พบผลลัพธ์ทั้งหมด 548 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2025/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาต่างตอบแทนกับการจัดการศพ: สิทธิเรียกร้องทรัพย์มรดกของผู้จัดการศพ
มารดาของผู้ตาย ซึ่งได้รับทรัพย์มรดกของผู้ตายแต่ผู้เดียว ย่อมมีหน้าที่เป็นผู้จัดการทำศพผู้ตายตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 1649 วรรคท้าย ฉะนั้น เมื่อมารดาผู้ตายทำสัญญามอบทรัพย์ของผู้ตายทั้งหมดให้ภรรยาอันไม่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย โดยให้ภรรยาคนนั้นรับทำศพผู้ตาย ดังนี้ ย่อมถือว่าเป็นสัญญาต่างตอบแทน มารดาผู้ตายไม่มีสิทธิจะเรียกทรัพย์มรดกของผู้ตายจากภรรยานั้นในภายหลังได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายทรัพย์ที่ถูกยึดก่อนคำพิพากษา แม้ผู้ซื้อสุจริตก็ไม่เกิดกรรมสิทธิ์ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจฟ้องเรียกทรัพย์คืน
การยึดทรัพย์จำเลยก่อนคำพิพากษานั้น แม้การยึดทรัพย์เจ้าพนักงานจะมิได้แจ้งให้จำเลยทราบเพราะไม่พบตัวจำเลยก็ไม่ทำให้การยึดนั้นเสียไป
จำเลยซื้อขายทรัพย์ที่ถูกยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษา แก่ผู้ซื้อ แม้ผู้ซื้อจะซื้อโดยสุจริต ก็ไม่ได้กรรมสิทธิตามนัยแห่ง ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 259,305 และในภายหลังปรากฎว่าจำเลยถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว เพราะมีผู้ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่สามารถเข้าครอบครองทรัพย์ที่ถูกยึดดังกล่าวข้างต้นได้ เนื่องจากเมื่อซื้อขายทรัพย์ที่ถูกยึดกันแล้ว ผู้ซื้อก็ขนเอาทรัพย์นั้นไปหมด โดยผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้นได้รู้เห็น ดังนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และเจ้าพนักงานบังคับคดี ย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องให้ผู้ซื้อทรัพย์นั้นกับผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้น ส่งทรัพย์ที่เอาไปได้ถ้าส่งไม่ได้ก็ต้องใช้ราคา
จำเลยซื้อขายทรัพย์ที่ถูกยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษา แก่ผู้ซื้อ แม้ผู้ซื้อจะซื้อโดยสุจริต ก็ไม่ได้กรรมสิทธิตามนัยแห่ง ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 259,305 และในภายหลังปรากฎว่าจำเลยถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว เพราะมีผู้ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่สามารถเข้าครอบครองทรัพย์ที่ถูกยึดดังกล่าวข้างต้นได้ เนื่องจากเมื่อซื้อขายทรัพย์ที่ถูกยึดกันแล้ว ผู้ซื้อก็ขนเอาทรัพย์นั้นไปหมด โดยผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้นได้รู้เห็น ดังนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และเจ้าพนักงานบังคับคดี ย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องให้ผู้ซื้อทรัพย์นั้นกับผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้น ส่งทรัพย์ที่เอาไปได้ถ้าส่งไม่ได้ก็ต้องใช้ราคา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ก่อนคำพิพากษาและการบังคับคดี แม้จำเลยไม่ได้รับแจ้ง ย่อมมีผลบังคับใช้ได้
การยึดทรัพย์จำเลยก่อนคำพิพากษานั้น แม้การยึดทรัพย์เจ้าพนักงานจะมิได้แจ้งให้จำเลยทราบเพราะไม่พบตัวจำเลยก็ไม่ทำให้การยึดนั้นเสียไป
จำเลยขายทรัพย์ที่ถูกยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาแก่ผู้อื่น แม้ผู้ซื้อจะซื้อโดยสุจริต ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 259,305 และในภายหลังปรากฏว่าจำเลยถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว เพราะมีผู้ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่สามารถเข้าครอบครองทรัพย์ที่ถูกยึดดังกล่าวข้างต้นได้ เนื่องจากเมื่อซื้อขายทรัพย์ที่ถูกยึดกันแล้ว ผู้ซื้อก็ขนเอาทรัพย์นั้นไปหมด โดยผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้นได้รู้เห็น ดังนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และเจ้าพนักงานบังคับคดี ย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องให้ผู้ซื้อทรัพย์นั้นกับผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้นส่งทรัพย์ที่เอาไปได้ ถ้าส่งไม่ได้ก็ต้องใช้ราคา
จำเลยขายทรัพย์ที่ถูกยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาแก่ผู้อื่น แม้ผู้ซื้อจะซื้อโดยสุจริต ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 259,305 และในภายหลังปรากฏว่าจำเลยถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว เพราะมีผู้ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่สามารถเข้าครอบครองทรัพย์ที่ถูกยึดดังกล่าวข้างต้นได้ เนื่องจากเมื่อซื้อขายทรัพย์ที่ถูกยึดกันแล้ว ผู้ซื้อก็ขนเอาทรัพย์นั้นไปหมด โดยผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้นได้รู้เห็น ดังนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และเจ้าพนักงานบังคับคดี ย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องให้ผู้ซื้อทรัพย์นั้นกับผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้นส่งทรัพย์ที่เอาไปได้ ถ้าส่งไม่ได้ก็ต้องใช้ราคา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินเป็นโมฆะ ผู้ขายฟ้องเรียกคืนโดยบิดเบือนข้อเท็จจริง ศาลยกฟ้อง
แม้การซื้อขายที่บ้านให้แก่กัน โดยทำหนังสือซื้อขายกันเอง เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นโมฆะ และผู้ซื้อเข้าครอบครองยังไม่ถึง 10 ปีก็ตาม แต่ผู้ขายกลับมาฟ้องเรียกที่ดินคืนโดยอ้างว่า ผู้ซื้ออาศัยอยู่ ซึ่งไม่ใช่ความจริง ผู้ขายบิดผันปิดบังความจริงแห่งการซื้อขายจะเอาที่ดินคืนเปล่าๆ ดังนี้ ถือได้ว่า ผู้ขายสืบไม่สมฟ้อง ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ไร้ผลผูกพันและการฟ้องเรียกคืนทรัพย์สิน โดยบิดเบือนข้อเท็จจริง
แม้การซื้อขายที่บ้านให้แก่กัน โดยทำหนังสือซื้อขายกันเอง เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นโมฆะ และผู้ซื้อเข้าครอบครองยังไม่ถึง 10 ปี ก็ตาม แต่ผู้ขายกลับมาฟ้องเรียกที่ดินคืนโดยอ้างว่า ผู้ซื้ออาศัยอยู่ ซึ่งไม่ใช่ความจริง ผู้ขายบิดผัน ปิดบังความจริงแห่งการซื้อขายจะเอาที่ดินคืนเปล่า ๆ ดังนี้ ถือได้ว่า ผู้ขายสืบไม่สมฟ้อง ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1974/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษคดีฝิ่น: กฎหมายเฉพาะเหนือกว่ากฎหมายทั่วไป
ตามบทบัญญัติในมาตรา 11 แห่งกฎหมายลักษณะอาญา ศาลจะยกมาตรา 23 แห่งกฎหมายนี้มาใช้ได้เฉพาะในกรณีที่กฎหมายนั้นๆ มิได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น แต่ในกรณีเรื่องการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติฝิ่นนั้น มาตรา 68(1) แห่งพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ.2472 บัญญัติถึงวิธีเพิ่มโทษผู้กระทำผิดต่อพระราชบัญญัติฝิ่นโดยเฉพาะเป็นพิเศษบังคับให้ศาลลงโทษทั้งปรับทั้งจำ จึงจะนำกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 23 มาใช้ในกรณีเช่นนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1973/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องแย้งของตัวแทนตามหนังสือมอบอำนาจ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้รับมอบอำนาจจากตัวการให้ทำสัญญาจำนองทรัพย์สินของตัวการไว้กับโจทก์ ขอให้จำเลยไถ่ถอนการจำนองและโจทก์ได้เสนอสำเนาหนังสือมอบอำนาจพร้อมกับฟ้อง ซึ่งข้อหนึ่งแห่งหนังสือมอบอำนาจมีว่า "มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีทั้งหลายแทนตัวข้าพเจ้าฯลฯ และมีอำนาจประนีประนอมยอมความ ทั้งมีอำนาจแต่งทนายแก้ต่างว่าต่างได้ด้วย" ดังนี้จำเลยย่อมมีอำนาจฟ้องแย้ง ให้โจทก์ไปจดทะเบียนการไถ่ถอนจำนองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1973/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องแย้งของตัวแทน: ตัวแทนมีอำนาจฟ้องแย้งได้หากมีอำนาจทำแทนตัวการตามหนังสือมอบอำนาจ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้รับมอบอำนาจจากตัวการให้ทำสัญญาจำนองทรัพย์สินของตัวการไว้กับโจทก์ ขอให้จำเลยไถ่ถอนการจำนองและโจทก์ได้เสนอสำเนาหนังสือมอบอำนาจพร้อมกับฟ้อง ซึ่งข้อหนึ่งแห่งหนังสือมอบอำนาจมีว่า "มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีทั้งหลายแทนตัว ข้าพเจ้า ฯลฯ และมีอำนาจปราณีปรานอมยอมความ ทั้งมีอำนาจแต่งทนายแก้ต่างว่าต่างได้ด้วย" ดังนี้ จำเลยย่อมมีอำนาจฟ้องแย้ง ให้โจทก์ไปจดทะเบียนการไถ่ถอนจำนองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1933/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าพื้นที่ใช้ทำการค้าไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า แม้ใช้เป็นที่อยู่อาศัย
เช่าห้องใช้เป็นที่สำหรับทำการค้า โดยมีการค้าขายชั้นล่าง แม้จะใช้เป็นที่อยู่ชั้นบนก็ดี ผู้เช่าก็มิได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 1099 - 1147/2492
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1933/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเพื่อค้าขาย: ไม่คุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าห้องใช้เป็นที่สำหรับทำการค้า โดยมีการค้าขายชั้นล่าง แม้จะใช้เป็นที่อยู่ชั้นบนก็ดี ผู้เช่าก็มิได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 1099-1147/2492