คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
มนูกิจวิมลอรรถ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,694 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 368/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกกล่าวเปลี่ยนแปลงลักษณะการยึดถือและการหมดอายุความฟ้องคดีครอบครองปรปักษ์ กรณีผู้เช่าอ้างพินัยกรรม
ผู้เช่านามือเปล่าไม่ชำระค่าเช่า และบอกผู้ให้เช่าว่ามีผู้ทำพินัยกรรมยกนานั้นให้ผู้เช่าเป็นการบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการยึดถือถ้าผู้ให้เช่าไม่ฟ้องใน 1 ปี ก็หมดสิทธิฟ้องเรียกคืนแม้ผู้ให้เช่าฟ้องครั้งหนึ่งแล้วถอนฟ้องเสียผลของการถอนฟ้องทำให้กลับสู่ฐานะเดิมเหมือนไม่มีการฟ้องเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358-359/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะลูกจ้างกระทบฐานความผิดยักยอกทรัพย์ของเจ้าพนักงาน
จำเลยได้รับการแต่งตั้งเป็นเสมียนเจ้าพนักงานประจำแผนกกลางของสำนักงานท่องเที่ยวกรมประชาสัมพันธ์สำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ฝ่ายการเงินของสำนักงานท่องเที่ยวกรมประชาสัมพันธ์คือการรับเงินจ่ายเงิน ปกครองรักษาและนำเงินผลประโยชน์รายได้ต่างๆของสำนักงานท่องเที่ยวกรมประชาสัมพันธ์ส่งต่อเจ้าหน้าที่แผนกคลังกรมประชาสัมพันธ์เป็นรายได้ของรัฐบาล จำเลยได้ยักยอกเงินที่ได้รับไว้ในหน้าที่ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ของสำนักงานท่องเที่ยวนี้ได้รับเงินเดือนประเภทการจรมีฐานะเป็นลูกจ้างรายเดือนของสำนักงานและในคำให้การของจำเลยชั้นสอบสวนปรากฏว่าจำเลยรับราชการเป็นลูกจ้างได้ค่าจ้างเป็นรายเดือน จำเลยจึงไม่เป็นข้าราชการตามพระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือน ถือไม่ได้ว่าเป็นเจ้าพนักงานอันจะเป็นผิดตาม มาตรา131
ในคดียักยอกทรัพย์ถึงที่สุดในศาลอุทธรณ์โดยศาลพิพากษาว่าจำเลยผิด กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา319(3) คู่ความไม่ได้ฎีกาขึ้นมาก็ตามแต่เนื่องจากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา3 บัญญัติให้ใช้ กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดและตามประมวลกฎหมายอาญามิได้บัญญัติการกระทำของจำเลยอันความผิดตรงกับ มาตรา319 ดังนั้นความผิดของจำเลยจึงเข้า มาตรา352 ฐานยักยอกทรัพย์ธรรมดาซึ่งมีโทษเบากว่าโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา319 จึงต้องใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา352 บังคับลงโทษจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งสำเนาเอกสารประกอบการต่อสู้คดี ศาลรับฟังได้แม้ไม่ได้ส่งสำเนาก่อนวันสืบพยาน
จำเลยอ้างเอกสารเป็นประเด็นในคำให้การ และวันชี้สองสถานศาลได้เรียกเอกสารนั้นไปจากจำเลย แล้วให้โจทก์ดูเอกสารนั้นแล้ว เช่นนี้จำเลยหาจำต้องส่งสำเนาเอกสารให้แก่โจทก์ก่อนวันสืบพยานอีกไม่ และอนึ่งการที่ไม่ได้ส่งสำเนาเอกสารให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งนั้นไม่ถึงกับทำให้ศาลรับฟังเอกสารนั้นไม่ได้เสียทีเดียว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารประกอบการต่อสู้คดี ศาลรับฟังได้แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความ หากศาลได้ตรวจสอบแล้ว
จำเลยอ้างเอกสารเป็นประเด็นในคำให้การ และวันชี้สองสถานศาลได้เรียกเอกสารนั้นไปจากจำเลย แล้วให้โจทก์ดูเอกสารนั้นแล้วเช่นนี้จำเลยหาจำต้องส่งสำเนาเอกสารให้แก่โจทก์ก่อนวันสืบพยานอีกไม่ และอนึ่งการที่ไม่ได้ส่งสำเนาเอกสารให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งนั้นไม่ถึงกับทำให้ศาลรับฟังเอกสารนั้นไม่ได้เสียทีเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 313/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้กฎหมายอาญาใหม่ที่เป็นคุณแก่จำเลย: ยักยอกทรัพย์
ประมวลกฎหมายอาญา ม.352 มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดยิ่งกว่ากฎหมายลักษณะอาญา มาตรา314 ซึ่งมีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 2,000 บาท เพราะอาจลงโทษได้สามสถาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานประกอบเหตุการณ์และการรับสารภาพต่อเจ้าพนักงานตำรวจ มีน้ำหนักเพียงพอที่จะลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้อื่น
ตำรวจเบิกความว่า พอเกิดเหตุแล้ว จำเลยออกมาจากที่เกิดเหตุฆาตกรรม มีผู้ตามจำเลยติดมาชี้บอกให้จับจำเลยว่าแทงผู้ตายคำของตำรวจนี้เป็นพยานชั้นที่1 ไม่ใช่คำบอกเล่า แต่ถ้อยคำที่ผู้ตามจำเลยมาบอกแก่ตำรวจนั้น เป็นคำบอกเล่าคำบอกเล่าในขณะกระชั้นชิดทันที ซึ่งตามธรรมดายังไม่ทันจะมีช่องโอกาสคิดแกล้งปรักปรำศาลรับฟังประกอบพฤติเหตุอื่นๆ ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 274/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการโอนที่ดินโดยไม่สุจริต: สิทธิของผู้รับโอนที่ดินและผลกระทบต่อผู้โอน
โจทก์ฟ้องว่า ที่พิพาทเดิมเป็นของบิดามารดาโจทก์โจทก์ได้รับมรดกมารดามาส่วนหนึ่ง บิดาสละให้โจทก์อีกส่วนหนึ่ง แล้วบิดากลับเอาไปโอนขายให้จำเลย จำเลยรับโอนไว้โดยไม่สุจริต ขอเพิกถอนการโอน และแสดงว่าเป็นที่ของโจทก์ จำเลยให้การว่า ที่พิพาทเป็นของบิดาโจทก์โอนขายให้จำเลยโดยสุจริต โจทก์จำเลยท้ากันให้ศาลวินิจฉัยประเด็นข้อเดียวว่า จำเลยรับโอนที่ดินจากบิดาโจทก์โดยสุจริตหรือไม่ ดังนี้ เมื่อคดีได้ความว่า จำเลยรับโอนโดยไม่สุจริต โจทก์ย่อมชนะคดีและแม้โจทก์จะไม่ได้ฟ้องบิดาด้วย ศาลก็ย่อมชี้ขาดทั้งในข้อที่ว่า ที่ดินเป็นสิทธิของโจทก์ และให้เพิกถอนนิติกรรมที่บิดาโจทก์โอนขายให้จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 250/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่ชัดเจนของฟ้องที่ระบุข้อหาลักทรัพย์และรับของโจร ทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหา เป็นฟ้องที่ไม่ชอบ
บรรยายฟ้องข้อ 1 ว่าจำเลยลักทรัพย์ แต่กล่าวในฟ้องข้อ 2 ว่าจำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจร เช่นนี้เป็นฟ้องที่ขัดกัน ทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหาได้ดี เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อาญา ม.158 (5) .

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 250/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาขัดแย้งกัน ทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหา เป็นฟ้องที่ไม่ชอบ
บรรยายฟ้องข้อ 1 ว่าจำเลยลักทรัพย์ แต่กล่าวในฟ้องข้อ2 ว่าจำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจร เช่นนี้เป็นฟ้องที่ขัดกัน ทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหาได้ดี เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 204/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้รับจำนองสุจริตและการบังคับจำนอง แม้กรรมสิทธิที่ดินพิพาทจะยังไม่จดทะเบียน
ได้ความว่าโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 เป็นบุตรนอก ก.ม.ของโจทก์ที่ 1 เกิดกับผู้ตายเจ้ามรดก แต่ผู้ตายเจ้ามรดกได้รับรองและแสดงออกโดยให้ใช้นามสกุลและการศึกษาถือว่าเจ้ามรดกได้รับรองว่าโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 เป็นบุตรของตนแล้ว โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย และมีอำนาจฟ้องคดีได้โดยไม่จำเป็นต้องขอคำสั่งศาลเสียก่อน
ผู้ตายได้รับจำนองที่ดินพิพาทนี้โดยทางทะเบียนโดยสุจริตและมีค่าตอบแทนส่วนจำเลยที่ 3 ได้กรรมสิทธิที่ดินพิพาททางครอบครองแต่มิได้จดทะเบียนเช่นนี้จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอก (คือ ฝ่ายผู้รับจำนอง) ผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตไม่ได้ตาม ป.พ.พ.ม.1299 แม้ถึงหากจะฟังว่าจำเลยที่ 1,2 เอาความเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่าโฉนดหายจนได้รับใบแทนโฉนดมาแล้วเอาไปจำนองก็ดี เมื่อผู้รับจำนองมิได้รู้เห็นในเรื่องนี้ด้วยหากแต่รับจำนองไว้โดยสุจริตเช่นนี้ไม่ทำให้สิทธิของผู้รับจำนองดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไป ฝ่ายผู้รับจำนองยังมีสิทธิฟ้องบังคับจำนองโดยยึดที่ดินจำนองขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ได้
of 170