พบผลลัพธ์ทั้งหมด 26 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 573/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พาเด็กอายุ 13 ปีเศษไปจากมารดา แม้เด็กยินยอมแต่ถูกหลอกลวง ยังคงเป็นความผิด
พาเด็กอายุ 13 ปีเศษไปจากมารดาเด็กโดยเด็กเต็มใจไปกับจำเลยแม้จะเป็นโดยถูกหลอกลวงก็เป็นผิดตามมาตรา275 แต่ไม่เป็นผิดตามมาตรา 274
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2487
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2487
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงโทษทางอาญาโดยศาลอุทธรณ์และผลกระทบต่อการรอการลงโทษ
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 1 ปี ลดตาม กฎหมาย มาตรา 59หนึ่งในสามคงจำคุก 8 เดือนแต่ให้รอการลงอาญาไว้ศาลอุทธรณ์แก้กำหนดโทษเป็น 3 ปีลดตาม มาตรา 59 เหลือ 2 ปี เช่นนี้เป็นการแก้มาก คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงได้ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 17/2486
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การล่อลวงเพื่อสำเร็จความใคร่ แม้ผู้ถูกกระทำอายุเกิน 18 ปี ก็อาจผิดกฎหมายได้ และการเพิ่มโทษจากใบแจ้งความ
การล่อลวงหญิงไปเพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่นแม้หญิงอายุเกิน 18 ปีก็คงมีผิดตามมาตรา 241 ที่แก้ไข (ผู้ถูกหลอกอายุ 29 ปี)
การขอเพิ่มโทษในคดีอาญานั้นถ้าโจทก์มีใบแจ้งโทษของตำรวจสันติบาลแล้ว ก็รับฟังเพิ่มโทษได้
เอกสารมหาชนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ทำไว้นั้น กฎหมายสันนิษฐานว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้องเป็นหน้าที่ของอีกฝ่ายหนึ่งต้องนำสืบหักล้าง แม้จะเป็นคดีอาญาก็ตาม
การขอเพิ่มโทษในคดีอาญานั้นถ้าโจทก์มีใบแจ้งโทษของตำรวจสันติบาลแล้ว ก็รับฟังเพิ่มโทษได้
เอกสารมหาชนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ทำไว้นั้น กฎหมายสันนิษฐานว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้องเป็นหน้าที่ของอีกฝ่ายหนึ่งต้องนำสืบหักล้าง แม้จะเป็นคดีอาญาก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1022/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฉุดคร่าภริยาไม่ได้จดทะเบียนเพื่อกลับบ้าน ไม่เป็นความผิด
จำเลยฉุดคร่าภริยาที่ไม่ได้จดทะเบียนเพื่อจะให้กลับบ้านหรือไปอยู่กินตามเดิมยังไม่เป็นผิดตามมาตรา 276.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1022/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในความผิดฉุดคร่า: ศาลต้องพิจารณาความเข้าใจโดยสุจริตว่าเป็นสามี แม้ไม่ได้จดทะเบียน
ชายลักพาหญิงอายุ 18 ปีซึ่งมีผู้ปกครองไปอยู่กินด้วยกันอย่างสามีภรรยา มิได้มีการไป+มาและมิได้จดทะเบียนสมรสดังนี้ ไม่เป็นสามีภรรยากันได้ตามกฎหมายแพ่ง จำเลยต้องหาเป็นความอาญาว่าฉุดคร่าอนาจารหญิง จำเลยต่อสู้ว่าหญิงเป็นภรรยาตน การวินิจฉัยว่าเป็นภรรยาจำเลยหรือไม่นี้ต้องถือหลักตามกฎหมายแพ่งฯเพราะในทางอาญาไม่มีบัญญัติไว้
ในความผิดฐานฉุดคร่าอนาจารตามกฎหมายอาญามาตรา 276 นั้น แม้หญิงผู้เสียหายจะมิได้เป็นภรรยาจำเลยตามกำหมาย แต่ถ้าจำเลยเข้าใจโดยสุจริตว่าเป็นสามีหญิงและได้ฉุดคร่าไปเพื่ออยู่กินด้วยกันตามเดิม ดังนี้ เรียกว่าจำเลยไม่มีเจตนาในทางอาญา หรืออีกนัยหนึ่งคือการบังอาจตามมาตรา 276 จำเลยยังไม่มีผิดตามมาตรานี้ ความผิดฐานฉุดคร่าอนาจารตามกฎหมายอาญามาตรา 276 ปัญหาว่าจำเลยมีเจตนาในทางอาญาหรือได้บังอาจหรือไม่นั้น ตกหน้าที่โจทก์นำสืบ
ฎีกาว่าศาลล่างไม่ตีความตามข้อเท็จจริง ปรับรูปกฎหมายโดยเคร่งครัดและว่าศาลล่างไม่เพ่งเล็งการกระทำของจำเลยว่ามีเจตนาหรือไม่นั้นเป็นฎีกาในข้อกฎหมาย
ในความผิดฐานฉุดคร่าอนาจารตามกฎหมายอาญามาตรา 276 นั้น แม้หญิงผู้เสียหายจะมิได้เป็นภรรยาจำเลยตามกำหมาย แต่ถ้าจำเลยเข้าใจโดยสุจริตว่าเป็นสามีหญิงและได้ฉุดคร่าไปเพื่ออยู่กินด้วยกันตามเดิม ดังนี้ เรียกว่าจำเลยไม่มีเจตนาในทางอาญา หรืออีกนัยหนึ่งคือการบังอาจตามมาตรา 276 จำเลยยังไม่มีผิดตามมาตรานี้ ความผิดฐานฉุดคร่าอนาจารตามกฎหมายอาญามาตรา 276 ปัญหาว่าจำเลยมีเจตนาในทางอาญาหรือได้บังอาจหรือไม่นั้น ตกหน้าที่โจทก์นำสืบ
ฎีกาว่าศาลล่างไม่ตีความตามข้อเท็จจริง ปรับรูปกฎหมายโดยเคร่งครัดและว่าศาลล่างไม่เพ่งเล็งการกระทำของจำเลยว่ามีเจตนาหรือไม่นั้นเป็นฎีกาในข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 274/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ดุลพินิจศาลในการรอการลงอาญา: ข้อจำกัดในการฎีกาเกี่ยวกับการแก้ไขดุลพินิจ
ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์ให้จำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปี ศาลเดิมไม่รอการลงอาญาแต่ศาลอุทธรณ์ให้รอการลงอาญานั้น คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้