คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 27

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 176 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 449/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว การริบของกลาง
ข้าวที่จำเลยขนย้ายออกนอกเขต ได้รับอนุญาตเพียงลำเดียวส่วนอีก 3 ลำขนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นข้าวและเรือที่ขนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องถูกริบตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 449/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว
ข้าที่จำเลยขนย้ายออกนอกเขต ได้รับอนุญาตเพียงลำเดียวส่วนอีก 3 ลำขนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ข้าวและเรือที่ขนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องถูกริบตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 364/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายสุราผิดกฎหมาย: ศาลไม่ริบสุราเมื่อกรรมสิทธิ์เปลี่ยนมือและผู้ซื้อไม่มีส่วนรู้เห็น
ขายสุราให้ผู้อื่นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานสรรพสามิตต์ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สุรา 2493 มาตรา
40 นั้น เมื่อปรากฎว่า สุราของกลางได้ขายและกรรมสิทธิตกเป็นของผู้ซื้อแล้ว ทั้งผู้ซื้อก็ไม่ได้รู้เห็นในการกระทำผิด
ของผู้ขายแล้ว ศาลก็ย่อมไม่ริบสุราของกลางนั้น./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 364/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายสุราผิดกฎหมาย และการไม่ริบสุราเมื่อกรรมสิทธิ์เปลี่ยนมือ
ขายสุราให้ผู้อื่นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานสรรพสามิตซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสุรา 2493มาตรา 40 นั้นเมื่อปรากฏว่า สุราของกลางได้ขายและกรรมสิทธิ์ตกเป็นของผู้ซื้อแล้ว ทั้งผู้ซื้อก็ไม่ได้รู้เห็นในการกระทำผิดของผู้ขายแล้วศาลก็ย่อมไม่ริบสุราของกลางนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 814/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้สักแปรรูปเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และไม้ดังกล่าวต้องถูกริบ
มีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองเกินจำนวน 0.20 ลูกบาศก์ โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ไม้สักของกลางจึงเป็นไม้ที่มีไว้เนื่องจากการกระทำผิดต่อ พ.ร.บ.ป่าไม้ ฉะนั้นจึงต้องริบตามมาตรา 74
(อ้างฎีกาที่ 550/2488)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 814/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้สักแปรรูปเกินกำหนดโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และไม้ดังกล่าวต้องถูกริบ
มีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองเกินจำนวน 0.20 ลูกบาศก์เมตรโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ 2484ไม้สักของกลางจึงเป็นไม้ที่มีไว้เนื่องจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ ฉะนั้นจึงต้องริบตาม มาตรา 74 (อ้างฎีกาที่ 550/2488)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของทรัพย์สินมีสิทธิขอคืนของกลาง หากไม่รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด
ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยและให้ริบของกลางตาม พ.ร.บ.การพนัน เมื่อปรากฏว่าผู้อื่นเป็นเจ้าของของกลางและมิได้รู้เห็นยินยอมในการกระทำผิด-ด้วยแล้ว เจ้าของชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้ศาลสั่งคืนของกลางนั้นแก่ตนและศาลก็ย่อมสั่งให้คืนของกลางแก่เจ้าของได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องคืนของกลางสำหรับเจ้าของที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน
ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยและให้ริบของกลางตาม พระราชบัญญัติการพนันเมื่อปรากฏว่าผู้อื่นเป็นเจ้าของของกลางและมิได้รู้เห็นยินยอมในการกระทำผิดด้วยแล้ว เจ้าของชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้ศาลสั่งคืนของกลางนั้นแก่ตนและศาลก็ย่อมสั่งให้คืนของกลางแก่เจ้าของได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1905/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจรัฐมนตรีในการห้ามใช้เครื่องมือประมงและการใช้ดุลพินิจของศาลในการริบของกลาง
พระราชบัญญัติการประมง 2490 มาตรา 30(2) ให้อำนาจรัฐมนตรีหรือข้าหลวงประจำจังหวัดโดยอนุมัติรัฐมนตรีที่จะกำหนดมิให้ใช้เครื่องมือทำการประมงอย่างหนึ่งอย่างใดในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาด ถ้าผู้ใดใช้เครื่องมือที่ห้ามนั้นทำการประมงก็ย่อมมีผิด และถูกริบเครื่องมือนั้นโดยศาลจะใช้ดุลพินิจไม่ริบไม่ได้
แต่ถ้ารัฐมนตรีประกาศห้ามมิให้ทำการประมงด้วยเครื่องมือใดใดในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาดไว้ เว้นแต่เครื่องมือตามที่กำหนดไว้ในประกาศนั้น ดังนี้ ประกาศมิได้ระบุชื่อเครื่องมือชนิดใดที่ห้ามโดยเด็ดขาด ฉะนั้นเมื่อเกิดการกระทำผิดตามประกาศนี้ขึ้น ศาลก็ย่อมใช้ดุลพินิจไม่ริบเครื่องมือนั้นได้ตามความ ในมาตรา 69 แห่งพระราชบัญญัติการประมง 2490

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1905/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจรัฐมนตรีในการห้ามใช้เครื่องมือประมงและการใช้ดุลยพินิจของศาลในการริบของกลาง
พ.ร.บ.การประมง 2490 มาตรา 30(2) ให้อำนาจรัฐมนตรีหรือข้าหลวงประจำจังหวัดโดยอนุมัติรัฐมนตรีที่จะกำหนดมิให้ใช้เครื่องมือทำการประมงอย่างหนึ่งอย่างใด ในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาด ถ้าผู้ใดใช้เครื่องมือที่ห้ามนั้นทำการประมงก็ย่อมมีผิด และถูกริบเครื่องมือนั้นโดยศาลจะใช้ดุลยพินิจไม่ริบ ไม่ได้
แต่ถ้ารัฐมนตรีประกาศห้ามมิให้ทำการประมงด้วยเครื่องมือใดใดในที่จับสัตว์น้ำโดยเด็ดขาด เว้นแต่เครื่องมือตามที่กำหนดไว้ในประกาศนั้น ดังนี้ ประกาศมิได้ระบุชื่อเครื่องมือชะนิดใดที่ห้ามโดยเด็ดขาดไว้ ฉะนั้นเมื่อเกิดการกระทำผิดตามประกาศนี้ขึ้น ศาลก็ย่อมใช้ดุลยพินิจไม่ริบเครื่องมือนั้นได้ตามความในมาตรา 69 แห่งพ.ร.บ.การประมง 2490
of 18