คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 288

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 145 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกระทำผิดชิงทรัพย์: หลักฐานการกระทำความผิดต้องชัดเจนถึงส่วนร่วม
ฟ้องว่าจำเลยใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเพื่อเป็นความสะดวกในการที่จะลักทรัพย์ ครั้นแล้วจำเลยลักเอาธนบัตรของผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษฐานชิงทรัพย์ เมื่อทางพิจารณาข้อที่ว่าจำเลยลักเงินพยานหลักฐานไม่มี เป็นแต่ได้ความว่าจำเลยรัดคอผู้เสียหายล้มลงแล้วมีชายอื่นอีกคนหนึ่งเอามีดกรีดกระเป๋าผู้เสียหายขาด แล้วชายนั้นล้วงเอาเงินในกระเป๋าได้ และวิ่งหนีไปส่วนจำเลยพอลุกขึ้นได้ก็วิ่งตามหลังคนล้วงเงินลับตาไปดังนี้ จะลงโทษจำเลยโทษฐานชิงทรัพย์ ไม่ได้ศาลต้องพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1914/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขัดแย้งในตัว: ลักทรัพย์ vs. รับของโจร – ฟ้องไม่ชัดเจน ศาลต้องยกฟ้อง
ในคดีที่ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรนั้น ถ้าฟ้องกล่าวยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้ายลักทรัพย์แล้วตอนปลายกล่าวฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดรับของโจรในทรัพย์รายเดียวกันนั้นอีก ดังนี้ย่อมเป็นฟ้องที่กล่าวขัดแย้งกันในตัว เป็นฟ้องเคลือบคลุม ไม่อาจทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ศาลต้องพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1914/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขัดแย้งกันในตัว: ลักทรัพย์ vs. รับของโจร - ศาลยกฟ้อง
ในคดีที่ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรนั้น ถ้าฟ้องกล่าวยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้ายลักทรัพย์แล้วตอนปลายกล่าวฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดรับของโจรในทรัพย์รายเดียวกันนั้นอีก ดังนี้ย่อมเป็นฟ้องที่กล่าวขัดแย้งกันในตัวเป็นฟ้องเคลือบคลุม ไม่อาจทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ศาลต้องพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1911/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ชิงทรัพย์: จำเลยขโมยของหลังเจ้าของร้านไม่ยอมขายเนื่องจากค้างหนี้
จำเลยตั้งใจไปซื้อเชื่อของเขา แต่เขาไม่ยอมขายเพราะจำเลยซื้อของเชื่อไปราว 160 บาทแล้วยังไม่ใช้ จำเลยจึงตรงเข้าหยิบเอาของที่จะซื้อเอาเอง บุตรเจ้าของร้านบอกว่าไม่ยอมขาย จำเลยเงื้อขวดสุราจะตี จนบุตรเจ้าของร้านถอยหนีแล้ว จำเลยก็พาของดังกล่าวไป ดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานชิงทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1911/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชิงทรัพย์: การกระทำความผิดเมื่อเจ้าของไม่ยินยอมขาย แม้จะตั้งใจซื้อเชื่อ
จำเลยตั้งใจไปซื้อเชื่อของเขา แต่เขาไม่ยอมขายเพราะจำเลยซื้อของเชื่อไปราว 160 บาท แล้วยังไม่ใช้จำเลยจึงตรงเข้าหยิบเอาของที่จะซื้อเอาเอง บุตรเจ้าของร้านบอกว่าไม่ยอมขาย จำเลยเงื้อขวดสุราจะตี จนบุตรเจ้าของร้านถอยหนีแล้วจำเลยก็พาของดังกล่าวไป ดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานชิงทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1889/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาลักทรัพย์แม้ลักไม่ได้สำเร็จก็เป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์
จำเลยใช้เครื่องมือตัดลวดร้อยโซ่ล่ามเรือเขาขาดโดยมีเจตนาจะลักเรือ แต่ภรรยาเจ้าของเรือรู้สึกเสียก่อน จำเลยจึงเอาเรือไปไม่ได้ ดังนี้เป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1889/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาลักทรัพย์แม้ยังไม่สำเร็จเป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์
จำเลยใช้เครื่องมือตัดลวดร้อยโซ่ล่ามเรือเขาขาดโดยมีเจตนาจะลักเรือ แต่ภรรยาเจ้าของเรือรู้สึกเสียก่อนจำเลยจึงเอาเรือไปไม่ได้ ดังนี้ เป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1732/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์ในเคหสถาน: การเข้าโดยได้รับอนุญาตโดยปริยาย
จำเลยเอาข้าวต้มผัดไปขายแก่ผู้อยู่ในเคหสถานถึงในเคหสถาน การเข้าไปเช่นนี้ต้องฟังว่าได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้โดยปริยาย เมื่อจำเลยลักทรัพย์เขาในเคหสถานนั้น ก็คงเป็นผิดตามมาตรา 288 หาใช่มาตรา294(1)ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1732/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าไปในเคหะสถานเพื่อขายของโดยได้รับอนุญาตโดยปริยาย ไม่ถือเป็นการบุกรุกเพื่อลักทรัพย์
จำเลยเอาข้าวต้มผัดไปขายแก่ผู้อยู่ในเคหะสถานถึงในเคหะสถาน การเข้าไปเช่นนี้ต้องฟังว่าได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้โดยปริยาย เมื่อจำเลยลักทรัพย์เขาในเคหะสถานนั้น ก็คงเป็นผิดตามมาตรา 288 หาใช่มาตรา 294 (1) ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1540/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีลักทรัพย์และการพิจารณาประเภท 'เคหะ' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ในคดีที่ฟ้องหาว่าจำเลยลักทรัพย์ ในฟ้องไม่ปรากฏว่า ทรัพย์ที่ถูกลักได้ถูกจับมาเป็นของกลางแต่อย่างใด และในคดีนั้นศาลฟังว่าจำเลยไม่มีผิดฐานลักทรัพย์ ศาลก็ย่อมไม่สั่งให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ถูกลักไป
เช่าสถานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นโรงเรียน ทำการสอนหนังสือเด็กเท่านั้น แม้จะมีครูผู้ดูแลอาศัยอยู่ด้วยก็ไม่ทำให้สถานที่นั้นเป็น"เคหะ" อันอยู่ในความคุ้มครองของ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ
of 15