พบผลลัพธ์ทั้งหมด 76 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1802/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่ชดใช้เงินทดรองของตัวแทนซื้อขายหุ้น, การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไม่เป็นโมฆะหากไม่ปฏิบัติตามแบบ
โจทก์เป็นตัวแทนของจำเลยในการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ฯ จำเลยจะปฏิเสธไม่ยอมชดใช้เงินทดรองให้โจทก์ได้ก็เฉพาะเมื่อเงินทดรองนั้นมิใช่เป็นการจำเป็น หรือจำเลยไม่ต้องรับผิดชดใช้เงินทดรองนั้นด้วยเหตุประการอื่นทั้งไม่ปรากฏว่าการที่โจทก์ซื้อขายหุ้นแทนจำเลยโดยไม่ได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 นั้นเป็นการผิดหน้าที่ของตัวแทน หรือทำให้จำเลยเสียผลประโยชน์ ดังนั้นจำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้เงินทดรองที่โจทก์ได้ออกไปก่อนรวมทั้งดอกเบี้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 816
การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ฯ ตามปกติแม้จะมีการเก็งกำไรกัน และมีลักษณะเป็นการเสี่ยงโชคอยู่บ้าง ก็หาใช่เป็นการพนันขันต่อตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 853 ไม่ (อ้างฎีกาที่ 2523/2527).
ความมุ่งหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 วรรคสองที่บัญญัติว่า การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อของผู้โอน กับผู้รับโอน มีพยานคนหนึ่งอย่างน้อยลงชื่อรับรองลายมือชื่อเป็นโมฆะนั้น เป็นการกำหนดแบบของการโอนหุ้นว่าจะต้องทำอย่างไรจึงจะได้มีหลักฐานการโอนที่แน่นอนเท่านั้น หาใช่เป็นแบบของการซื้อขายหุ้นไม่ ผู้ซื้อหุ้นที่มิได้ทำการโอนให้ถูกต้องตามบทบัญญัติดังกล่าว ยังไม่อาจอ้างว่าเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ยังไม่อาจใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นในบริษัทตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติไว้เท่านั้นแต่หาถึงกับทำให้การซื้อขายหุ้นเป็นโมฆะไปด้วยไม่
การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ฯ ตามปกติแม้จะมีการเก็งกำไรกัน และมีลักษณะเป็นการเสี่ยงโชคอยู่บ้าง ก็หาใช่เป็นการพนันขันต่อตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 853 ไม่ (อ้างฎีกาที่ 2523/2527).
ความมุ่งหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 วรรคสองที่บัญญัติว่า การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อของผู้โอน กับผู้รับโอน มีพยานคนหนึ่งอย่างน้อยลงชื่อรับรองลายมือชื่อเป็นโมฆะนั้น เป็นการกำหนดแบบของการโอนหุ้นว่าจะต้องทำอย่างไรจึงจะได้มีหลักฐานการโอนที่แน่นอนเท่านั้น หาใช่เป็นแบบของการซื้อขายหุ้นไม่ ผู้ซื้อหุ้นที่มิได้ทำการโอนให้ถูกต้องตามบทบัญญัติดังกล่าว ยังไม่อาจอ้างว่าเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ยังไม่อาจใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นในบริษัทตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติไว้เท่านั้นแต่หาถึงกับทำให้การซื้อขายหุ้นเป็นโมฆะไปด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2810/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ตกภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งฯ และสิทธิยึดหน่วงใบหุ้นของตัวแทน
พระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 เป็นกฎหมายพิเศษที่บัญญัติไว้เพื่อกิจการซื้อขายหุ้นใน ตลาดหลักทรัพย์ โดยเฉพาะการซื้อขายหุ้นใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจึงไม่ตกอยู่ใน บังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1129เมื่อการซื้อขายหุ้นดังกล่าวได้กระทำตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งออกตามความใน มาตรา 15(8) แห่ง พระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงไม่ตกเป็นโมฆะ
โจทก์เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ซื้อหุ้นตามคำสั่งของจำเลยลูกค้าแล้ว และได้รับใบหุ้นและ ตราสารโอนหุ้นมาแล้ว โจทก์จะต้องเก็บรักษาไว้แทนจำเลยเพื่อส่งมอบให้จำเลยเมื่อจำเลยชำระเงิน ที่โจทก์ออกทดรอง ซื้อหุ้นดังกล่าวจนครบหากจำเลยไม่ชำระแม้โจทก์นำคดีมาฟ้องเรียกให้จำเลยชำระเงินดังกล่าวโดยมิได้ส่งมอบและโอนหุ้นนั้นให้ จำเลยเสียก่อนก็ดีหรือมิได้ขอปฏิบัติการชำระหนี้ให้แก่จำเลยก็ดีโจทก์ ก็มีอำนาจฟ้อง ขอให้จำเลยชำระหนี้ค่าหุ้นที่โจทก์ออกทดรองแทนจำเลยไปได้ เพราะแม้ต่างฝ่ายต่างมีหนี้ที่จะต้องชำระต่อกัน แต่ก็ มิใช่หนี้ตาม สัญญาต่างตอบแทนแต่โจทก์ซึ่งเป็นตัวแทนมีสิทธิ ยึดหน่วงใบหุ้นนั้นไว้ จนกว่าโจทก์จะได้รับเงินบรรดาที่ ค้างชำระเพราะเป็นตัวแทนจากจำเลย ผู้เป็นตัวการ เมื่อจำเลย ชำระเงินบรรดาที่ค้างชำระดังกล่าวแล้วโจทก์ ก็จะต้อง ส่งมอบใบหุ้นพร้อมกับตราสารโอนหุ้นให้แก่จำเลย
โจทก์เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ซื้อหุ้นตามคำสั่งของจำเลยลูกค้าแล้ว และได้รับใบหุ้นและ ตราสารโอนหุ้นมาแล้ว โจทก์จะต้องเก็บรักษาไว้แทนจำเลยเพื่อส่งมอบให้จำเลยเมื่อจำเลยชำระเงิน ที่โจทก์ออกทดรอง ซื้อหุ้นดังกล่าวจนครบหากจำเลยไม่ชำระแม้โจทก์นำคดีมาฟ้องเรียกให้จำเลยชำระเงินดังกล่าวโดยมิได้ส่งมอบและโอนหุ้นนั้นให้ จำเลยเสียก่อนก็ดีหรือมิได้ขอปฏิบัติการชำระหนี้ให้แก่จำเลยก็ดีโจทก์ ก็มีอำนาจฟ้อง ขอให้จำเลยชำระหนี้ค่าหุ้นที่โจทก์ออกทดรองแทนจำเลยไปได้ เพราะแม้ต่างฝ่ายต่างมีหนี้ที่จะต้องชำระต่อกัน แต่ก็ มิใช่หนี้ตาม สัญญาต่างตอบแทนแต่โจทก์ซึ่งเป็นตัวแทนมีสิทธิ ยึดหน่วงใบหุ้นนั้นไว้ จนกว่าโจทก์จะได้รับเงินบรรดาที่ ค้างชำระเพราะเป็นตัวแทนจากจำเลย ผู้เป็นตัวการ เมื่อจำเลย ชำระเงินบรรดาที่ค้างชำระดังกล่าวแล้วโจทก์ ก็จะต้อง ส่งมอบใบหุ้นพร้อมกับตราสารโอนหุ้นให้แก่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2810/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ตกภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งฯ และสิทธิยึดหน่วงใบหุ้นของตัวแทน
พระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 เป็นกฎหมายพิเศษที่บัญญัติไว้เพื่อกิจการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ โดยเฉพาะ การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงไม่ตกอยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย ์มาตรา 1129 ้เมื่อการซื้อขายหุ้นดังกล่าวได้กระทำตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งออกตามความใน มาตรา 15 (8) แห่งพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงไม่ตกเป็นโมฆะ
โจทก์เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ซื้อหุ้นตามคำสั่งของจำเลยลูกค้าแล้ว และได้รับใบหุ้นและตราสารโอนหุ้นมาแล้ว โจทก์จะต้องเก็บรักษาไว้แทนจำเลย เพื่อส่งมอบให้จำเลยเมื่อจำเลยชำระเงิน ที่โจทก์ออกทด]อง ซื้อหุ้นดังกล่าวจนครบหากจำเลยไม่ชำระแม้โจทก์นำคดีมาฟ้องเรียกให้จำเลยชำระเงินดังกล่าวโดยมิได้ส่งมอบและโอนหุ้นนั้นให้จำเลยเสียก่อนก็ดีหรือมิได้ขอปฏิบัติการชำระหนี้ให้แก่จำเลยก็ดี โจทก์ก็มีอำนาจฟ้อง ขอให้จำเลยชำระหนี้ค่าหุ้นที่โจทก์ออกทดรองแทนจำเลยไปได้เพราะแม้ต่างฝ่ายต่างมีหนี้ที่จะต้องชำระต่อกัน แต่ก็มิใช่หนี้ตามสัญญาต่างตอบแทนแต่โจทก์ ซึ่งเป็นตัวแทนมีสิทธิยึดหน่วงใบหุ้นนั้นไว้ จนกว่าโจทก์จะได้รับเงินบรรดาที่ค้างชำระเพราะเป็นตัวแทนจากจำเลยผู้เป็นตัวการ เมื่อจำเลยชำระเงินบรรดาที่ค้างชำระดังกล่าวแล้ว โจทก์ ก็จะต้องส่งมอบใบหุ้นพร้อมกับตราสารโอนหุ้นให้แก่จำเลย
โจทก์เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ซื้อหุ้นตามคำสั่งของจำเลยลูกค้าแล้ว และได้รับใบหุ้นและตราสารโอนหุ้นมาแล้ว โจทก์จะต้องเก็บรักษาไว้แทนจำเลย เพื่อส่งมอบให้จำเลยเมื่อจำเลยชำระเงิน ที่โจทก์ออกทด]อง ซื้อหุ้นดังกล่าวจนครบหากจำเลยไม่ชำระแม้โจทก์นำคดีมาฟ้องเรียกให้จำเลยชำระเงินดังกล่าวโดยมิได้ส่งมอบและโอนหุ้นนั้นให้จำเลยเสียก่อนก็ดีหรือมิได้ขอปฏิบัติการชำระหนี้ให้แก่จำเลยก็ดี โจทก์ก็มีอำนาจฟ้อง ขอให้จำเลยชำระหนี้ค่าหุ้นที่โจทก์ออกทดรองแทนจำเลยไปได้เพราะแม้ต่างฝ่ายต่างมีหนี้ที่จะต้องชำระต่อกัน แต่ก็มิใช่หนี้ตามสัญญาต่างตอบแทนแต่โจทก์ ซึ่งเป็นตัวแทนมีสิทธิยึดหน่วงใบหุ้นนั้นไว้ จนกว่าโจทก์จะได้รับเงินบรรดาที่ค้างชำระเพราะเป็นตัวแทนจากจำเลยผู้เป็นตัวการ เมื่อจำเลยชำระเงินบรรดาที่ค้างชำระดังกล่าวแล้ว โจทก์ ก็จะต้องส่งมอบใบหุ้นพร้อมกับตราสารโอนหุ้นให้แก่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2489/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิบัติหน้าที่ของตัวแทนซื้อขายหุ้นโดยชอบ แม้ชื่อผู้ถือหุ้นยังไม่เปลี่ยน และความรับผิดชอบต่อการส่งมอบหุ้น
จำเลยเป็นนายหน้าและตัวแทนของโจทก์เพื่อทำการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีระเบียบวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นเป็นกรณีพิเศษ การจดทะเบียนโอนหุ้นเป็นชื่อลูกค้าต้องเป็นไปตามข้อตกลงระหว่างลูกค้ากับสมาชิกผู้ซื้อโดยไม่มีระเบียบข้อบังคับให้สมาชิกผู้ซื้อต้องโอนชื่อในหุ้นที่ซื้อมาให้เป็นชื่อของลูกค้าก่อน เพราะลูกค้ายังมิได้ชำระเงินและไม่สะดวกในการสั่งขายหุ้นนั้นต่อไปโจทก์ยอมผูกพันตนและรับผลการปฏิบัติของจำเลยตลอดมา ดังนี้ เมื่อจำเลยซื้อหุ้นให้โจทก์ตามคำสั่งของโจทก์แล้วนำใบหุ้นพร้อมตราสารการโอนหุ้นมาเก็บรักษาไว้เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของโจทก์ และขณะเดียวกันก็ยึดไว้เป็นประกันการชำระหนี้ด้วย แม้จะยังมิได้ใส่ชื่อโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นก็ย่อมเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนโดยชอบ จำเลยโอนหุ้นที่ซื้อแทนโจทก์เป็นชื่อโจทก์เนื่องจากบริษัทประกาศปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น ต่อมาจำเลยโอนหุ้นดังกล่าวให้แก่ลูกค้ารายอื่นไปแต่เมื่อจำเลยยังมีหุ้นของบริษัทนั้นพร้อมที่จะส่งมอบให้โจทก์และต่อมาจำเลยก็ส่งมอบใบตอบรับตราสารการโอนหุ้นมีค่าเท่ากับใบหุ้นให้โจทก์ครบถ้วน ดังนี้ แม้โจทก์จะเข้าใจว่าจำเลยขายหุ้นของโจทก์ไปโดยพลการ เมื่อโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าได้รับความเสียหายจากการกระทำของจำเลยประการใดจึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนโดยไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2871/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายหุ้น: ข้อพิพาทเรื่องการจัดการซื้อหุ้นและการรับผิดชอบหนี้
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า โจทก์ไม่ได้จัดการซื้อหุ้นให้จำเลยและออกเงินทดรองแทนจำเลย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดตามฟ้องโจทก์ โจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านในปัญหาข้อนี้ ข้อเท็จจริงจึงยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ดังนั้นแม้จะวินิจฉัยข้อกฎหมายตามฎีกาของโจทก์ว่า นิติกรรมระหว่างโจทก์กับจำเลยไม่ตกเป็นโมฆะก็ไม่ทำให้โจทก์ชนะคดีได้ ฎีกาของโจทก์จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2871/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทซื้อขายหุ้น: การที่โจทก์ไม่ได้พิสูจน์การจัดการซื้อหุ้นและออกเงินทดรอง ทำให้จำเลยไม่ต้องรับผิด
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า โจทก์ไม่ได้จัดการซื้อหุ้นให้จำเลยและออกเงินทดรองแทนจำเลย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดตามฟ้องโจทก์โจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านในปัญหาข้อนี้ ข้อเท็จจริงจึงยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ดังนั้นแม้จะวินิจฉัยข้อกฎหมายตามฎีกาของโจทก์ว่า นิติกรรมระหว่างโจทก์กับจำเลยไม่ตกเป็นโมฆะ ก็ไม่ทำให้โจทก์ชนะคดีได้ ฎีกาของโจทก์จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2856/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทตัวการตัวแทน, อายุความ, การรับฟังพยานหลักฐาน, ความเสียหายจากการไม่ส่งมอบหุ้น
แม้โจทก์จะอ้างพยานหลักฐานฝ่าฝืนต่อ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 วรรคแรก แต่จำเลยก็ไม่เสียเปรียบในเชิงคดีทั้ง มาตรา 87 (2) ให้ศาล มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของมาตรา 90 ได้ ในกรณีที่ศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี ฉะนั้นศาลจึงมีอำนาจใช้ดุลพินิจรับฟังพยานหลักฐานที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมายดังกล่าวได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 เป็นบทบังคับเพื่อความสมบูรณ์ของสัญญาที่ตัวแทนทำต่อบุคคลภายนอกเท่านั้น มิได้ใช้บังคับสำหรับข้อพิพาทระหว่างตัวการกับตัวแทน มูลหนี้ตามสัญญาตัวแทนจึงไม่ตกอยู่ในบังคับของบทกฎหมายดังกล่าวเมื่อโจทก์เป็นตัวแทนจำเลยในการขายหุ้นจำเลยซึ่งเป็นตัวการจะต้องรับผิดต่อโจทก์ในการจัดทำกิจการที่จำเลยมอบหมายแม้การตั้งตัวแทนระหว่างจำเลยกับโจทก์จะไม่ได้ทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือก็ตาม
ข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถูกกำหนดขึ้นเพื่อให้สมาชิกถือปฏิบัติ หากสมาชิกใดฝ่าฝืนก็อาจถูกลงโทษตามข้อบังคับดังกล่าวแต่ไม่ทำให้ความผูกพันระหว่างจำเลยกับโจทก์ในฐานะตัวการกับตัวแทนเสียไป
จำเลยมีหน้าที่ต้องส่งมอบหุ้นที่จำเลยสั่งขายให้แก่โจทก์เพื่อส่งมอบแก่ผู้ซื้อภายใน 4 วัน แต่จำเลยไม่ส่งมอบให้ โจทก์จึงต้องเอาหุ้นที่โจทก์มีอยู่ในครอบครองส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อแล้วซื้อหุ้นใหม่มาทดแทนพฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าโจทก์ซึ่งเป็นตัวแทนต้องเสียหายเนื่องจากการขายหุ้นตามคำสั่งของจำเลยซึ่งเป็นตัวการ โจทก์จึงเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ และความเสียหายของโจทก์เกิดขึ้นเมื่อชำระหนี้แทนจำเลย จึงต้องคิดค่าเสียหายตามราคาหุ้นในวันที่โจทก์มอบหุ้นให้แก่ผู้ซื้อ จะถือตามราคาหุ้นในวันที่โจทก์ซื้อหุ้นใหม่มาทดแทนหาได้ไม่
โจทก์มิใช่เป็นพ่อค้าตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (1) หรือ (7) แต่โจทก์เป็นตัวแทนเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยซึ่งเป็นตัวการตามมาตรา 816 วรรคท้าย ซึ่งกฎหมายมิได้กำหนดระยะเวลาให้ใช้บังคับสิทธิเรียกร้องไว้เป็นอย่างอื่นจึงมีอายุความ10 ปี ตามมาตรา 164
แม้ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีเป็นเหตุให้จำเลยไม่ได้ถามค้าน ส. พยานโจทก์ แต่จำเลยก็ได้อ้างและนำส. เข้าเบิกความเป็นพยานจำเลย ทั้งเอกสารที่จำเลยประสงค์จะถามค้านก็มิใช่เอกสารสำคัญในการวินิจฉัยคดี จึงไม่จำเป็นต้องให้โอกาสจำเลยถามค้าน ส. อีก
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 เป็นบทบังคับเพื่อความสมบูรณ์ของสัญญาที่ตัวแทนทำต่อบุคคลภายนอกเท่านั้น มิได้ใช้บังคับสำหรับข้อพิพาทระหว่างตัวการกับตัวแทน มูลหนี้ตามสัญญาตัวแทนจึงไม่ตกอยู่ในบังคับของบทกฎหมายดังกล่าวเมื่อโจทก์เป็นตัวแทนจำเลยในการขายหุ้นจำเลยซึ่งเป็นตัวการจะต้องรับผิดต่อโจทก์ในการจัดทำกิจการที่จำเลยมอบหมายแม้การตั้งตัวแทนระหว่างจำเลยกับโจทก์จะไม่ได้ทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือก็ตาม
ข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถูกกำหนดขึ้นเพื่อให้สมาชิกถือปฏิบัติ หากสมาชิกใดฝ่าฝืนก็อาจถูกลงโทษตามข้อบังคับดังกล่าวแต่ไม่ทำให้ความผูกพันระหว่างจำเลยกับโจทก์ในฐานะตัวการกับตัวแทนเสียไป
จำเลยมีหน้าที่ต้องส่งมอบหุ้นที่จำเลยสั่งขายให้แก่โจทก์เพื่อส่งมอบแก่ผู้ซื้อภายใน 4 วัน แต่จำเลยไม่ส่งมอบให้ โจทก์จึงต้องเอาหุ้นที่โจทก์มีอยู่ในครอบครองส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อแล้วซื้อหุ้นใหม่มาทดแทนพฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าโจทก์ซึ่งเป็นตัวแทนต้องเสียหายเนื่องจากการขายหุ้นตามคำสั่งของจำเลยซึ่งเป็นตัวการ โจทก์จึงเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ และความเสียหายของโจทก์เกิดขึ้นเมื่อชำระหนี้แทนจำเลย จึงต้องคิดค่าเสียหายตามราคาหุ้นในวันที่โจทก์มอบหุ้นให้แก่ผู้ซื้อ จะถือตามราคาหุ้นในวันที่โจทก์ซื้อหุ้นใหม่มาทดแทนหาได้ไม่
โจทก์มิใช่เป็นพ่อค้าตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (1) หรือ (7) แต่โจทก์เป็นตัวแทนเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยซึ่งเป็นตัวการตามมาตรา 816 วรรคท้าย ซึ่งกฎหมายมิได้กำหนดระยะเวลาให้ใช้บังคับสิทธิเรียกร้องไว้เป็นอย่างอื่นจึงมีอายุความ10 ปี ตามมาตรา 164
แม้ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีเป็นเหตุให้จำเลยไม่ได้ถามค้าน ส. พยานโจทก์ แต่จำเลยก็ได้อ้างและนำส. เข้าเบิกความเป็นพยานจำเลย ทั้งเอกสารที่จำเลยประสงค์จะถามค้านก็มิใช่เอกสารสำคัญในการวินิจฉัยคดี จึงไม่จำเป็นต้องให้โอกาสจำเลยถามค้าน ส. อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2856/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานฝ่าฝืนกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง, สัญญาตัวแทน, ค่าเสียหายจากการไม่ส่งมอบหุ้น, และอายุความ
แม้โจทก์จะอ้างพยานหลักฐานฝ่าฝืนต่อ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 วรรคแรก แต่จำเลยก็ไม่เสียเปรียบในเชิงคดีทั้ง มาตรา 87(2) ให้ศาล มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของมาตรา 90 ได้ ในกรณีที่ศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี ฉะนั้นศาลจึงมีอำนาจใช้ดุลพินิจรับฟังพยานหลักฐานที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมายดังกล่าวได้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 เป็นบทบังคับเพื่อความสมบูรณ์ของสัญญาที่ตัวแทนทำต่อบุคคลภายนอกเท่านั้นมิได้ใช้บังคับสำหรับข้อพิพาทระหว่างตัวการกับตัวแทนมูลหนี้ตามสัญญาตัวแทนจึงไม่ตกอยู่ในบังคับของบทกฎหมายดังกล่าวเมื่อโจทก์เป็นตัวแทนจำเลยในการขายหุ้นจำเลยซึ่งเป็นตัวการจะต้องรับผิดต่อโจทก์ในการจัดทำกิจการที่จำเลยมอบหมาย แม้การตั้งตัวแทนระหว่างจำเลยกับโจทก์จะไม่ได้ทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือก็ตาม ข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถูกกำหนดขึ้นเพื่อให้สมาชิกถือปฏิบัติ หากสมาชิกใดฝ่าฝืนก็อาจถูกลงโทษตามข้อบังคับดังกล่าวแต่ไม่ทำให้ความผูกพันระหว่างจำเลยกับโจทก์ในฐานะตัวการกับตัวแทนเสียไป จำเลยมีหน้าที่ต้องส่งมอบหุ้นที่จำเลยสั่งขายให้แก่โจทก์เพื่อส่งมอบแก่ผู้ซื้อภายใน 4 วัน แต่จำเลยไม่ส่งมอบให้ โจทก์จึงต้องเอาหุ้นที่โจทก์มีอยู่ในครอบครองส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อแล้วซื้อหุ้นใหม่มาทดแทนพฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าโจทก์ซึ่งเป็นตัวแทนต้องเสียหายเนื่องจากการขายหุ้นตามคำสั่งของจำเลยซึ่งเป็นตัวการ โจทก์จึงเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ และความเสียหายของโจทก์เกิดขึ้นเมื่อชำระหนี้แทนจำเลย จึงต้องคิดค่าเสียหายตามราคาหุ้นในวันที่โจทก์มอบหุ้นให้แก่ผู้ซื้อ จะถือตามราคาหุ้นในวันที่โจทก์ซื้อหุ้นใหม่มาทดแทนหาได้ไม่ โจทก์มิใช่เป็นพ่อค้าตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) หรือ (7) แต่โจทก์เป็นตัวแทนเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยซึ่งเป็นตัวการตามมาตรา 816 วรรคท้าย ซึ่งกฎหมายมิได้กำหนดระยะเวลาให้ใช้บังคับสิทธิเรียกร้องไว้เป็นอย่างอื่นจึงมีอายุความ10 ปี ตามมาตรา 164 แม้ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีเป็นเหตุให้จำเลยไม่ได้ถามค้าน ส. พยานโจทก์ แต่จำเลยก็ได้อ้างและนำส. เข้าเบิกความเป็นพยานจำเลย ทั้งเอกสารที่จำเลยประสงค์จะถามค้านก็มิใช่เอกสารสำคัญในการวินิจฉัยคดี จึงไม่จำเป็นต้องให้โอกาสจำเลยถามค้าน ส. อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2801/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายหุ้นแทนกัน ตัวแทนต้องเก็บรักษาหุ้นไว้ให้ตัวการ การซื้อขายหุ้นโดยไม่ได้รับคำสั่งถือเป็นโมฆะ
โจทก์เป็นบริษัทมีวัตถุประสงค์เป็นตัวแทนนายหน้าเกี่ยวกับ การค้าหลักทรัพย์ จำเลยมอบอำนาจให้โจทก์ซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแทนจำเลย โดยจำเลยเปิด บัญชีเดินสะพัดไว้กับโจทก์ จำเลยสั่งให้โจทก์ซื้อหุ้นรวม 11 ครั้ง โจทก์อ้างว่าได้ซื้อหุ้นให้จำเลยแล้ว แต่เมื่อ จำเลยสงสัยว่าโจทก์อาจไม่ได้ซื้อหุ้นแทนจำเลยตาม ใบรายงานการซื้อซึ่งโจทก์ให้จำเลยลงลายมือชื่อในช่องผู้ซื้อจำเลยจึงขอดูใบหุ้น โจทก์ก็ไม่ยอมให้ดู และเมื่อศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์ส่งใบหุ้นตามฟ้องที่ซื้อแทนจำเลยโจทก์ก็ไม่สามารถส่งใบหุ้นตามฟ้องหรือใบหุ้นตามใบรายงานการซื้อที่อ้างว่าซื้อแทนจำเลยกลับส่งสำเนาภาพถ่ายใบหุ้นที่ซื้อมาภายหลังแทน เนื่องจากโจทก์ นำหุ้นที่อ้างว่าซื้อแทนจำเลยนั้นไปขายโดยจำเลยมิได้สั่งขาย และโจทก์มีลูกค้าจำนวนมาก การซื้อขายหุ้นเป็นธุรกิจของโจทก์ที่กระทำอยู่เป็นประจำ พฤติการณ์ดังกล่าวไม่เชื่อว่าหุ้นตามฟ้องเป็นหุ้นที่โจทก์ซื้อแทนจำเลยโดยเฉพาะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2801/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายหุ้นแทนผู้อื่น การพิสูจน์เจตนาซื้อขายจริง และการเก็บรักษาหลักฐานการซื้อขาย
โจทก์เป็นบริษัทมีวัตถุประสงค์เป็นตัวแทนนายหน้าเกี่ยวกับ การค้าหลักทรัพย์ จำเลยมอบอำนาจให้โจทก์ซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแทนจำเลยโดยจำเลยเปิด บัญชีเดินสะพัดไว้กับโจทก์ จำเลยสั่งให้โจทก์ซื้อหุ้นรวม 11 ครั้ง โจทก์อ้างว่าได้ซื้อหุ้นให้จำเลยแล้ว แต่เมื่อจำเลยสงสัยว่าโจทก์อาจไม่ได้ซื้อหุ้นแทนจำเลยตามใบรายงานการซื้อซึ่งโจทก์ให้จำเลยลงลายมือชื่อในช่องผู้ซื้อ จำเลยจึงขอดูใบหุ้น โจทก์ก็ไม่ยอมให้ดู และเมื่อศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์ส่งใบหุ้นตามฟ้องที่ซื้อแทนจำเลย โจทก์ก็ไม่สามารถส่งใบหุ้นตามฟ้องหรือใบหุ้นตามใบรายงานการซื้อที่อ้างว่าซื้อแทนจำเลยกลับส่งสำเนาภาพถ่ายใบหุ้นที่ซื้อมาภายหลังแทน เนื่องจากโจทก์ นำหุ้นที่อ้างว่าซื้อแทนจำเลยนั้นไปขายโดยจำเลยมิได้สั่งขาย และโจทก์มีลูกค้าจำนวนมาก การซื้อขายหุ้นเป็นธุรกิจของโจทก์ที่กระทำอยู่เป็นประจำ พฤติการณ์ดังกล่าวไม่เชื่อว่าหุ้นตามฟ้องเป็นหุ้นที่โจทก์ซื้อแทนจำเลยโดยเฉพาะ