คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
มนูกิจวิมลอรรถ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,694 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความคลาดเคลื่อนสถานที่เกิดเหตุกับการลงโทษทางอาญา ศาลฎีกาพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ได้ความจริง
ฟ้องโจทก์ว่าเหตุเกิดที่ตำบลบ้านบาตร อำเภอป้อมปราบ แต่ความจริงเหตุเกิดที่ตำบลป้อมปราบ อำเภอป้อมปราบ แต่ในการนำสืบก็รับกันอยู่แล้วว่าจำเลยถูกจับในบ้านที่เกิดเหตุนั้นจริง และอยู่ในอำเภอป้อมปราบนั้นเอง ข้อแตกต่างนั้นจึงมิใช่ในข้อสาระสำคัญ และทั้งจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างของตำบลที่เกิดเหตุในคำฟ้อง ไม่เป็นเหตุให้ศาลยกฟ้อง หากจำเลยไม่หลงต่อสู้
ฟ้องโจทก์ว่าเหตุเกิดที่ตำบลบ้านบาตรอำเภอป้อมปราบ แต่ความจริงเหตุเกิดที่ตำบลป้อมปราบอำเภอป้อมปราบ แต่ในการนำสืบก็รับกันอยู่แล้วว่าจำเลยถูกจับในบ้านที่เกิดเหตุนั้นจริง และอยู่ในอำเภอป้อมปราบนั้นเอง ข้อแตกต่างนั้นจึงมิใช่ในข้อสาระสำคัญและทั้งจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันสั่งซื้อไม้: พฤติการณ์แสดงเจตนาของผู้เยาว์ผ่านบิดาถือเป็นหลักฐานได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 สั่งซื้อไม้จากโจทก์ไปทำตู้ เตียง ซึ่งจำเลยรับเหมามาจากกองทัพอากาศ จำเลยที่ 2 รับว่าสั่งไม้จากโจทก์แต่ผู้เดียว จำเลยที่ 1 ไม่เกี่ยว จำเลยที่ 2 รับเหมาเด็ดขาดไปจากจำเลยที่ 1
เมื่อได้ความว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของร้านไทยงามอาภรณ์ จำเลยที่ 1 เป็นผู้เยาว์บิดาจึงเป็นผู้ดำเนินกิจการ ประกอบกับพฤติการณ์ที่จำเลยที่2 ว่าจะไปเอาเงินที่ร้านไทยงามมาชำระโจทก์ให้โจทก์ทำบิลให้แล้ว วันต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 2 กับบิดาจำเลยที่ 1 และเจ้าของร้านยูเนียนก็ได้พากันไปหาโจทก์ บิดาจำเลยที่ 1 เอาเงินให้ 2,000 บาทวางมัดจำค่าไม้ และบิดาจำเลยที่ 1 ยังบอกโจทก์ว่ามีร้ายไทยงามอาภรณ์และสั่งให้โจทก์ส่งไม้ให้เรื่อยๆ เงินก็จะชำระให้เรื่อยๆ ดังนี้เป็นพฤติการณ์ที่แสดงว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งซื้อไม้ของโจทก์ร่วมกับจำเลยที่ 2 และพฤติการณ์ที่โจทก์สืบดังกล่าวข้างต้นมิใช่พฤติการณ์ที่บิดาจำเลยที่ 1 ได้กระทำไปแต่ฝ่ายเดียว แต่เป็นพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 1 ได้แสดงออกโดยชัดแจ้งว่าจำเลยที่ 1 ได้ให้บิดาจัดการเรื่องนี้แทนตน พฤติการณ์ทั้งนี้จึงเป็นข้อความที่จะพึงแสดงว่าจำเลยที่ 1 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 สั่งซื้อไม้ของโจทก์โดยบิดาจำเลยที่ 1 เป็นผู้เกี่ยวข้องเอาธุระจัดการให้จำเลยที่ 1 จึงเป็นข้อความที่เกี่ยวกับประเด็นตามคำฟ้องของโจทก์ หาเป็นความที่นอกประเด็นอย่างไรไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันสั่งซื้อไม้: พฤติการณ์แสดงเจตนาของผู้เยาว์ผ่านบิดาเป็นหลักฐานได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 สั่งซื้อไม้จากโจทก์ไปทำตู้ เตียง ซึ่งจำเลยรับเหมามาจากกองทัพอากาศ จำเลยที่ 2 รับว่าสั่งไม้จากโจทก์แต่ผู้เดียว จำเลยที่ 1 ไม่เกี่ยว จำเลยที่ 2 รับเหมาเด็ดขาดไปจากจำเลยที่ 1
เมื่อได้ความว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของร้านไทยงามอาภรณ์ จำเลยที่ 1 เป็นผู้เยาว์บิดาจึงเป็นผู้ดำเนินกิจการ ประกอบกับพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 2 ว่าจะไปเอาเงินที่ร้านไทยงามมาชำระโจทก์ให้โจทก์ทำบิลให้แล้ววันต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 2 กับบิดาจำเลยที่ 1 และเจ้าของร้านยูเนียนก็ได้พากันไปหาโจทก์ บิดาจำเลยที่ 1 เอาเงินให้ 2,000 บาทวางมัดจำค่าไม้ และบิดาจำเลยที่ 1 ยังบอกโจทก์ว่ามีร้านไทยงามอาภรณ์และสั่งให้โจทก์ส่งไม้ให้เรื่อย ๆ เงินก็จะชำระให้เรื่อย ๆ ดังนี้เป็นพฤติการณ์ที่แสดงว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งซื้อไม้ของโจทก์ร่วมกับจำเลยที่ 2
และพฤติการณ์ที่โจทก์สืบดังกล่าวข้างต้นมิใช่พฤติการณ์ที่บิดาจำเลยที่ 1 ได้กระทำไปแต่ฝ่ายเดียว แต่เป็นพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 1 ได้แสดงออกโดยชัดเจ้งว่าจำเลยที่ 1 ได้ให้บิดาจัดการเรื่องนี้แทนตน พฤติการณ์ทั้งนี้จึงเป็นข้อความที่จะพึงแสดงว่าจำเลยที่ 1 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 สั่งซื้อไม้ของโจทก์โดยบิดาจำเลยที่ 1 เป็นผู้เกี่ยวข้องเอาธุระจัดการให้จำเลยที่ 1 จึงเป็นข้อความที่เกี่ยวกับประเด็นตามคำฟ้องของโจทก์ หาเป็นความที่นอกประเด็นอย่างไรไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1546/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมต่อท้าย: รายการต่อเนื่องใช้ได้ แม้ไม่มีลายมือชื่อกำกับ
รายการต่อท้ายตัวพินัยกรรมซึ่งผู้ทำพินัยกรรมและพยานลงชื่อไว้ และรายการต่อท้ายนั้นเขียนต่อท้ายไว้หลังลายมือชื่อที่ผู้ทำพินัยกรรมและพยานที่เซ็นไว้ และไม่มีชื่อผู้ทำพินัยกรรมและพยายเซ็นกำกับรายการอีกทีหนึ่งก็นับว่าใช้ได้เพราะมันติดต่อเนื่องกับตัวพินัยกรรมแท้ สืบเนื่องเป็นฉบับเดียวกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1546/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมที่สมบูรณ์: รายการต่อท้ายพินัยกรรมที่ลงชื่อต่อเนื่องกัน ถือเป็นส่วนหนึ่งของพินัยกรรม
รายการต่อท้ายตัวพินัยกรรมซึ่งผู้ทำพินัยกรรมและพยานลงชื่อไว้ และรายการต่อท้ายนั้นเขียนต่อท้ายไว้หลังลายมือชื่อที่ผู้ทำพินัยกรรมและพยานเซ็นไว้ และไม่มีชื่อผู้ทำพินัยกรรมและพยานเซ็นกำกับรายการอีกทีหนึ่ง ก็นับว่าใช้ได้เพราะมันติดต่อเนื่องกับตัวพินัยกรรมแท้ สืบเนื่องเป็นฉบับเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1544/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำสัญญาค้ำประกันยังไม่สมบูรณ์ สัญญาค้ำประกันจึงไม่เกิดขึ้น
จำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์ จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน เพื่อให้มั่นคงยิ่งขึ้นโจทก์ให้จำเลยที่ 3 ค้ำประกันหนี้รายนี้ด้วย โดยโจทก์จำเลยที่ 3 มุ่งเอาสัญญาขายฝากบ้านเรือนของจำเลยที่ 3 เป็นสัญญาค้ำประกันหนี้รายนี้ จำเลยที่ 3 จึงทำหนังสือมอบอำนาจให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้จะไปทำสัญญาขายฝากอีกทีหนึ่ง และได้มอบหนังสือมอบอำนาจนี้กับเอกสารสำหรับบ้านเรือนของจำเลยที่ 3 ที่จะขายฝากไว้กับโจทก์ เพียงเท่านี้หาใช่สัญญาค้ำประกันที่จะบังคับจำเลยที่ 3 ตามที่โจทก์ฎีกาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1544/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำสัญญาค้ำประกันยังไม่สมบูรณ์ การมอบอำนาจและเอกสารยังไม่ถือเป็นสัญญาค้ำประกัน
จำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์ จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน เพื่อให้มั่นคงยิ่งขึ้นโจทก์ให้จำเลยที่ 3 ค้ำประกันหนี้รายนี้ด้วย โดยโจทก์จำเลยที่ 3 มุ่งเอาสัญญาขายฝากบ้านเรือนของจำเลยที่ 3 เป็นสัญญาค้ำประกันหนี้รายนี้ จำเลยที่ 3 จึงทำหนังสือมอบอำนาจให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้จะไปทำสัญญาขายฝากอีกทีหนึ่ง และได้มอบหนังสือมอบอำนาจนี้กับเอกสารสำหรับบ้านเรือนของจำเลยที่ 3 ที่จะขายฝากไว้กับโจทก์ เพียงเท่านี้หาใช่สัญญาค้ำประกันที่จะบังคับจำเลยที่ 3 ตามที่โจทก์ฎีกาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1465/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบพยานบุคคลในคดีมอบที่ดินเป็นประกันการกู้ยืมเงิน – มาตรา 94 ป.วิ.แพ่ง
ป.วิ.แพ่ง มาตรา 94 ห้ามไม่ให้ฟังพยานบุคคลแต่เฉพาะในกรณีที่กฏหมายบังคับว่าต้องมีพยานเอกสารมาแสดง อย่างเรื่องที่ฟ้องร้องขอให้บังคับคดีในการกู้ยืมเงิน ส่วนคดีที่โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่าโจทก์ได้มอบที่พิพาทให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ยเงินกู้นั้น โจทก์ย่อมนำสืบพยานบุคคลได้ ไม่ต้องห้ามตามกฏหมายบทนี้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1465/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบพยานบุคคลในคดีที่อ้างการมอบที่ดินแทนการชำระหนี้ ไม่ขัดมาตรา 94 ป.วิ.พ.
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 ห้ามไม่ให้ฟังพยานบุคคลแต่เฉพาะในกรณีที่กฎหมายบังคับว่าต้องมีพยานเอกสารมาแสดง อย่างเรื่องที่ฟ้องร้องขอให้บังคับคดีในการกู้ยืมเงิน ส่วนคดีที่โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่าโจทก์ได้มอบที่พิพาทให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ยเงินกู้นั้น โจทก์ย่อมนำสืบพยานบุคคลได้ ไม่ต้องห้ามตามกฎหมายบทนี้
of 170