.ค.1 สำหรับที่รายพิพาท ดังนี้ถือว่า เจตนาตามคำท้ามุ่งถึงเรื่องที่ว่า ฝ่ายใดครอบครองเป็นเจ้าของที่พิพาท ไม่ได้เจตนาถึงเรื่องแย่งการครอบครองภายใน2-3 ปี จึงต้องถือว่า พยานคนกลางเบิกความสมข้างจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 974/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานคนกลางเพื่อพิสูจน์การครอบครองที่ดิน: เจตนาคำท้าต้องมุ่งพิสูจน์เจ้าของที่ดิน ไม่ใช่การครอบครองระยะสั้น
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของครอบครองที่พิพาทตลอดมา 30 ปีแล้ว จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยครอบครองเป็นเจ้าของตลอดมาถึง 17 ปีแล้ว คู่ความตกลงกันขอให้สืบพยานคนกลาง หากพยานคนกลางเบิกความว่า ที่พิพาทเป็นของฝ่ายใด โดยได้ครอบครองตลอดมาจนก่อนพิพาทกันชั้นอำเภอแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ พยานคนกลางเบิกความว่า เห็นจำเลยครอบครองตลอดมา 17 ปีแล้ว เมื่อ 2-3 ปีมานี้ โจทก์ได้ยื่นแบบ ส.ค. 1 สำหรับที่รายพิพาท ดังนี้ถือว่า เจตนาตามคำท้ามุ่งถึงเรื่องที่ว่า ฝ่ายใดครอบครองเป็นเจ้าของที่พิพาท ไม่ได้เจตนาถึงเรื่องแย่งการครอบครองภายใน 2 - 3 ปี จึงต้องถือว่าพยานคนกลางเบิกความสมข้างจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 963/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลดป้ายหาเสียงและการใช้อำนาจหน้าที่ นายอำเภอไม่มีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์หรือใช้อำนาจโดยมิชอบ
จำเลยเป็นนายอำเภอ สั่งให้คนปลดเชือกผูกป้ายผ้าโฆษณาหาเสียงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งแขวนไว้ที่ทางเดินขึ้นจากท่าเรือจ้างหน้าที่ว่าการอำเภอ ให้พ้นการกีดขวางทางเดินซึ่งจำเลยมีหน้าที่ดูแลรักษาท่าเรือจ้างนั้น ต่อมาผ้าป้ายนั้นได้หายไป โดยไม่ได้เกิดจากการกระทำของจำเลยโดยตรง จำเลยมิได้มีเจตนาจะทำให้เสียทรัพย์จำเลยยังไม่มีผิดฐานทำให้เสียทรัพย์และฐานใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 963/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยนายอำเภอสั่งปลดป้ายหาเสียง ไม่เจตนาทำให้เสียทรัพย์ ไม่ผิดฐานทำให้เสียทรัพย์และใช้อำนาจโดยมิชอบ
จำเลยเป็นนายอำเภอ สั่งให้คนปลดเชือกผูกป้ายผ้าโฆษณาหาเสียงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งแขวนไว้ที่ทางเดินขึ้นจากท่าเรือจ้างหน้าที่ว่าการอำเภอ ให้พ้นการขีดขวางทางเดิน ซึ่งจำเลยมีหน้าที่ดูแลรักษาท่าเรือจ้างนั้น ต่อมาผ้าป้ายนั้นได้หายไป โดยไม่ได้เกิดจากการกระทำของจำเลยโดยตรง จำเลยมิได้มีเจตนาจะทำให้เสียทรัพย์ จำเลยยังไม่มีผิดฐานทำให้เสียทรัพย์และฐานใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 954/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีทำให้แท้งลูก: บิดาไม่มีสิทธิฟ้องหากผู้เสียหาย (มารดา) มีส่วนร่วมในการกระทำ
บิดาไม่มีอำนาจฟ้องผู้ที่ทำให้บุตรสาวของตนแท้งลูกถึงแก่ความตายด้วยความยินยอมของหญิง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 302 เพราะหญิงมีส่วนร่วมในการกระทำผิดและมิใช่ผู้ได้รับความเสียหายตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 954/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีทำให้แท้งลูก: บิดาผู้เสียหายไม่มีสิทธิฟ้อง หากผู้ตายยินยอม
บิดาไม่มีอำนาจฟ้องผู้ที่ทำให้บุตรสาวของตนแท้งลูกถึงแก่ความตายด้วยความยินยอมของหญิง ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.302 เพราะหญิงมีส่วนร่วมในการกระทำผิดและมิใช่ผู้ได้รับความเสียหายตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 922/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินก่อนมีกฎหมายใหม่ ไม่มีเจตนาฝ่าฝืนกฎหมาย จึงไม่ความผิดทางอาญา
เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทางอาญา ก็ต้องให้ได้ความว่ามีเจตนาบังอาจหรือจงใจฝ่าฝืน มาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน จึงจะลงโทษตาม มาตรา 108 ได้
ที่ดินพิพาทได้ซื้อขายกันมาหลายทอดจนถึงจำเลย และจำเลยได้เข้ายึดถือครอบครองอยู่ก่อนที่ประมวลกฎหมายที่ดินบัญญัติว่าเป็นความผิด ทั้งจำเลยเคยได้แจ้งการครอบครองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไว้แล้วด้วย ย่อมลงโทษจำเลยในทางอาญาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 922/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฝ่าฝืนกฎหมายที่ดินเป็นสำคัญในการลงโทษทางอาญา การครอบครองก่อนมีกฎหมายไม่ผิด
เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทางอาญา ก็ต้องให้ได้ความว่ามีเจตนาบังอาจหรือจงใจฝ่าฝืนมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน จึงจะลงโทษตาม มาตรา 108 ได้
ที่ดินพิพาทได้ซื้อขายกันมาหลายทอดจนถึงจำเลย และจำเลยได้เข้ายึดถือครอบครองอยู่ก่อนที่ประมวลกฎหมายที่ดินบัญญัติว่าเป็นความผิด ทั้งจำเลยเคยได้แจ้งการครอบครองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไว้แล้วด้วย ย่อมลงโทษจำเลยในทางอาญาไม่ได้
of 55