พบผลลัพธ์ทั้งหมด 19 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 382/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คู่วิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ไม่อาจฟ้องร้องลงโทษอีกฝ่ายได้
โจทก์จำเลยวิวาททำร้ายกันคู่วิวาทจะฟ้องให้ลงโทษอีกฝ่ายหนึ่งหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 382/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คู่วิวาททำร้ายกัน ไม่มีสิทธิฟ้องร้องลงโทษอีกฝ่าย
โจทก์จำเลยวิวาททำร้ายกันคู่วิวาทจะฟ้องให้ลงโทษอีกฝ่ายหนึ่งหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1791/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกาย: ความผิดตามมาตรา 258 อาญา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสองฝ่ายแต่ละฝ่ายได้สมคบกันทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่ง จำเลยทุกคนรับตามฟ้อง ข้อเท็จจริงต้องฟังว่าจำเลยทุกคนเข้าวิวาทต่อสู้กันไม่ปรากฏว่า ใครทำใครความผิดจำเลยจึงต้องด้วยกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 258
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1712/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกาย: แม้ข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง ศาลลงโทษฐานทำร้ายได้ หากผู้กระทำผิดไม่พ้นความรับผิด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยและผู้เสียหายวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันตัวต่อตัว ศาลก็ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกาย(มาตรา 254)ได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานทำร้ายร่างกาย แม้ฟ้องไม่ตรงตามมาตราที่ใช้ลงโทษ
ฟ้องใช้ถ้อยคำว่า 'จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ฝ่ายหนึ่ง กับจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 อีกฝ่ายหนึ่ง ต่างสมัครใจเข้าวิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกาย ซึ่งกันและกันโดยจำเลยที่ 1-2 สมคบกันใช้เหล็กแหลมแทงทำร้ายจำเลยที่ 3 บาดเจ็บสาหัสจำเลยที่ 3-4 สมคบกันใช้กำลังชกต่อยทำร้ายจำเลยที่ 1-2ถึงบาดเจ็บทุพพลภาพ' ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา254,256 นั้น ย่อมถือได้ว่า มีข้อหาว่าจำเลยทำผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 258 ด้วย แม้ท้ายฟ้องไม่ระบุมาตรา 258 ถ้าทางพิจารณาได้ความจริง ก็ใช้มาตรา 258 ลงแก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1442/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หมิ่นประมาท: คำด่าหยาบคาย vs. ใส่ความทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และการพิสูจน์ความจริงของผู้ต้องหา
ด่าเขาว่า "อีร้อยควย อีดอกทอง " เป็นเพียงคำด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย มิใช่เรื่องใส่ความ จึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทซึ่งหน้าตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 335(2) แต่ถ้อยคำที่กล่าวตอนต่อจากนั้นว่า " มันเย็ดกันทั่วเมือ ใครๆเขาก็รู้กันทั้งนั้น เย็ดกันรอบบ้านเย็ดกับยี่เก ฯลฯ" เหล่านี้มิใช่เป็นคำด่าว่ากันด้วยถ้วยคำหยาบคายธรรมดา แต่เป็นถ้อยคำที่ผู้ด่ากล่ายยืนยันให้เห็นว่าผู้ถูกด่าเป็นหญิงไม่ดี เที่ยวร่วมประเวณีกับคนทั่วไป โดยไม่เลือกสถานที่ จึงเป็นถ้อยคำที่ทำให้ผู้ถูกด่าเสื่อมเสียชื่อเสียง และอาจทำให้ผู้อืนดูหมิ่น เกลียดชังได้จึงเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 282 มิใช่เรื่องประมาทซึ่งหน้า
คดีหมิ่นประมาท ซึ่งโจทก์ร้องขอให้พิสูจน์ความจริง ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 284 นั้น เมื่อปรากฏว่าในชั้นต้นจำเลยปฏิเสธว่ามิได้ทำผิด จนเมื่อศาลสืบพยานไปสิ้นแล้ว จำเลยจึงกลับรับสาราพว่าได้ทำผิดตามฟ้อง ศาลสอบถามถึงเรื่องที่โจทก์ขอให้พิสูจน์ความจริง จำเลยก็แถลงว่า ไม่สามารถพิสูจน์ได้ เช่นนี้ คดีเข้าลักษณะที่ว่าศาลได้บังคับให้จำเลยพิสูจน์ความจริง แต่จำเลยพิสูจน์ให้เห็นจริงมิได้ ดั่งที่บัญญัติไว้ในมาตรา 384 แล้ว คดีจึงลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 284 ได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2496)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานหมิ่นประมาทตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 282,284,335(2) และขอให้เพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบด้วย จำเลยรับสารภาพตลอดถึงข้อเพิ่มโทษด้วย แต่ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยผิดตามมาตรา 339 ซึ่งเป็นผิดฐานลหุโทษ ยันจะเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบไม่ได้ จึงไม่ได้กล่าวถึงการเพิ่มโทษด้วย โจทก์อุทธรณ์ว่าจำเลยควรมีผิดตามมาตรา 282 284 ในเรื่องเพิ่มโทษหรือไม่ ไม่ได้โต้เถียงกัน ดังนี้ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยผิดตามมาตรา 282 ซึ่งอาจเพิ่มโทษตามมาตรา 72 ได้แล้ว ศาลอุทธรณ์ก็ต้องเพิ่มโทษจำเลยตามฟ้องด้วย จะถือว่าฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ไม่ได้ขอให้เพิ่มโทษไม่ได้
คดีหมิ่นประมาท ซึ่งโจทก์ร้องขอให้พิสูจน์ความจริง ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 284 นั้น เมื่อปรากฏว่าในชั้นต้นจำเลยปฏิเสธว่ามิได้ทำผิด จนเมื่อศาลสืบพยานไปสิ้นแล้ว จำเลยจึงกลับรับสาราพว่าได้ทำผิดตามฟ้อง ศาลสอบถามถึงเรื่องที่โจทก์ขอให้พิสูจน์ความจริง จำเลยก็แถลงว่า ไม่สามารถพิสูจน์ได้ เช่นนี้ คดีเข้าลักษณะที่ว่าศาลได้บังคับให้จำเลยพิสูจน์ความจริง แต่จำเลยพิสูจน์ให้เห็นจริงมิได้ ดั่งที่บัญญัติไว้ในมาตรา 384 แล้ว คดีจึงลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 284 ได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2496)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานหมิ่นประมาทตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 282,284,335(2) และขอให้เพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบด้วย จำเลยรับสารภาพตลอดถึงข้อเพิ่มโทษด้วย แต่ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยผิดตามมาตรา 339 ซึ่งเป็นผิดฐานลหุโทษ ยันจะเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบไม่ได้ จึงไม่ได้กล่าวถึงการเพิ่มโทษด้วย โจทก์อุทธรณ์ว่าจำเลยควรมีผิดตามมาตรา 282 284 ในเรื่องเพิ่มโทษหรือไม่ ไม่ได้โต้เถียงกัน ดังนี้ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยผิดตามมาตรา 282 ซึ่งอาจเพิ่มโทษตามมาตรา 72 ได้แล้ว ศาลอุทธรณ์ก็ต้องเพิ่มโทษจำเลยตามฟ้องด้วย จะถือว่าฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ไม่ได้ขอให้เพิ่มโทษไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่ชัดเจนจำเลยไม่เข้าใจข้อกล่าวหา ศาลยกฟ้องตามวิธีพิจารณาความอาญา
ฟ้องโจทก์ที่กล่าวว่า จำเลยทั้ง 3 บังอาจใช้กำลังกายและศาตราวุธทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน จำเลยที่ 1บาดเจ็บสาหัส จำเลยที่ 2 ไม่บาดเจ็บ จำเลยที่ 3 บาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254,256 ดังนี้เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะจำเลยคนใดย่อมไม่อาจเข้าใจว่า ต้องหาว่าทำร้ายจำเลยคนใดอย่างไร ถึงบาดเจ็บสาหัสหรือไม่และจะลงโทษตาม มาตรา 258 ก็ไม่ได้ เพราะโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586-587/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวในคดีวิวาททำร้ายร่างกาย: หลักฐานพยานไม่เพียงพอต่อการลงโทษ
โจทก์ฟ้องจำเลย 4 คน หาว่าวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันจำเลยต่างให้การปฏิเสธ โจทก์มีพยานปาก 1 เบิกความสมข้อต่อสู้ของจำเลยฝ่ายหนึ่งแสดงว่าเป็นการป้องกัน และมีพยานโจทก์อีกปากหนึ่งเบิกความสมข้อต่อสู้ของจำเลย อีกฝ่ายหนึ่งว่าทำโดยป้องกัน ดังนี้คดีลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 852/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดวิวาททำร้ายร่างกายหลายคน: การกำหนดบทลงโทษตามฟ้องที่ไม่ชัดเจน
การวิวาทต่อสู้กันระหว่างคนตั้งแต่สามคนขึ้นไปอันเป็นความผิดตามมาตรา 258 นั้น ฝ่ายที่ถูกทำร้ายสาหัสคือคนที่ถูกทำร้ายสาหัสก็คงมีความผิดตาม ม. 258
ในกรณีที่บุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไปวิวาทต่อสู้กันจนบาดเจ็บสาหัสในที่วิวาทต่อสู้กัน ถ้าฟ้องมิได้บรรยายให้เป็นกิจลักษณะชัดเจนลงไปว่า จำเลยคนใดทำร้ายคนใดมีบาดเจ็บอย่างไรแล้ว แม้จำเลยจะรับสารภาพว่าได้ทำร้ายคู่ต่อสู้คนใดมีบาดเจ็บหรือบาดเจ็บสาหัส ก็ลงโทษตาม ม. 254, 256 ไม่ได้ ต้องลงโทษตาม ม. 258
ฟ้องข้อให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 254, 256 แต่ตามคำบรรยายฟ้องและทางพิจารณาได้ความว่าเป็นความผิด ตาม ม. 258 ศาลลงโทษตาม ม. 258 ได้
ในคดีที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 256, 254 นั้น หากตามฟ้องลงโทษตาม ม. 256, 254 ไม่ได้ คงลงโทษจำเลยตาม ม.258 ได้ เช่นนี้ แม้จำเลยบางคนจะมิได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลสูงก็มีอำนาจที่จะแก้บทลงโทษแก่จำเลยที่มิได้อุทธรณ์, ฎีกาขึ้นมาด้วยได้ เพราะเป็นเหตุในส่วนลักษณะคดี
ในกรณีที่บุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไปวิวาทต่อสู้กันจนบาดเจ็บสาหัสในที่วิวาทต่อสู้กัน ถ้าฟ้องมิได้บรรยายให้เป็นกิจลักษณะชัดเจนลงไปว่า จำเลยคนใดทำร้ายคนใดมีบาดเจ็บอย่างไรแล้ว แม้จำเลยจะรับสารภาพว่าได้ทำร้ายคู่ต่อสู้คนใดมีบาดเจ็บหรือบาดเจ็บสาหัส ก็ลงโทษตาม ม. 254, 256 ไม่ได้ ต้องลงโทษตาม ม. 258
ฟ้องข้อให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 254, 256 แต่ตามคำบรรยายฟ้องและทางพิจารณาได้ความว่าเป็นความผิด ตาม ม. 258 ศาลลงโทษตาม ม. 258 ได้
ในคดีที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 256, 254 นั้น หากตามฟ้องลงโทษตาม ม. 256, 254 ไม่ได้ คงลงโทษจำเลยตาม ม.258 ได้ เช่นนี้ แม้จำเลยบางคนจะมิได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลสูงก็มีอำนาจที่จะแก้บทลงโทษแก่จำเลยที่มิได้อุทธรณ์, ฎีกาขึ้นมาด้วยได้ เพราะเป็นเหตุในส่วนลักษณะคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 852/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวิวาทกลุ่มและการลงโทษตามมาตรา 258 หากฟ้องไม่ชัดเจนถึงการกระทำของจำเลยแต่ละคน
การวิวาทต่อสู้กันระหว่างคนตั้งแต่สามคนขึ้นไปอันเป็นความผิดตามมาตรา 258 นั้น ฝ่ายที่ถูกทำร้ายสาหัสหรือคนที่ถูกทำร้ายสาหัสก็คงมีความผิดตาม มาตรา 258
ในกรณีที่บุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไปวิวาทต่อสู้กันจนบาดเจ็บสาหัสในที่วิวาทต่อสู้นั้น ถ้าฟ้องมิได้บรรยายให้เป็นกิจลักษณะชัดเจนลงไปว่า จำเลยคนใดทำร้ายคนใดมีบาดเจ็บอย่างไรแล้ว แม้จำเลยจะรับสารภาพว่าได้ทำร้ายคู่ต่อสู้คนใดมีบาดเจ็บหรือบาดเจ็บสาหัส ก็ลงโทษตามมาตรา 254, 256 ไม่ได้ ต้องลงโทษตาม มาตรา 258
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254,256แต่ตามคำบรรยายฟ้องและทางพิจารณาได้ความว่าเป็นความผิดตาม มาตรา 258 ศาลลงโทษตาม มาตรา 258 ได้
ในคดีที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 256,254 นั้น หากตามฟ้องลงโทษตาม มาตรา 256,254ไม่ได้ คงลงโทษจำเลยตาม มาตรา 258 ได้เช่นนี้ แม้จำเลยบางคนจะมิได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลสูงก็มีอำนาจที่จะแก้บทลงโทษแก่จำเลยที่มิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาด้วยได้ เพราะเป็นเหตุในส่วนลักษณะคดี
ในกรณีที่บุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไปวิวาทต่อสู้กันจนบาดเจ็บสาหัสในที่วิวาทต่อสู้นั้น ถ้าฟ้องมิได้บรรยายให้เป็นกิจลักษณะชัดเจนลงไปว่า จำเลยคนใดทำร้ายคนใดมีบาดเจ็บอย่างไรแล้ว แม้จำเลยจะรับสารภาพว่าได้ทำร้ายคู่ต่อสู้คนใดมีบาดเจ็บหรือบาดเจ็บสาหัส ก็ลงโทษตามมาตรา 254, 256 ไม่ได้ ต้องลงโทษตาม มาตรา 258
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254,256แต่ตามคำบรรยายฟ้องและทางพิจารณาได้ความว่าเป็นความผิดตาม มาตรา 258 ศาลลงโทษตาม มาตรา 258 ได้
ในคดีที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 256,254 นั้น หากตามฟ้องลงโทษตาม มาตรา 256,254ไม่ได้ คงลงโทษจำเลยตาม มาตรา 258 ได้เช่นนี้ แม้จำเลยบางคนจะมิได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลสูงก็มีอำนาจที่จะแก้บทลงโทษแก่จำเลยที่มิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาด้วยได้ เพราะเป็นเหตุในส่วนลักษณะคดี