คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นิติธรรมประกรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 548 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 629/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันที่ไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ค้ำประกัน ย่อมไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย
สำเนาสัญญาค้ำประกันที่โจทก์ส่งพร้อมฟ้อง มีลายมือชื่อผู้ค้ำประกัน ผู้ให้กู้ และลายมือชื่อ ผู้เขียนสัญญาและพยานตามต้นสัญญาค้ำประกันที่โจทก์อ้างและส่งศาลมีลายพิมพ์นิ้วมือและเขียนบอกชื่อผู้ค้ำประกันกับมีพยานลงชื่อไว้ 3 คนซึ่งโจทก์ไม่ได้อ้างพยานเหล่านั้นเป็นพยานแต่กลับนำพยานอื่นมาสืบว่าผู้ค้ำประกันลงลายพิมพ์นิ้วมือไว้โดยมีพยาน 3 คนลงชื่อไว้ กับมีพยานอีกคนหนึ่งลงลายมือชื่อไว้ในฐานะผู้เขียนสัญญาแต่อย่างเดียว หาได้มีฐานะเป็นพยานด้วยไม่ส่วนลายมือชื่อผู้ให้กู้ไม่มีดังนี้ ถือว่าโจทก์นำสืบขัดแย้งกับฟ้องของตนเพราะสำเนาสัญญาค้ำประกันเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องและต้องฟังว่าสัญญาค้ำประกันอันเป็นหลักฐานฟ้องผู้ค้ำประกันไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือผู้ค้ำประกันตามบทบัญญัติมาตรา 9 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีผลเท่ากับผู้ค้ำประกันมิได้ลงลายมือชื่อไว้ไม่เป็นหลักฐานที่โจทก์จะนำมาฟ้องได้ตาม มาตรา 680 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 629/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันโมฆะเนื่องจากขาดพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ค้ำประกัน
สำเนาสัญญาค้ำประกันที่โจทก์ส่งพร้อมฟ้อง มีลายมือชื่อผู้ค้ำประกัน ผู้ให้กู้ และลายมือชื่อ ผู้เขียนสัญญาและพยาน ตามต้นสัญญาค้ำประกันที่โจทก์อ้างและส่งศาลมีลายพิมพ์นิ้วมือและเขียนบอกชื่อผู้ค้ำประกันกับมีพยานลงชื่อไว้ 3 คนซึ่งโจทก์ไม่ได้อ้างพยานเหล่านั้นเป็นพยาน แต่กลับนำพยานอื่นมาสืบว่าผู้ค้ำประกันลงลายพิมพ์นิ้วมือไว้ โดยมีพยาน 3 คนลงชื่อไว้ กับมีพยานอีกคนหนึ่งลงลายมือชื่อไว้ในฐานะผู้เขียนสัญญาแต่อย่างเดียว หาได้มีฐานะเป็นพยานด้วยไม่ ส่วนลายมือชื่อผู้ให้กู้ไม่มีดังนี้ ถือว่าโจทก์นำสืบขัดแย้งกับฟ้องของตนเพราะสำเนาสัญญาค้ำประกันเป็นส่วนหนึ่งของฟ้อง และต้องฟังว่า สัญญาค้ำประกันอันเป็นหลักฐานฟ้องผู้ค้ำประกันไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือผู้ค้ำประกันตามบทบัญญัติมาตรา 9 ป.พ.พ. มีผลเท่ากับผู้ค้ำประกันมิได้ลงลายมือชื่อไว้ ไม่เป็นหลักฐานที่โจทก์จะนำมาฟ้องได้ตาม มาตรา 680 วรรค 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 627/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุพยานเพิ่มเติมในคดีแพ่ง: การยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติมเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องส่งสำเนาคำแถลง
การระบุพยานเพิ่มเติมก่อนเสร็จการสืบพยานของฝ่ายที่นำสืบก่อนทำได้โดยยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติมเท่านั้น หาจำต้องทำโดยมีสำเนาคำแถลงให้แก่คู่ความอีกฝ่ายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 627/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุพยานเพิ่มเติมในคดีแพ่ง: ยื่นบัญชีพยานเพียงพอแล้ว ไม่ต้องส่งสำเนาคำแถลง
การระบุพยานเพิ่มเติมก่อนเสร็จการสืบพยานของฝ่ายทีนำสืบก่อน ทำได้โดยยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติมเท่านั้น หาจำต้องทำโดยมีสำเนาคำแถลงให้แก่คู่ความอีกฝ่ายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถราง ชนรถยนต์เก๋ง ศาลฎีกาพิจารณาหลักฐานการกระทำและเหตุผลในการตัดสิน
รถยนต์เก๋งออกพ้นปากตรอกมาคารางรถรางอยู่ก่อนแล้วและไม่สามารถจะแล่นต่อไปในถนนได้ เพราะกำลังมีรถยนต์แล่นผ่านไปมาทั้งจะถอยหลังก็ไม่ได้เพราะจะชนรถยนต์บรรทุกที่แล่นสวนเข้าตรอกไปเวลานั้นจำเลยกำลังขับรถรางมาและจำเลยเห็นรถยนต์เก๋งในระยะไกลประมาณ 30 เมตรจำเลยก็ไม่หยุดหรือเบารถราง แต่จำเลยกลับโบกมือให้รถยนต์เก๋งถอยออกไป ต่อเมื่อเข้ามาในระยะใกล้แล้วจำเลยจึงได้พยายามหยุดรถ แต่หยุดไม่ทันท่วงทีรถรางจึงชนรถยนต์เก๋งเสียหาย เช่นนี้ ถือว่าจำเลยกระทำโดยประมาทตามกฎหมายแล้ว
ฎีกาว่า ศาลฟังข้อเท็จจริงโดยไม่มีพยานหลักฐานในสำนวนสนับสนุน เป็นฎีกาในข้อกฎหมาย
แต่ถ้าฎีกาว่า ศาลฟังโดยมีพยานหลักฐานแต่ไม่ควรฟังดังนั้นเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถราง ชนรถยนต์เก๋ง ผู้ขับมีหน้าที่ต้องเบารถหรือหยุดเมื่อเห็นรถเก๋งอยู่ในสถานการณ์คับขัน
รถยนต์เก๋งออกพ้นปากตรอกมาคารางรถรางอยู่ก่อนแล้ว และไม่สามารถจะแล่นต่อไปในถนนได้ เพราะกำลังมีรถยนต์แล่นผ่านไปมา ทั้งจะถอยหลังก็ไม่ได้ เพราะจะชนรถยนต์บรรทุกที่แล่นสวนเข้าตรอกไป เวลานั้นจำเลยกำลังขับรถรางมาและจำเลยเห็นรถยนต์เก๋งในระยะประมาณ 30 เมตร จำเลยก็ไม่หยุดหรือเบารถราง แต่จำเลยกลับโบกมือให้รถยนต์เก๋งถอยออกไป ต่อเมื่อเข้ามาในระยะใกล้แล้วจำเลยจึงได้พยายามหยุดรถ แต่หยุดไม่ทันท่วงที รถรางถึงชนรถยนต์เก๋งเสียหาย เช่นนี้ ถือว่าจำเลยกระทำโดยประมาทตามกฎหมายแล้ว
ฎีกาว่า ศาลฟังข้อเท็จจริงโดยไม่มีพยานหลักฐานในสำนวนสนับสนุน เป็นฎีกาในข้อกฎหมาย
แต่ถ้าฎีกาว่า ศาลฟังโดยมีพยานหลักฐานแต่ไม่ควรฟังดังนั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิในที่ดินโดยมิได้จดทะเบียนและการซื้อโดยสุจริตของผู้รับโอน
แม้จะฟังเป็นความจริงดังจำเลย อ้างว่าบิดาได้ยกที่พิพาทมีโฉนดให้จำเลยจำเลยเข้าครอบครองติดต่อกันมา 19 ปี ก็ดี แต่เมื่อจำเลยไม่ได้จดทะเบียนสิทธิที่ได้มานั้น ก็ย่อมจะมีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนไม่ได้ และจำเลยจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้ได้รับโอนมาด้วยการซื้อโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน ทั้งได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วหาได้ไม่
โจทก์ขอแก้ฟ้องเฉพาะเลขที่ของโฉนด และจำนวนเนื้อที่ดินเพื่อให้ถูกต้องกับความจริง เป็นการแก้เพียงเล็กน้อยและขอแก้ก่อนมีการชี้สองสถาน ทั้งมิได้ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะจำเลยก็ยังคงมีข้อต่อสู้เช่นเมื่อก่อนแก้ เช่นนี้ ศาลย่อมอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้
การที่ศาลต้องรอการพิจารณามานานโดยจำเลยขอให้รอฟังผลของคณะกรรมการจัดสรรที่ดินและสั่งจำหน่ายคดีเสียชั่วคราว กับสั่งว่าหากปรากฏผลประการใดก็ให้คู่ความแถลงให้ศาลทราบเพื่อดำเนินการต่อไปนั้น มีผลเป็นคำสั่งให้รอคดีไว้ชั่วคราว หาใช่จำหน่ายคดีออกจากสารบบความเสียทีเดียวไม่ ต่อมาเมื่อโจทก์ร้องขอให้พิจารณาต่อไป ศาลก็นัดพิจารณาใหม่ได้ โดยมิต้องมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวนั้น การพิจารณาของศาลต่อจากนั้น ย่อมไม่เสียไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิในที่ดินโดยมิได้จดทะเบียนและการคุ้มครองผู้ซื้อโดยสุจริต
แม้จะฟังเป็นความจริงดังจำเลยอ้างว่าบิดาได้ยกที่พิพาทมีโฉนดให้จำเลย จำเลยเข้าครอบครองติดต่อกันมา 19 ปี ก็ดี แต่เมื่อจำเลยไม่ได้จดทะเบียนสิทธิที่ได้มานั้นก็ย่อมจะมีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนไม่ได้และจำเลยจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้ได้รับโอนมาด้วยการซื้อโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนทั้งได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วหาได้ไม่
โจทก์ขอแก้ฟ้องเฉพาะเลขที่ของโฉนด และจำนวนเนื้อที่ดินเพื่อให้ถูกต้องกับความจริงเป็นการแก้เพียงเล็กน้อยและขอแก้ก่อนมีการชี้สองสถาน ทั้งมิได้ทำให้จำเลยเสียเปรียบเพราะจำเลยก็ยังคงมีข้อต่อสู้เช่นเมื่อก่อนแก้ เช่นนี้ศาลย่อมอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้
การที่ศาลต้องรอการพิจารณามานานโดยจำเลยขอให้รอฟังผลของคณะกรรมการจัดสรรที่ดินและสั่งจำหน่ายคดีเสียชั่วคราวกับสั่งว่าหากปรากฏผลประการใดก็ให้คู่ความแถลงให้ศาลทราบเพื่อดำเนินการต่อไปนั้น มีผลเป็นคำสั่งให้รอคดีไว้ชั่วคราว หาใช่จำหน่ายคดีออกจากสารบบความเสียทีเดียวไม่ต่อมาเมื่อโจทก์ร้องขอให้พิจารณาต่อไปศาลก็นัดพิจารณาใหม่ได้โดยมิต้องมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวนั้นการพิจารณาของศาลต่อจากนั้นย่อมไม่เสียไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมศาลที่สั่งให้เป็นพับเป็นเงินที่โจทก์ต้องได้รับคืน แม้ศาลอุทธรณ์จะสั่งให้จำเลยชำระค่าธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ค่าธรรมเนียมและค่าทนายความให้เป็นพับไปทั้งสองฝ่าย และศาลอุทธรณ์มิได้แก้ไขเรื่องค่าธรรมเนียมที่ศาลชั้นต้นสั่งแต่ประการใด ดังนี้ ค่าธรรมเนียมที่โจทก์เสียไปในระหว่างดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลชั้นต้นก็ต้องพับแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมศาลที่ถูกสั่งให้เป็นพับในชั้นศาลชั้นต้น ถือเป็นสิทธิที่โจทก์ได้รับคืน แม้มีการพิพากษาในชั้นอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ค่าธรรมเนียมและค่าทนายความให้เป็นพับไปทั้งสองฝ่ายและศาลอุทธรณ์มิได้แก้ไขเรื่องค่าธรรมเนียมที่ศาลชั้นต้นสั่งแต่ประการใดดังนี้ค่าธรรมเนียมที่โจทก์เสียไปในระหว่างดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลชั้นต้นก็ต้องพับแก่โจทก์
of 55