พบผลลัพธ์ทั้งหมด 548 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1794/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานอนาจารต่อหน้าธารกำนัล: การกระทำต่อหน้าบุคคลอื่นถือเป็นความผิดต่อหน้าธารกำนัล แม้เป็นเวลากลางคืน
กอดปล้ำทำอนาจารหญิงสาวบนถนนริมฝั่งคลอง ซึ่งเป็นทางสาธารณะและทางหลวงในเวลากลางคืน ในขณะที่มีเด็กชายคนหนึ่งเดินอยู่ข้างหน้า เมื่อเด็กชายคนนั้นเห็นเข้าก็วิ่งหนีไปเสีย และยังมีชายอีก 2 คนซึ่งเดินอยู่บนถนนชายคลองอีกฟากหนึ่งพบเห็นเข้า ดังนี้ ย่อมถือว่าเป็นความผิดที่ได้กระทำต่อหน้าธารรกำนัล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1794/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานอนาจารต่อหน้าธารกำนัล
กอดปล้ำทำอนาจารหญิงสาวบนถนนริมฝั่งคลอง ซึ่งเป็นทางสาธารณะและทางหลวงในเวลากลางคืนในขณะที่มีเด็กชายคนหนึ่งเดินอยู่ข้างหน้า เมื่อเด็กชายคนนั้นเห็นเข้าก็วิ่งหนีไปเสีย และยังมีชายอีก 2 คนซึ่งเดินอยู่บนถนนชายคลองอีกฟากหนึ่งพบเห็นเข้า ดังนี้ ย่อมถือว่าเป็นความผิดที่ได้กระทำต่อหน้าธารกำนัล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1788/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งคืนของกลางในคดีอาญาที่ไม่มีคดีแพ่งพ่วง: ศาลไม่รับฎีกาเฉพาะเรื่องของกลาง
อัยการโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทางอาญา คือฐานลักทรัพย์ ไม่มีคำขอทางแพ่ง ปนมาด้วย ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องแต่ให้คืนของกลางแก่ผู้เสียหายโดยอาศัยอำนาจตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 49 แต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเรื่องของกลาง จำเลยยังเถียงกรรมสิทธิอยู่ ควรให้ไปว่ากล่าวกันในทางแพ่ง ส่วนในข้อหาฐานลักทรัพย์คงยกฟ้อง ดังนี้คดีอาญาที่ได้ฟ้อง ได้ถึงที่สุดแล้วโจทก์จำเลยจะฎีกาเฉพาะให้สั่งในเรื่องของกลาง ไม่ได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1788/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการสั่งคืนของกลางหลังยกฟ้องคดีอาญา และการระงับข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิในทางแพ่ง
อัยการโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทางอาญา คือฐานลักทรัพย์ไม่มีคำขอทางแพ่ง ปนมาด้วย ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องแต่ให้คืนของกลางแก่ผู้เสียหายโดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 49 แต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเรื่องของกลาง จำเลยยังเถียงกรรมสิทธิอยู่ ควรให้ไปว่ากล่าวกันในทางแพ่ง ส่วนในข้อหาฐานลักทรัพย์คงยกฟ้อง ดังนี้คดีอาญาที่ได้ฟ้อง ได้ถึงที่สุดแล้วโจทก์จำเลยจะฎีกาเฉพาะให้สั่งในเรื่องของกลาง ไม่ได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1787/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ประกันตัวเมื่อจำเลยไม่มาศาล ศาลยังคงมีอำนาจปรับตามสัญญา
ผู้ประกันจำเลยในคดีอาญาจะพ้นความรับผิดต่อเมื่อได้นำตัวจำเลยมาส่งศาลและศาลสั่งให้ถอนประกันหรือปล่อยตัวไปตามข้อ 1 แห่งสัญญาประกันเท่านั้น การที่ศาลสั่งจำหน่ายคดีและให้ผู้ประกันส่งตัวจำเลยต่อศาล แล้วผู้ประกันส่งตัวจำเลยไม่ได้ ดังนี้หาทำให้ผู้ประกันพ้นจากความรับผิดไม่ศาลย่อมมีอำนาจปรับผู้ประกันตามสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1787/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ประกันจำเลย: การนำตัวจำเลยส่งศาล
ผู้ประกันจำเลยในคดีอาญาจะพ้นความรับผิดต่อเมื่อได้นำตัวจำเลยมาส่งศาลและศาลสั่งให้ถอนประกันหรือปล่อยตัวไปตามข้อ1 แห่งสัญญาประกันเท่านั้น การที่ศาลสั่งจำหน่ายคดีและให้ผู้ประกันส่งตัวจำเลยต่อศาล แล้วผู้ประกันส่งตัวจำเลยไม่ได้ ดังนี้หาทำให้ผู้ประกันพ้นจากความรับผิดไม่ ศาลย่อมมีอำนาจปรับผู้ประกันตามสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินพิพาท สิทธิในที่ดินเมื่อซื้อขายไม่เป็นหนังสือและจดทะเบียน
โจทก์ฟ้องเรียกที่ดินส่วนของโจทก์ตามที่มีชื่อในโฉนดคืนจากจำเลย จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ขายที่ดินส่วนของโจทก์ให้จำเลยแล้ว และมอบที่ดินส่วนนั้นให้จำเลยครอบครองไปจนกว่าจะได้จัดการโอนกรรมสิทธิให้แก่จำเลย ดังนี้ประเด็นย่อมมีถึงว่าจำเลยจะมีสิทธิยึดถือที่ดินรายนี้ไว้ได้ต่อไปหรือไม่ด้วย ฉะนั้นศาลจำต้องฟังคำพยานโจทก์และจำเลยตามฟ้องและคำให้การต่อสู้ก่อน จะงดสืบพยานเสียโดยตัดสินให้จำเลยคืนที่ดินแก่โจทก์ เพราะถือว่าโจทก์มีชื่อในโฉนดและการซื้อขายมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินยังไม่จดทะเบียน & สิทธิครอบครองจากการชำระราคา - ศาลต้องฟังพยานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องเรียกที่ดินส่วนของโจทก์ตามที่มีชือในโฉนดคืนจากจำเลย ๆต่อสู้ว่า โจทก์ขายที่ดินส่วนของโจทก์ให้จำเลยแล้วและมอบที่ดินส่วนนั้นให้จำเลยครอบครองไปจนกว่าจะได้จัดการโอนกรรมสิทธิให้แก่จำเลย ดังนี้ ประเด็นย่อมมีถึงว่าจำเลยจะมีสิทธิยึดถือที่ดินรายนี้ไว้ได้ต่อไปหรือไม่ด้วย ฉะนั้นศาลจำต้องฟังคำพยานโจทก์และจำเลยตามฟ้องและคำให้การต่อสู้ก่อน จะงดสืบพยานเสียโดยตัดสินให้จำเลยคืนที่ดินแก่โจทก์เพราะถือว่าโจทก์มีชื่อในโฉนดและการซื้อขายมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1732/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าไปในเคหะสถานเพื่อขายของโดยได้รับอนุญาตโดยปริยาย ไม่ถือเป็นการบุกรุกเพื่อลักทรัพย์
จำเลยเอาข้าวต้มผัดไปขายแก่ผู้อยู่ในเคหะสถานถึงในเคหะสถาน การเข้าไปเช่นนี้ต้องฟังว่าได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้โดยปริยาย เมื่อจำเลยลักทรัพย์เขาในเคหะสถานนั้น ก็คงเป็นผิดตามมาตรา 288 หาใช่มาตรา 294 (1) ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1732/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ในเคหสถาน: การเข้าโดยได้รับอนุญาตโดยปริยาย
จำเลยเอาข้าวต้มผัดไปขายแก่ผู้อยู่ในเคหสถานถึงในเคหสถาน การเข้าไปเช่นนี้ต้องฟังว่าได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้โดยปริยาย เมื่อจำเลยลักทรัพย์เขาในเคหสถานนั้น ก็คงเป็นผิดตามมาตรา 288 หาใช่มาตรา294(1)ไม่