คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
มนูกิจวิมลอรรถ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,694 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1704/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงการใช้สถานที่จากที่อยู่อาศัยเป็นที่ทำการค้า ทำให้ไม่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เดิมจำเลยเช่าห้องพิพาทของโจทก์เป็นที่อยู่อาศัย และจำเลยก็ได้อยู่อาศัยตลอดมา แต่ต่อมาจำเลยได้เอาห้องพิพาทให้ผู้อื่นเช่าช่วงทำการค้าโดยจำเลยได้รับประโยชน์จากผู้เช่าช่วงมากมาย ทั้งห้องพิพาทก็เป็นตึกแถวอยู่ในทำเลการค้า และแม้จำเลยยังคงพักพิงอาศัยอยู่ในห้องพิพาทตลอดมา ก็ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่า จำเลยได้เปลี่ยนการใช้ห้องพิพาทให้เป็นสถานที่ทำการค้าไปเสียแล้ว ห้องพิพาทจึงไม่เป็นเคหะซึ่งจำเลยจะได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯต่อไปได้ และเมื่อเช่นนี้ การที่จำเลยยังคงพักพิงอาศัยอยู่ในห้องพิพาทตลอดมาก็ดีข้อที่ว่าจำเลยให้เช่าช่วงไปโดยได้รับความยินยอมจากผู้แทนของโจทก์ก็ดี หาเป็นข้อสำคัญที่จะทำให้ห้องพิพาทคงเป็นเคหะตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ อยู่ต่อไปไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1697/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าแยกส่วน & การหักเงินประกันค่าเช่า: จำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าเครื่องเรือนเมื่อโจทก์ผิดสัญญา
ตึกกับเครื่องเรือนอาจทำสัญญาแยกกันได้ จะถือเป็นสัญญาควบหรือรวมกันเสมอไปไม่ได้
เมื่อได้ความว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาก่อนโดยโจทก์ได้รบกวนไม่ให้จำเลยใช้ประโยชน์แห่งสถานที่เช่าตามสัญญาด้วยประการต่างๆ จำเลยผู้เช่าจึงมีหนังสือถึงโจทก์แจ้งถึงการถูกรบกวนและให้เอาเงิน 4,000 บาทที่จำเลยวางเป็นประกันว่าจำเลยจะต้องปฏิบัติตามสัญญาเช่า ใช้เป็นค่าเช่าเดือนมิ.ย. และ ก.ค. และว่าหากยังรบกวนอยู่อีกจะยึดหน่วงค่าเช่าสำหรับเดือนต่อไปจนกว่าจะปฏิบัติตามสัญญา กรณีจะเป็นอย่างไรก็ตาม ตามพฤติการณ์ดังกล่าวจะถือว่าจำเลยจงใจไม่ชำระค่าเช่าสำหรับ 2 เดือนดังกล่าวยังไม่ได้ ดังนี้จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าดังฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนสัญชาติไทยจากผู้เกิดในไทยที่มีเชื้อสายต่างด้าว กระทำผิดกฎหมายวิทยุสื่อสาร
กรณีที่ผู้มีสัญชาติไทยเพราะเกิดในราชอาณาจักรแต่บิดาเป็นคนต่างด้าว กระทำผิด พ.ร.บ.วิทยุสื่อสารฯโดยบังอาจมี,ตั้งและใช้เครื่องส่งและรับวิทยุติดต่อกับต่างประเทศนั้น เป็นการกระทำอันเป็นเหตุที่ศาลจะสั่งให้ถอนสัญชาติไทยได้
มาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติซึ่งแก้ไข เป็นเรื่องเกี่ยวแก่การได้สัญชาติโดยการเกิดหาได้หมายถึงเรื่องที่จะสั่งถอนสัญชาติตามมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนสัญชาติไทยจากกรณีการกระทำความผิดทางอาญาและการพิจารณาถึงสัญชาติเดิมของบิดามารดา
กรณีที่ผู้มีสัญชาติไทยเพราะเกิดในราชอาณาจักร แต่บิดาเป็นคนต่างด้าว กระทำผิด พระราชบัญญัติวิทยุสื่อสารฯโดยบังอาจมีตั้งและใช้เครื่องส่งและรับวิทยุติดต่อกับต่างประเทศนั้น เป็นการกระทำอันเป็นเหตุที่ศาลจะสั่งให้ถอนสัญชาติไทยได้
มาตรา 7 แห่ง พระราชบัญญัติสัญชาติซึ่งแก้ไข เป็นเรื่องเกี่ยวแก่การได้สัญชาติโดยการเกิด หาได้หมายถึงเรื่องที่จะสั่งถอนสัญชาติตามมาตรา 16 แห่ง พระราชบัญญัติสัญชาติไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสำเร็จของความผิดฐานลักทรัพย์: การล้วงกระเป๋าและกุมธนบัตร
จำเลยลักทรัพย์โดยวิธีล้วงกระเป๋า จำเลยแกะกระดุมเปิดฝากระเป๋ากางเกงเอาธนบัตรออกมานอกกระเป๋า แล้วพอดีเจ้าทรัพย์รู้ตัวใช้มือตบกระเป๋าบังเอิญไปถูกมือจำเลยซึ่งกำลังกุมธนบัตรอยู่ ธนบัตรร่วงหล่นจากมือจำเลยลงไปที่เท้าเจ้าทรัพย์ ดังนี้เป็นความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จแล้ว ไม่ใช่เป็นความผิดฐานพยายาม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์สำเร็จ: การล้วงกระเป๋าเอาทรัพย์สินออกมาแล้ว แม้ทรัพย์สินจะหล่นก่อนถึงมือผู้กระทำผิด
จำเลยลักทรัพย์โดยวิธีล้วงกระเป๋า จำเลยแกะกระดุมเปิดฝากระเป๋ากางเกงเอาธนบัตรออกมานอกกระเป๋า แล้วพอดีเจ้าทรัพย์รู้ตัวใช้มือตบกระเป๋าบังเอิญไปถูกมือจำเลยซึ่งกำลังกุมธนบัตรอยู่ ธนบัตรร่วงหล่นจากมือจำเลยลงไปที่เท้าเจ้าทรัพย์ ดังนี้เป็นความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จแล้วไม่ใช่เป็นความผิดฐานพยายาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1675/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปกปิดข้อมูลอาชีพและประวัติการประกันภัยถือเป็นสาระสำคัญ ทำให้สัญญาประกันเป็นโมฆียะ
การปกปิดข้อความจริงในเรื่องอาชีพของผู้เอาประกันชีวิตในเรื่องการชำระเบี้ยประกันของผู้เอาประกัน หรือแม้ในเรื่องที่ผู้เอาประกันชีวิตได้เอาประกันชีวิตไว้ก่อนแล้ว ถือว่าเป็นการปกปิดข้อความจริงอันเป็นสาระสำคัญ ซึ่งถ้าบริษัทรับประกันชีวิตทราบความจริงแล้วย่อมจะบอกปัดไม่รับประกัน สัญญาประกันชีวิตเช่นว่านี้เป็นโมฆียะ
การบอกล้างโมฆียะกรรมดังกล่าว กฎหมายไม่ได้บังคับว่าให้บอกล้างกับผู้เอาประกันโดยตรง เมื่อบริษัทผู้รับประกันทราบถึงมูลอันจะบอกล้างได้ ก็ย่อมบอกล้างแก่ผู้ซึ่งจะได้รับประโยชน์ในการประกันจากบริษัทผู้รับประกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1675/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปกปิดข้อมูลอาชีพและประวัติการประกัน ถือเป็นเหตุบอกล้างสัญญาประกันชีวิตได้
การปกปิดข้อความจริงในเรื่องอาชีพของผู้เอาประกันชีวิต ในเรื่องการชำระเบี้ยประกันของผู้เอาประกัน หรือแม้ในเรื่องที่ผู้เอาประกันชีวิตได้เอาประกันชีวิตไว้ก่อนแล้ว ถือว่าเป็นการปกปิดข้อความจริงอันเป็นสาระสำคัญ ซึ่งถ้าบริษัทรับประกันชีวิตทราบความจริงแล้วย่อมจะบอกปัดไม่รับประกัน สัญญาประกันชีวิตเช่นว่านี้เป็นโมฆียะ
การบอกล้างโมฆียะกรรมดังกล่าว กฎหมายไม่ได้บังคับว่าให้บอกล้างกับผู้เอาประกันโดยตรง เมื่อบริษัทผู้รับประกันทราบถึงมูลอันจะบอกล้างได้ ก็ย่อมบอกล้างแก่ผู้ซึ่งจะได้รับประโยชนในการประกันจากบริษัทผู้รับประกันได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1667/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บริวารผู้เช่าไม่ได้รับความคุ้มครองจากพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าเมื่อไม่มีนิติสัมพันธ์กับเจ้าของที่ดินโดยตรง
พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันคุ้มครองแต่ผู้เช่าเท่านั้น เมื่อฟังว่าผู้ร้องเป็นแต่บริวารของจำเลยซึ่งยินยอมว่าจะออกไปจากที่ของโจทก์ ผู้ร้องก็ไม่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1667/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะ 'บริวาร' ผู้เช่า ไม่มีสิทธิคุ้มครอง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า เมื่อไม่มีนิติสัมพันธ์โดยตรงกับเจ้าของที่ดิน
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันคุ้มครองแต่ผู้เช่าเท่านั้น เมื่อฟังว่าผู้ร้องเป็นแต่บริวารของจำเลยซึ่งยินยอมว่าจะออกไปจากที่ของโจทก์ ผู้ร้องก็ไม่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมาย.
of 170