คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 288

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 145 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 302/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องฐานลักทรัพย์จากการกรีดน้ำยางโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นฟ้องที่สมบูรณ์
ฟ้องของโจทก์กล่าวเป็นใจความว่า จำเลยบังอาจสมคบกันเข้ากรีดเอาน้ำมันยางในสวนของโจทก์โดยการทุจริต ซึ่งโจทก์มิได้อนุญาต และขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา288,63 ดังนี้ แม้โจทก์จะมิได้กล่าวว่าจำเลยเอาน้ำยางไปหรือลักเอาน้ำยางไปก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกรีดเอาน้ำยางของโจทก์โดยการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายและเป็นการเสียหายแก่โจทก์ ขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์นับว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 ครบข้อหาฐานลักทรัพย์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 302/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องลักทรัพย์ แม้ไม่ได้กล่าวถึงการเอาทรัพย์ไป การกรีดน้ำยางโดยทุจริตถือเป็นความเสียหาย
ฟ้องของโจทก์กล่าวเป็นใจความว่า จำเลยบังอาจสมคบกันเข้ากรีดเอาน้ำมันยางในสวนของโจทก์โดยการทุจริต ซึ่งโจทก์มิได้อนุญาต และขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 288,63 ดังนี้ แม้โจทก์จะมิได้กล่าวว่าจำเลยเอาน้ำยางไปหรือลักเอาน้ำยางไป ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกรีดเอาน้ำยางของโจทก์โดยการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายและเป็นการเสียหายแก่โจทก์ ขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์นับว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 ครบข้อหาฐานลักทรัพย์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาขัดแย้ง: จำเลยไม่เข้าใจข้อหาฐานยักยอกหรือลักทรัพย์ ศาลยกฟ้องตาม ป.วิ.อาญา ม.158(5)
ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดฐานยักยอกหรือลักทรัพย์โดยบรรยายฟ้องในตอนต้นกล่าวหาว่า จำเลยรับมอบทรัพย์แล้ยักยอกทรัพย์ แต่ตอนหลังกลับกล่าวหาว่าจำเลยลักทรัพย์แล้วอ้างบทมาตราขอให้ลงโทษทั้งความผิดฐานลักทรัพย์แลยักยอก ดังนี้ เป็นฟ้องที่ขัดแย้งกันอยู่ในตัว ทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามฟ้องเป็นอย่างไรแน่ และจำเลยต้องหาว่าได้กระทำการอย่างใดแน่ อันจะเป็นความผิดฐานยักยอกหรือลักทรัพย์ คำฟ้องเช่นนี้จึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158( 5 ) วรรคแรก ศาลจะรับไว้พิจารณาเอาโทษจำเลยมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องคดีอาญาขัดแย้งในตัว ระบุความผิดยักยอกและลักทรัพย์ ทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหา
ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดฐานยักยอกหรือลักทรัพย์โดยบรรยายฟ้องในตอนต้นกล่าวหาว่า จำเลยรับมอบหมายทรัพย์แล้วยักยอกทรัพย์ แต่ตอนหลังกลับกล่าวหาว่าจำเลยลักทรัพย์แล้วอ้างบทมาตราขอให้ลงโทษทั้งความผิดฐานลักทรัพย์และยักยอกดังนี้ เป็นฟ้องที่ขัดแย้งกันอยู่ในตัว ทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามฟ้องเป็นอย่างไรแน่ และจำเลยต้องหาว่าได้กระทำการอย่างใดแน่ อันจะเป็นความผิดฐานยักยอกหรือลักทรัพย์คำฟ้องเช่นนี้จึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5) วรรคแรก ศาลจะรับไว้พิจารณาเอาโทษจำเลยมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1795/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำแนกความผิดฐานลักทรัพย์และยักยอกทรัพย์ พิจารณาจากข้อความในฟ้อง
ฟ้องของโจทก์บรรยายว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต ลักเอาทรัพย์สิ่งของของโจทก์ ซึ่งมีผู้ฝากจำเลยมา ให้โจทก์ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 288 แม้จะมีคำว่า ลัก และมีคำขอให้ลงโทษตามมาตรา 288 ก็ตาม แต่ข้อความในฟ้องย่อมมีความหมายว่าจำเลยกระทำผิดฐานยักยอกตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 314ฉะนั้นโจทก์จะฎีกาขอให้ศาลฎีกาลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1795/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความความผิดฐานลักทรัพย์และยักยอกทรัพย์จากข้อความในฟ้อง การลงโทษตามความผิดที่ระบุในฟ้อง
ฟ้องของโจทก์บรรยายว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต ลักเอาทรัพย์สิ่งของของโจทก์ซึ่งมีผู้ฝากจำเลยมาให้โจทก์ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 288 แม้จะมีคำว่า ลักและมีคำขอให้ลงโทษตามมาตรา 288 ก็ตาม แต่ข้อความในฟ้องย่อมมีความหมายว่า จำเลยกระทำผิดฐานยักยอกตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 314 ฉะนั้นโจทก์จะฎีกาขอให้ศาลฎีกาลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1657/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดถือทรัพย์ยังไม่ขาดพ้น การเก็บทรัพย์ที่ตกหล่นถือเป็นลักทรัพย์
เก็บสร้อยคอซึ่งจำเลยก็น่าจะรู้ว่าเป็นของที่เจ้าของเพิ่งทำตกที่ถนน และเจ้าของก็ยังอยู่ในบริเวณนั้น ถ้าไม่หยิบเอาไปเสียเจ้าของก็คงหาพบ เช่นนี้ถือว่าความยึดถือของเจ้าของทรัพย์ยังไม่ขาดพ้นไป ผู้เก็บเอาไปต้องผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1657/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดถือทรัพย์สินยังไม่ขาดพ้น ผู้เก็บทรัพย์สินตกหล่นมีความผิดฐานลักทรัพย์
เก็บสร้อยคอ ซึ่งจำเลยก็น่าจะรู้ว่าเป็นของที่เจ้าของเพิ่งทำตกที่ถนน และเจ้าของก็ยังอยู่ในบริเวณนั้น ถ้าไม่หยิบเอาไปเสียเจ้าของก็คงหาพบ เช่นนี้ ถือว่าความยึดถือของเจ้าของทรัพย์ยังไม่ขาดพ้นไป ผู้เก็บเอาไปต้องผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องคดีลักทรัพย์: การบรรยายฟ้องที่ทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้
ฟ้องว่าจำเลยบังอาจลักไม้สักที่เจ้าพนักงานป่าไม้อำเภอเมืองยึดไว้เป็นของกลางในคดีอาญา ซึ่งบุคคลอื่นต้องหาว่าตัดฟันไม้สักรายนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานไป ขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์ แม้จะไม่ได้บรรยายว่า จำเลยลักไม้นั้นไปจากใคร ผู้ใดเป็นผู้ควบคุมรักษา และไม่ปรากฏว่าไม้นั้นยึดจากใคร ก็ถือได้ว่าเป็นฟ้องที่มีข้อความบรรยายมาพอสมควรที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องคดีลักทรัพย์ของกลาง การบรรยายฟ้องที่ทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้
ฟ้องว่าจำเลยบังอาจลักไม้สักที่เจ้าพนักงานป่าไม้อำเภอเมืองยึดไว้เป็นของกลางในคดีอาญา ซึ่งบุคคลอื่นต้องหาว่าตัดฟันไม้สักรายนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานไป ขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์ แม้จะไม่ได้บรรยายว่า จำเลยลักไม้นั้นไปจากใคร ผู้ใดเป็นผู้ควบคุมรักษา และไม่ปรากฎว่าไม้นั้นยึดจากใคร ก็ถือได้ว่าเป็นฟ้องที่มีข้อความบรรยายมาพอสมควรที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
of 15