คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นิติธรรมประกรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 548 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1420/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้นความผิด พ.ร.ก.คนเข้าเมือง กรณีเรือถ่อที่ไม่ใช้ขนส่ง
มาตรา 4 แห่ง พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2480 บัญญัติว่า"ยานพาหนะ" หมายถึงสิ่งใดๆ ที่ใช้สำหรับขนส่งจากที่แห่งหนึ่งไปยังที่อีกแห่งหนึ่ง ฉะนั้นถ้ามีผู้นำเรือถ่อโดยมิได้ใช้ขนส่งอะไรออกนอกประเทศและเข้าในประเทศ โดยมิได้แจ้งกำหนดเรือออกจากท่าก็ดี เรือเข้ามาถึงท่าแล้ว ไม่ไปรายงานต่อเจ้าพนักงานก็ดี ก็ไม่เป็นผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง 2480

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1420/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความ 'ยานพาหนะ' ใน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง: การใช้เรือถ่อโดยไม่มีการขนส่ง
มาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2480 บัญญัติว่า " ยานพาหนะ " หมายถึงสิ่งใด ๆ ที่ใช้สำหรับขนส่งจากที่แห่งหนึ่งไปยังที่อีกแห่งหนึ่ง ฉะนั้นถ้ามีผู้นำเรือถ่อโดยมิได้ใช้ขนส่งอะไรออกนอกประเทศและเข้าในประเทศโดยมิได้แจ้งกำหนดเรืออกจากท่าก็ดี เรือเข้ามาถึงท่าแล้ว ไม่ไปรายงานต่อเจ้าพนักงานก็ดี ก็ไม่เป็นผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง 2480

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนาคารมีหน้าที่พิสูจน์ความถูกต้องของลายมือชื่อในเช็ค หากพิสูจน์ไม่ได้ ธนาคารต้องรับผิดชอบ
ธนาคารจ่ายเงินให้แก่ผู้ทรงเช็คไปตามเช็คที่มีลายเซ็นชื่อผู้เคยค้าเป็นผู้สั่งจ่าย เมื่อผู้เคยค้ามาฟ้องธนาคารอ้างว่าตนไม่ได้เซ็นสั่งจ่ายในเช็คดังกล่าวแล้ว ให้ธนาคารรับผิดชอบในจำนวนเงินที่ธนาคารจ่ายไปนั้น ธนาคารมีหน้าที่สืบแสดงว่าลายเซ็นสั่งจ่ายในเช็คเป็นลายเซ็นของผู้เคยค้าจริง ถ้าสืบไม่ได้ธนาคาร ก็ต้องรับผิดชอบในเงินจำนวนที่จ่ายไปนั้นและจะหักเงินนั้นจากบัญชีเดินสพัดของผู้เคยค้าไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนาคารจ่ายเช็ค - หน้าที่การตรวจสอบลายมือชื่อ - ความรับผิดชอบ
ธนาคารจ่ายเงินให้แก่ผู้ทรงเช็คไปตามเช็คที่มีลายเซ็นชื่อผู้เคยค้าเป็นผู้สั่งจ่าย เมื่อผู้เคยค้ามาฟ้องธนาคารอ้างว่าตนไม่ได้เซ็นสั่งจ่ายในเช็คดังกล่าวแล้ว ให้ธนาคารรับผิดชอบในจำนวนเงินที่ธนาคารจ่ายไปนั้น ธนาคารมีหน้าที่สืบแสดงว่าลายเซ็นสั่งจ่ายในเช็คเป็นลายเซ็นของผู้เคยค้าจริง ถ้าสืบไม่ได้ธนาคาร ก็ต้องรับผิดชอบในเงินจำนวนที่จ่ายไปนั้นและจะหักเงินนั้นจากบัญชีเดินสะพัดของผู้เคยค้าไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขับไล่ผู้เช่า: สามีจัดการสินบริคณห์แทนภรรยาได้ และความรับผิดชอบต่อค่าเสียหายพิเศษ
สามีเอาบ้านของภรรยาอันเป็นสินบริคณห์ ไปให้ผู้อื่นเช่าอยู่อาศัยนั้น ต้องถือว่าสามีเป็นผู้จัดการตามอำนาจของกฎหมาย ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1468 ฉะนั้น เมื่อภรรยาผู้เป็นเจ้าของได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ให้เข้าอยู่ในบ้านเช่านั้นได้ ก็เท่ากับสสามีผู้มีอำนาจจัดการได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า ฯ ให้เข้าอยู่ด้วย สามีจึงมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ มาตรา16 (6)
ผู้ให้เช่าบอกเลิกการเช่าบ้านกับผู้เช่า ให้ผู้เช่าออกจากบ้านไปภายในกำหนดและยังบอกกล่าวไปชัดแจ้งว่าถ้าผู้ให้เช่าเข้าบ้านเช่านี้นตามกำหนดไม่ได้ ก็จะทำให้ผิดสัญญาไม่สามารถส่งมอบบ้านอีกหลังหนึ่ง ที่ทำสัญญาซื้อขายกันแล้ว ให้แก่ผู้ซื้อได้ตามกำหนดและจะถูกผู้ซื้อปรับเป็นรายวัน ดังนี้ ถือได้ว่าผู้เช่าได้ทราบความเสียหายเป็นพิเศษของผู้ให้เช่าแล้ว ถ้าผู้เช่าผิดสัญญาไม่ออกจากบ้านเช่าภายในกำหนด ทำให้ผู้ให้เช่าผิดสัญญากับผู้ซื้อและถูกผู้ซื้อปรับเอาเท่าใด ผู้ให้เช่าย่อมมีสิทธิเรียกเอาจากผู้เช่าได้เท่าจำนวนที่เสียไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจัดการสินบริคณห์และการฟ้องขับไล่ผู้เช่า รวมถึงความเสียหายพิเศษของผู้ให้เช่า
สามีเอาบ้านของภรรยาอันเป็นสินบริคณห์ ไปให้ผู้อื่นเช่าอยู่อาศัยนั้น ต้องถือว่าสามีเป็นผู้จัดการตามอำนาจของกฎหมาย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1468 ฉะนั้น เมื่อภรรยาผู้เป็นเจ้าของได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าฯลฯ ให้เข้าอยู่ในบ้านเช่านั้นได้ ก็เท่ากับสามีผู้มีอำนาจจัดการได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าฯให้เข้าอยู่ด้วย สามีจึงมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้ตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ มาตรา 16(6)
ผู้ให้เช่าบอกเลิกการเช่าบ้านกับผู้เช่า ให้ผู้เช่าออกจากบ้านไปภายในกำหนด และยังบอกกล่าวไปชัดแจ้งว่าถ้าผู้ให้เช่าเข้าบ้านเช่านั้นตามกำหนดไม่ได้ ก็จะทำให้ผิดสัญญาไม่สามารถส่งมอบบ้านอีกหลังหนึ่ง ที่ทำสัญญาซื้อขายกันแล้วให้แก่ผู้ซื้อได้ตามกำหนดและจะถูกผู้ซื้อปรับเป็นรายวัน ดังนี้ ถือได้ว่าผู้เช่าได้ทราบความเสียหายเป็นพิเศษของผู้ให้เช่าแล้ว ถ้าผู้เช่าผิดสัญญาไม่ออกจากบ้านเช่าภายในกำหนด ทำให้ผู้ให้เช่าผิดสัญญากับผู้ซื้อและถูกผู้ซื้อปรับเอาตามสัญญาไปเท่าใด ผู้ให้เช่าย่อมมีสิทธิเรียกเอาจากผู้เช่าได้เท่าจำนวนที่เสียไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1347/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำร้องบอกล้างนิติกรรมสัญญาประกันถือเป็นการสัตยาบัน ย่อมมีผลผูกพัน
ภรรยาไปทำสัญญาประกันผู้ต้องหาไว้กับศาล แล้วผิดสัญญาถูกศาลสั่งปรับ สามีจึงยื่นคำร้องบอกล้างนิติกรรมสัญญาประกันโดยว่าเป็นโมฆียกรรม แต่ก่อนศาลจะมีคำสั่งประการใดสามีกลับถอนคำร้องเสีย ดังนี้ ต้องถือว่าเท่ากับไม่ได้ยื่นคำบอกล้างไว้ และถือได้ว่าเป็นการให้สัตยาบันการกระทำของภรรยาไปในตัว ฉะนั้นในภายหลังสามีจะมาบอกล้างอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1347/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำบอกล้างนิติกรรมและการสัตยาบันสัญญา
ภรรยาไปทำสัญญาประกันผู้ต้องหาไว้กับศาล แล้วผิดสัญญาถูกศาลสั่งปรับ สามีจึงยื่นคำร้องบอกล้างนิติกรรมสัญญาประกันโดยว่าเป็นโมฆียะกรรม แต่ก่อนศาลจะมีคำสั่งประการใดสามีกลับถอนคำร้องเสีย ดังนี้ ต้องถือว่าเท่ากับไม่ได้ยื่นคำบอกล้างไว้ และถือได้ว่าเป็นการให้สัตยาบันการกระทำของภรรยาไปในตัว ฉะนั้นในภายหลังสามีจะมาบอกล้างอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของเจ้าของห้องเช่าในการฟ้องขับไล่ผู้เช่าที่ค้างอาศัยหลังสัญญาหมดอายุ แม้มีการให้เช่าต่อ
จำเลยเป็นผู้เช่าห้องไปจากโจทก์ ครั้นครบกำหนดตามสัญญาและโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว จำเลยไม่ยอมออก ดังนี้ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยและบริวารให้ออกจากห้องเช่ารายนั้นได้ แม้จำเลยจะต่อสู้ว่าเมื่อครบกำหนดตามสัญญาเช่าแล้ว ผู้แทนโจทก์ให้คนอื่นเช่าห้องนั้นต่อ และจำเลยอาศัยอยู่กับผู้เช่าใหม่นั้นก็ตาม ศาลก็มีอำนาจพิจารณาคดีไปได้ และเมื่อข้อนำสืบของจำเลยไม่พอจะหักล้างสิทธิของโจทก์ได้ ศาลก็ย่อมพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจากห้องพิพาทได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของเจ้าของห้องเช่าในการฟ้องขับไล่ผู้เช่าหลังสัญญาหมดอายุ แม้มีการทำสัญญาเช่าต่อกับบุคคลอื่น
จำเลยเป็นผู้เช่าห้องไปจากโจทก์ ครั้นครบกำหนดตามสัญญาและโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว จำเลยไม่ยอมอก ดังนี้ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยและบริวารให้ออกจากห้องเช่ารายนั้นได้ แม้จำเลยจะต่อสูว่า เมื่อครบกำหนดตามสัญญาเช่าแล้ว ผู้แทนโจทก์ให้คนอื่นเช่าห้องนั้นต่อ และจำเลยอาศัยอยู่กับผู้เช่าใหม่นั้นก็ตาม ศาลก็มีอำนาจพิจารณาคดีไปได้ และเมื่อข้อนำสืบของจำเลยไม่พอจะหักล้างสิทธิของโจทก์ได้ ศาลก็ย่อมพิพากษาขับไล่จำเลย และบริวารออกจากห้องพิพาทได้
of 55