คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
มนูกิจวิมลอรรถ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,694 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 703/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินเพื่อตีใช้หนี้: โจทก์มีสิทธิสืบหักล้างนิติกรรม 'ให้' ที่ไม่ตรงตามข้อตกลงได้
ได้ความว่าจำเลยใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดร่วมกับจำเลยทำเป็นนิติกรรม "ให้" แล้วโจทก์ขอนำสืบหักล้างว่าความจริงไม่ใช่เป็นเรื่องยกที่ดินให้โดยเสน่หา แต่เป็นเรื่องจำเลยโอนที่ดินเพื่อตีให้ชี้โจทก์ เช่นนี้โจทก์ก็มีสิทธิสืบได้ เพราะเป็นการสืบว่าสัญญาให้ไม่สมบูรณ์เป็นสัญญาให้ที่ต้องบังคับตามสัญญาที่แท้จริง คือสัญญาโอนเพื่อตีให้หนี้ตาม ป.พ.พ. ม.118 วรรค 2 จึงไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.94 ดังนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 93/2488.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 703/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินเพื่อตีใช้หนี้ แม้ทำเป็นนิติกรรมให้ ก็สืบได้ว่าสัญญาให้ไม่สมบูรณ์
ได้ความว่าจำเลยใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดร่วมกับจำเลยทำเป็นนิติกรรม'ให้' แล้วโจทก์ขอนำสืบหักล้างว่าความจริงไม่ใช่เป็นเรื่องยกที่ดินให้โดยเสน่หาแต่เป็นเรื่องจำเลยโอนที่ดินเพื่อตีใช้หนี้โจทก์ เช่นนี้โจทก์มีสิทธิสืบได้ เพราะเป็นการสืบว่าสัญญาให้ไม่สมบูรณ์เป็นสัญญาให้ที่ต้องบังคับตามสัญญาที่แท้จริงคือสัญญาโอนเพื่อตีใช้หนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 118 วรรคสอง จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา94 ดังนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 93/2488

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 693/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การล่อลวงเพื่ออนาจาร: จำเลยใช้อุบายหลอกลวงพาผู้เสียหายไปเพื่อประสงค์ต่อการอนาจาร เป็นความผิดตาม ม.276
การที่จำเลยเอาความเท็จมากล่าวอ้างกับหญิงมีชื่อว่าตนเป็นตำรวจจะพาหญิงมีชื่อไปส่งบ้านเพราะเป็นผู้หญิงจะไปคนเดียวในเวลาดึกเช่นนั้นไม่ได้แล้วจำเลยพาหญิงมีชื่อเดินไปถึงสวนลุมพินีและพาเข้าไปในสวนลุมพินีและให้นั่งลงบนสนามหญ้าและพูดจาชักชวนให้หญิงมีชื่อไปบ้านจำเลยแต่หญิงมีชื่อไม่ยอมไปแล้วจำเลยก็รั้งตัวหญิงมีชื่อมากอดจูบหญิงมีชื่อดิ้นเช่นนี้วินิจฉัยว่าเป็นการใช้อุบายทุจริตล่อลวงพาหญิงมีชื่อไปเพื่อการอนาจาร การกระทำเป็นความผิดต้องด้วยบท กฎหมายอาญา มาตรา 276 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 693/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้อุบายหลอกลวงเพื่ออนาจารเข้าข่ายความผิดตาม ม.276 อาญา
การที่จำเลยเอาความเท็จมากล่าวอ้างกับหญิงมีชื่อว่าตนเป็นตำรวจจะพาญิงมีชื่อไปส่งบ้านเพราะเป็นผู้หญิงจะไปคนเดียวในเวลาดึกเช่นนั้นไม่ได้ แล้วจำเลยพาหญิงมีชื่อเดินไปถึงสวนลุมพีนีและพาเข้าไปในส่วนลุมพีนีและให้นั่งลงบนสนามหญ้าและพูดจาชักชวนให้หญิงมีชื่อไปบ้านจำเลยแต่หญิงมีชื่อไม่ยอมไปแล้วจำเลยก็รั้งตัวหญิงมีชื่อมากอดจูบ หญิงมีชื่อดิ้นเช่นนี้วินิจฉัยว่าเป็นการใช้อุบายทุจริตล่อลวงพาหญิงมีชื่อไปเพื่อการอนาจาร การกระทำเป็นความผิดต้องด้วยบท ก.ม.อาญา ม.276 แล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตั้งผู้รับมรดก: ทายาทโดยชอบด้วยกฎหมายเข้ามาเป็นคู่ความแทนจำเลยที่มรณะ
โจทก์ขอให้เรียก ซ.ภรรยาของจำเลยเข้ามาเป็นจำเลยแทนสามีซึ่งมรณะ ซ.ต่อสู้ว่าไม่ได้เป็นภรรยาโดยชอบด้วย ก.ม. ทั้งไม่ได้รับมรดกจากสามีแต่ประการใด แต่เมื่อไต่สวนแล้วศาลเชื่อว่า ซ.เป็นภรรยาโดยชอบด้วย ก.ม.เป็นทายาทของสามีผู้วายชนม์ ศาลก็ย่อมตั้งให้ ซ.เป็นผู้รับมรดกความได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตั้งทายาทเป็นคู่ความแทนจำเลยที่มรณะ: สิทธิในการรับมรดกและความจำเป็นในการเป็นผู้รับมรดก
โจทก์ขอให้เรียก ซ. ภรรยาของจำเลยเข้ามาเป็นจำเลยแทนสามีซึ่งมรณะ ซ. ต่อสู้ว่าไม่ได้เป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมาย ทั้งไม่ได้รับมรดกจากสามีแต่ประการใดแต่เมื่อไต่สวนแล้วศาลเชื่อว่า ซ. เป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นทายาทของสามีผู้วายชนม์ ศาลก็ย่อมตั้งให้ ซ. เป็นผู้รับมรดกความได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลลดค่าปรับสัญญาได้เมื่อมีเหตุผลสมควร แม้ผิดสัญญาแต่มีปัจจัยอื่นที่ควรพิจารณา
การเรียกเอาเบี้ยปรับตามสัญญา ในกรณีผิดสัญญานั้นเมื่อปรากฏพฤติการณ์และเหตุผลอันสมควรแล้ว ศาลจะให้รับผิดลดน้อยลงไม่เต็มตามสัญญาก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 528/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่เริ่มนับหากจำเลยยังไม่ได้รับฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
เมื่อปรากฏตามสำนวนว่าจำเลยยังมิได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตราบใด ฎีกาที่โจทก์ยื่นไว้นั้นก็ยังไม่เริ่มนับเป็นฎีกาตาม ป.วิ.อาญา ม.216 จึงจำต้องจำหน่ายคดีจากสารบบความ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 528/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่เริ่มนับ หากจำเลยยังไม่ได้รับฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
เมื่อปรากฏตามสำนวนว่าจำเลยยังมิได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตราบใดฎีกาที่โจทก์ยื่นไว้นั้นก็ยังไม่เริ่มนับเป็นฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา216 จึงจำต้องจำหน่ายคดีจากสารบบความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 527/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาด: การบังคับใช้ ป.พ.พ. มาตรา 1330 และ 1332
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ซื้อทรัพย์ของโจทก์ไปจากการขายทอดตลาดของศาล โจทก์ประสงค์จะขอซื้อทรัพย์คืนจากจำเลย คำฟ้องเช่นนี้จะนำ ป.พ.พ. ม.1332 มาบังคับใช้ในคดีนี้หาได้ไม่เพราะ ม.1332 เป็นเรื่องซื้อทรัพย์ในการขายทอดตลาดหรือในท้องตลาดหรือจากพ่อค้าซึ่งขายของชนิดนั้น ไม่เกี่ยวกับการซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งของศาลซึ่ง ป.พ.พ. ม.1330 บัญญัติได้โดยเฉพาะแล้ว.
of 170