คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 224

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 108 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจนายอำเภอแก้ร่างรายงานการประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมหนังสือ
นายอำเภอมีอำนาจตรวจแก้ร่างรายงานการประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านที่เสมียนจดรายงานการประชุมนั้นได้ ไม่มีความผิดฐานปลอมหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาหลังเจ้าของสิทธิถึงแก่กรรม และการอนุญาตฎีกาของผู้พิพากษาที่ย้ายศาล
ผู้พิพากษาซึ่งเคยนั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้น แม้จะถูกย้ายไปอยู่ศาลอื่นก็ตาม ถ้าหากยังคงเป็นผู้พิพากษาอยู่ ก็ย่อมอนุญาตให้คู่ความในคดีนั้นฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221
คดีของโจทก์มีพยานเอกสารมากมาย เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าพยานบุคคลรับฟังไม่ได้ แม้มีพยานเอกสารมาเจือสมก็ไม่มีผลดีแก่คดีของโจทก์แล้ว ศาลอุทธรณ์จะไม่พิจารณาพยานเอกสารนั้นๆ ต่อไปก็ได้ ไม่เป็นการผิดกฎหมาย
คดีลักทรัพย์ ถ้าปรากฏว่าจำเลยได้กระทำผิดก่อนเจ้าทรัพย์ถึงแก่กรรมทายาทหรือผู้จัดการมรดกของเจ้าทรัพย์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องร้องเพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย
ฟ้องโจทก์ได้กล่าวหาว่าจำเลยปลอมหนังสือสัญญากู้และกระทำพยานหลักฐานเท็จตั้งแต่ระยะเวลาก่อนผู้เสียหายถึงแก่กรรมตลอดมาจนภายหลังถึงแก่กรรม คดีไม่อาจชี้ได้ว่าจำเลยกระทำผิดในระยะใด คดีไม่มีทางที่จะรู้ได้ว่าโจทก์จะมีอำนาจฟ้องได้หรือไม่ เช่นนี้ในชั้นฎีกาก็ไม่จำเป็นต้องพิจารณาข้อเท็จจริงต่อไป
ในข้อหาที่ว่าจำเลยอ้างหลักฐานเท็จในคดีแพ่ง คือหาว่าจำเลยอ้างสัญญากู้ที่จำเลยทำปลอมขึ้นโดยเจตนาจะใช้แทนสัญญากู้ฉบับที่จำเลยกู้เงินจากผู้ตาย ดังนี้เมื่อเป็นคดีที่จำเลยฟ้องร้องกันเองในคดีแพ่ง โจทก์ซึ่งเป็นทายาทหรือผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ย่อมไม่ใช่เป็นผู้เสียหายในคดีนั้นจึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญาในข้อหาฐานอ้างหลักฐานเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1079/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดจำนวนฝิ่นเกินจริงและการแก้ไขบัญชี การพิสูจน์เจตนาสำคัญต่อความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จดจำนวนฝิ่นที่ร้านค้าต้องการซื้อจากรัฐบาล ลงในแบบ ฝ.1/23 โจทก์หาว่าจำเลยจดจำนวนฝิ่นเป็นความเท็จลงในแบบ ฝ.1/23 เกินจากจำนวนที่ร้านค้าประสงค์จะซื้อ แต่โจทก์ไม่ได้นำสืบถึงจำนวนฝิ่นที่ร้านค้าประสงค์จะซื้อ จึงลงโทษจำเลยฐานนี้ไม่ได้
การที่จำเลยเขียนตัวเลขในบัญชีแบบ ฝ.1/23 ซึ่งจำเลยมีหน้าที่เป็นผู้ลงบัญชี โจทก์หาว่าจำเลยปลอมโดยแก้ไขข้อความ 2 แห่ง คือ ขีดฆ่าเลข 8 เขียนทับเป็นเลข 16 แห่งหนึ่ง และอีกแห่งหนึ่งขีดฆ่าเลข 7 ออก เขียนเลข 15 ลงไปแทน การกระทำทั้งนี้ อาจเป็นความผิดฐานปลอมหนังสือก็ได้ ถ้าการขีดฆ่าแก้ไขอยู่ในอำนาจของจำเลยที่จะกระทำลงไป และการกระทำลงไปโดยเจตนาปลอมให้ผู้อื่นหลงว่า เป็นของแท้ ถ้าการขีดฆ่าแก้ไขอยู่ในอำนาจของจำเลยที่จะกระทำลงไป จำเลยไม่เจตนาปลอม แล้วการกระทำเช่นนั้นไม่เป็นการปลอมหนังสือ การนำสืบไม่ปรากฏว่า การขีดฆ่าไม่อยู่ในอำนาจของจำเลย กลับปรากฏว่า การขีดฆ่าทำอย่างไม่เจตนาพลางใคร การกระทำของจำเลยจึงไม่ผิดฐานปลอมหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1079/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดจำนวนฝิ่นเกินจริงและการแก้ไขบัญชี การพิสูจน์เจตนาทุจริตเป็นสาระสำคัญ
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จดจำนวนฝิ่นที่ร้านค้าต้องการซื้อจากรัฐบาล ลงในแบบ ฝ.1/23 โจทก์หาว่าจำเลยจดจำนวนฝิ่นเป็นความเท็จลงในแบบ ฝ.1/23 เกินจากจำนวนที่ร้านค้าประสงค์จะซื้อแต่โจทก์ไม่ได้นำสืบถึงจำนวนฝิ่นที่ร้านค้าประสงค์จะซื้อ จึงลงโทษจำเลยฐานนี้ไม่ได้
การที่จำเลยเขียนตัวเลขในบัญชีแบบ ฝ.1/2 ซึ่งจำเลยมีหน้าที่เป็นผู้ลงบัญชี โจทก์หาว่าจำเลยปลอมโดยแก้ไขข้อความ 2 แห่งคือขีดฆ่าเลข 8 เขียนทับเป็นเลข 16 แห่งหนึ่ง และอีกแห่งหนึ่งขีดฆ่าเลข 7 ออก เขียนเลข 15 ลงไปแทน การกระทำทั้งนี้ อาจเป็นความผิดฐานปลอมหนังสือก็ได้ ถ้าการขีดฆ่าแก้ไขอยู่ในอำนาจของจำเลยที่จะกระทำลงไป และการกระทำลงไปโดยเจตนาปลอมให้ผู้อื่นหลงว่าเป็นของแท้ ถ้าการขีดฆ่าแก้ไขอยู่ในอำนาจของจำเลยที่จะกระทำลงไป จำเลยไม่เจตนาปลอม แล้ว การกระทำเช่นนั้นไม่เป็นการปลอมหนังสือ การนำสืบไม่ปรากฏว่า การขีดฆ่าไม่อยู่ในอำนาจของจำเลย กลับปรากฏว่า การขีดฆ่าทำหยาบๆ ไม่เจตนาพลางใคร การกระทำของจำเลย จึงไม่มีผิดฐานปลอมหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งหนังสือตามสมมติของผู้เสียหาย ไม่ถือเป็นการปลอมแปลงเอกสาร
จำเลยทำหนังสือสัญญาให้ผู้เสียหายหนึ่งฉบับมีข้อความว่าผู้เสียหายเช่าเรือนายประเสริฐ จ่ายค่าเช่าให้นายประเสริฐแล้วครึ่งหนึ่งหกพันบาทอีกครึ่งหนึ่งจะจ่ายทีหลังท้ายหนังสือสัญญาช่องผู้ให้เช่า จำเลยลงชื่อแต่ลงชื่อว่าประเสริฐ สุวรรณรังษีไม่ใช่ชื่อที่แท้จริงของจำเลย แล้วมอบสัญญาให้ผู้เสียหายไปทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามความประสงค์ของผู้เสียหายในการที่จะเอาสัญญานี้ไปแสดงต่อสามีขอเงินมาทำทุนการค้า ดังนี้ เป็นเพียงจำเลยแต่งหนังสือขึ้นฉบับหนึ่งอาศัยเนื้อเรื่องที่ผู้เสียหายนึกสมมุติขึ้นมิใช่เป็นการปลอมหนังสือจึงหามีความผิดฐานปลอมหนังสือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 216/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องร้องคดีปลอมแปลงหนังสือสำคัญทางกฎหมาย และการใช้หนังสือปลอมที่ตนเองปลอม
หนังสือมอบฉันทะให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน เป็นหนังสือสำคัญตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 224
การใช้หนังสือปลอมอันจะเป็นผิดตามมาตรา 227 ต้องเป็นการนำหนังสือที่ผู้อื่นปลอมมาใช้ ถ้าตนปลอมขึ้นเองแล้วเอาไปใช้ด้วย ไม่เป็นผิดตามมาตรา 227
ความผิดฐานปลอมหนังสือตาม มาตรา 224 มีอายุความฟ้องร้องภายใน5 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 31/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมหนังสือจากการแก้ไขสมุดลงเวลามาทำงานโดยจงใจ
ข้าราชการขีดฆ่าข้อความที่พนักงานเจ้าหน้าที่เขียนและหมายเหตุไว้ตามหน้าที่ในสมุดลงเวลามาทำงาน แล้วตกเติมข้อความใหม่เปลี่ยนความหมายแห่งถ้อยคำให้เป็นอย่างอื่นโดยจงใจเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงในสมุดนั้น เพื่อใช้เป็นหลักฐานลวงให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าความจริงเป็นดังที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงนั้น เป็นความผิดฐานปลอมหนังสือตามมาตรา 224
โจทก์ฟ้องขอให้ลงจำเลยตามมาตรา 230 แต่ความผิดของจำเลยต้องด้วยมาตรา 224 ซึ่งเป็นบทมีอัตราโทษเบากว่าศาลย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรา 224 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาฐานปลอมแปลงเอกสารต้องระบุเวลาที่กระทำผิดโดยละเอียดเพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหา
ฟ้องว่าจำเลยปลอมหนังสือซึ่งโจทก์กู้เงินจำเลย ฟ้องของโจทก์กล่าวถึงวันที่โจทก์ไปร้องต่ออำเภอขอชำระหนี้แก่จำเลยอย่างเดียวดังนี้ ถือว่าฟ้องไม่ระบุเวลาที่หาว่ากระทำผิดตามสมควร ต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 443/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาต้องระบุรายละเอียดข้อหาชัดเจน หากไม่ส่งเอกสารสำคัญประกอบการฟ้อง ถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยปลอมหนังสือรวม 43 ฉะบับ แต่มิได้ส่งสำเนาให้จำเลย และมิได้ระบุรายละเอียดว่า ฉะบับไหนใครทำ และทำเมื่อใด แม้โจทก์จะได้ระบุไว้ในฟ้องว่า จะส่งเอกสารในวันพิจารณาก็ดี แต่เมื่อจำเลยคัดค้านโจทก์ก็ยังยืนยันตามฟ้องเดิมไม่ส่งเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ ต้องถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 443/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาต้องระบุรายละเอียดเอกสารที่ถูกกล่าวหา หากไม่ส่งเอกสารประกอบการฟ้อง แม้ศาลเสนอให้ส่ง ก็ถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยปลอมหนังสือรวม 43 ฉบับ แต่มิได้ส่งสำเนาให้จำเลย และมิได้ระบุรายละเอียดว่าฉบับไหนใครทำ และทำเมื่อใดแม้โจทก์จะได้ระบุไว้ในฟ้องว่า จะส่งเอกสารในวันพิจารณาก็ดี แต่เมื่อจำเลยคัดค้านโจทก์ก็ยังยืนยันตามฟ้องเดิมไม่ส่งเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ ต้องถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
of 11