คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นิติธรรมประกรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 548 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 422/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การช่วยเหลือนักโทษหลบหนีเข้าข่ายอุปการะตามกฎหมายอาญา แม้จะเกิดขึ้นหลังการหลบหนี
จำเลยทราบดีว่านักโทษจะหนีออกจากเรือนจำ จำเลยจึงนำรถยนต์ไปคอยรับตรงที่นักโทษจะหนีออกมา เมื่อนักโทษหนีออกมาจากเรือนจำแล้ว จำเลยรับนักโทษเหล่านั้นขับหนีไปดังนี้นับว่าเป็นการอุปการะให้หนีได้ ต้องมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 165

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จเรื่องหนี้สินและการทำลายทรัพย์สิน อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นได้
แจ้งความเท็จอันไม่เกี่ยวกับการกระทำผิดอาญา เป็นความผิดตามกฏหมายลักษณะอาญามาตรา 118 วรรคต้น ถ้าเป็นเรื่องแจ้งความเท็จเกี่ยวกับการกระทำผิดอาญาต้องโทษตามวรรคที่แก้ไขเพิ่มเติม โดย พ.ร.บ.แก้ไข พ.ศ.2477 (ฉะบับที่ 3)
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแจ้งความเท็จว่าโจทก์ซื้อเชื่อร่มของจำเลยไป ไม่ยอมใช้ราคาและฉีกร่มนั้นขาดเสียหาย. ส่วนความจริงจำเลยยินยอมให้ร่มแก่โจทก์เพื่อทดแทนร่มที่จำเลยทำของโจทก์เสียหายดังนี้ ถ้าเป็นความจริงดังฟ้องก็ถือได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายและเป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 118 วรรคต้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จเรื่องซื้อขายร่มและค่าเสียหาย อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นได้
แจ้งความเท็จอันไม่เกี่ยวกับการกระทำผิดอาญาเป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 118 วรรคต้น ถ้าเป็นเรื่องแจ้งความเท็จเกี่ยวกับการกระทำผิดอาญาต้องโทษตามวรรคที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไข พ.ศ.2477(ฉบับที่ 3)
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแจ้งความเท็จว่าโจทก์ซื้อเชื่อร่มของจำเลยไปไม่ยอมใช้ราคาและฉีกร่มนั้นขาดเสียหาย ส่วนความจริงจำเลยยินยอมให้ร่มแก่โจทก์เพื่อทดแทนร่มที่จำเลยทำของโจทก์เสียหายดังนี้ ถ้าเป็นความจริงดังฟ้อง ก็ถือได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายและเป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 118 วรรคต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 414/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับเรียกค่าไถ่และการขู่กรรโชกทรัพย์ ศาลฎีกาวินิจฉัยความผิดฐานปล้นทรัพย์ไม่เข้าข่าย
จำเลยกับพวกจับตัวผู้เสียหายไปควบคุมตัวไว้แล้วบังคับเอาเงินจากพ่อตาและภรรยาเพื่อสินไถ่และเรียกผู้เสียหายคนอื่นอีก 6 คนมาหาว่าลักควาย บังคับให้หาเงินมาให้จำเลยดังนี้ การกระทำในตอนแรกเป็นเรื่องจับตัวไปบังคับเรียกเอาค่าสินไถ่โดยตรง การกระทำในตอนหลัง ก็ไม่มีกริยาเป็นโจรชิงทรัพย์ตามความหมายของ ก.ม. จึงไม่ใช่ความผิดฐานชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่า จำเลยมีความผิดตามกฏหมายอาญามาตรา 301 - 270 แต่ให้รวมกะทงลงโทษตาม ม.270 ซึ่งเป็นบทหนักแต่บทเดียว โจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านประการใด ดังนี้
เมื่อศาลฎีกาคงเห็นว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 270 ซึ่งเป็นบทหนักอยู่แล้ว แม้จะเห็นว่าจำเลยไม่ผิดตามม.301ด้วย ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยว่า จำเลยมีผิดฐานใดอีก เพราะลงโทษบทหนักอยู่แล้ว
อัยยการโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฏหมายอาญามาตรา 301-270 กับขอให้จำเลยคืนหรือใช้ทรัพย์ ถ้าศาลพิพากษาว่าจำเลยไม่มีความผิดตามมาตรา 301 แล้ว อัยยการก็ไม่มีอำนาจเรียกเงินคืนแทนผู้เสียหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 414/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับเรียกค่าสินไถ่และการข่มขู่เรียกทรัพย์: ศาลฎีกาแก้ข้อกล่าวหาปล้นทรัพย์ แต่ยืนตามบทหนักเดิม
จำเลยกับพวกจับตัวผู้เสียหายไปควบคุมตัวไว้แล้วบังคับเอาเงินจากพ่อตาและภรรยาเพื่อสินไถ่ และเรียกผู้เสียหายคนอื่นอีก 6 คนมาหาว่าลักควายบังคับให้หาเงินมาให้จำเลยดังนี้ การกระทำในตอนแรกเป็นเรื่องจับตัวไปบังคับเรียกเอาค่าสินไถ่โดยตรง การกระทำในตอนหลังก็ไม่มีกริยาเป็นโจรชิงทรัพย์ตามความหมายของกฎหมายจึงไม่ใช่ความผิดฐานชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่า จำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 301,270 แต่ให้รวมกระทงลงโทษตาม มาตรา270 ซึ่งเป็นบทหนักแต่บทเดียวโจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านประการใด ดังนี้
เมื่อศาลฎีกาคงเห็นว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 270ซึ่งเป็นบทหนักอยู่แล้ว แม้จะเห็นว่าจำเลยไม่ผิดตามมาตรา 301 ด้วย ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าจำเลยมีผิดฐานใดอีก เพราะลงโทษบทหนักอยู่แล้ว
อัยการโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 301,270 กับขอให้จำเลยคืนหรือใช้ทรัพย์ถ้าศาลพิพากษาว่าจำเลยไม่มีความผิดตามมาตรา 301 แล้ว อัยการก็ไม่มีอำนาจเรียกเงินคืนแทนผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเก็บของหายโดยไม่ทราบเจ้าของ ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์
เจ้าทรัพย์นั่งรถ 3 ล้อของจำเลย แล้วลืมผ้าขาวม้าไว้บนรถ 3 ล้อนั้น จำเลยเก็บผ้าของกลางนั้นไว้ โดยไม่ทราบว่าเป็นของผู้ใด และไม่ทราบว่าเจ้าของทำหลงลืมไว้แต่เมื่อใด ดังนี้ เป็นเรื่องเก็บของตกของหายตามมาตรา 318 หาใช่เรื่องลักทรัพย์ไม่ เมื่อโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยลักทรัพย์ ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเก็บของหายได้โดยไม่ทราบเจ้าของ ไม่ถือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
เจ้าทรัพย์นั่งรถ 3 ล้อของจำเลยแล้วลืมผ้าขาวม้าไว้ในรถ 3 ล้อนั้นจำเลยเก็บผ้าของกลางนั้นไว้ โดยไม่ทราบว่าเป็นของผู้ใด และไม่ทราบว่าเจ้าของทำหลงลืมไว้แต่เมื่อใดดังนี้ เป็นเรื่องเก็บของตกของหายตามมาตรา 318 หาใช่เรื่องลักทรัพย์ไม่ เมื่อโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยลักทรัพย์ ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของคำพิพากษาศาลฎีกาต่อจำเลยที่ไม่ได้ฎีกา หากพยานหลักฐานโจทก์ไม่เพียงพอ
ในคดีที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยหลายคน จำเลยบางคนฎีกาขอให้ยกฟ้องนั้น เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังเชื่อฟังไม่ได้ว่าได้มีการทำผิดดังฟ้อง ซึ่งเป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยที่มิได้ฎีกาขึ้นมาด้วยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของการพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ฎีกาต่อจำเลยที่ไม่ฎีกาในคดีอาญา
ในคดีที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยหลายคน จำเลยบางคนฎีกาขอให้ยกฟ้องนั้น เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าพะยานหลักฐานโจทก์ยังเชื่อฟังไม่ได้ว่า ได้มีการทำผิดดังฟ้อง ซึ่งเป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยที่มิได้ฎีกาขึ้น มาด้วยได้
of 55