คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 60

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 230 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1198/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความอาฆาตต่อเนื่องและการจ้างวานฆ่าผู้อื่น ศาลลงโทษจำเลยทั้งสองฐานพยายามฆ่าและจ้างวาน
จำเลยที่ 1 อาฆาตผู้เสียหายได้พยายามหลายครั้งที่จะทำลายชีวิตผู้เสียหายต่อเนื่องกันมาที่สุดได้จ้างจำเลยที่ 2 ให้ไปยิงผู้เสียหาย หากไม่ถูกที่สำคัญจึงไม่ตาย ดังนี้ความผิดของจำเลยที่ 2 ผู้ลงมือกระทำต้องปรับตาม ม.249,60 ส่วนจำเลยที่ 1 ผู้จ้างด้วยความแค้นและพยายามนั้นต้องปรับตาม ม.250(3),60

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1045/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ปืนยิงในระยะใกล้หลายนัดแสดงเจตนาฆ่า แม้ไม่สำเร็จถือเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า
การที่จำเลยใช้ปืนสั้นยิงในระยะใกล้ กระสุนปืนถูกผู้เสียหายมีบาดแผลถึง 7 แห่ง ดังนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าให้ตายแต่เผอิญถูกในที่ไม่สำคัญจึงไม่ตายจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน
เมื่อจำเลยเป็นผู้ก่อเหตุใช้ปืนยิงผู้เสียหายก่อน ผู้เสียหายจึงทำร้ายจำเลย ๆ ก็ยิงอีก หาใช่เป็นการป้องกันตัวดั่งข้อต่อสู้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และการลดโทษตาม ม.37
การที่จำเลยที่ 3 พาพวกมีอาวุธกลับมาและขึ้นไปบนเรือนพร้อมกับจำเลยที่ 1 ๆ ถือปืนยาวแล้วหยิบปืนลูกซองอีกกระบอกให้จำเลยที่ 3 ๆ บรรจุกระสุนเล็งมาทางเจ้าพนักงานสรรพสามิต ๆ หลบเข้าใต้ถุนและไปห่างราว 10 วาก็มีเสียงปืนลั่นมาจากทางบ้าน จำเลยที่ 1 ติด ๆ กัน 2 นัด เมื่อลั่นนัดแรกเจ้าพนักงานผู้นั้นหันไปเห็นจำเลยที่ 1 ประทับปืนอยู่ พฤติการณ์ดังนี้ย่อมถือว่า่จำเลยที่ 3 เป็นพรรคพวกของจำเลยที่ 1 และร่วมสบคบให้อาวุธปืนยิงเจ้าพนักงาน ๆ ด้วย
นายตรวจสรรพสามิตทำการตรวจค้นบ้านจำเลยในข้อหาว่ามีสุราผิด ก.ม. ตามหมายค้นของผู้ว่าราชการจังหวัด ถือได้ว่าเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่เมื่อจำเลยใช้อาวุธปืนยิงโดยเจตนาจะฆ่าหากแต่กระสุนไม่ถูกที่หมาย ดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน เพราะการที่กระทำการตามหน้าที่ตาม ม.250(2),60
ความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนาตาม ม. 250 (2) เป็นอุกฤษโทษ ก.ม.บัญญัติให้ประหารชีวิตแต่สถานเดียว เมื่อจะลงโทษจำเลยเพียง 2 ใน 3 ส่วน ตาม ม.60 ต้องถือเกณฑ์ส่วนลดตาม ม. 37(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1825/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์: การสมคบร่วมกัน, การขู่ด้วยอาวุธ, และการมีพรรคพวกเตรียมการช่วยเหลือ
จำเลยกับพวกอีกคนหนึ่งเข้าทำการชิงทรัพย์นอกจากนี้แล้วยังมีพรรคพวก ซึ่งมาด้วยกันแล้วหลบหนีไปด้วยกันอีก บรรดาพรรคพวกนั้นยืนคุมเชิงอยู่ในลักษณะเตรียมร่วมมือด้วยนับได้ว่าจำเลยได้สมคบกับพวกมีจำนวนตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป จึงเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์
พวกของจำเลยคนหนึ่งเข้าไปขอเงินเจ้าทรัพย์ ๆ ให้น้อย พวกจำเลยจึงหยิบเงินเอาเอง พวกเจ้าทรัพย์เข้าแย่งเงินหล่นลงที่พื้น จำเลยง้างมีดทำท่าจะแทงถือได้ว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์สำเร็จแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาลงโทษจำเลยที่รับสารภาพในคดีสมคบพยายามลักทรัพย์และชิงทรัพย์ โดยพิจารณาจากข้อกล่าวหาแยกส่วน
คำพ้องเป็นฟ้องจำเลยหลายคนแต่ข้อกล่าวหาแยกได้เป็น 2 ตอน ตอนแรกกล่าวหาว่า จำเลยสมคบกันพยายามลักทรัพย์ ในตอนหลังกล่าวหาจำเลยบางคนฐานชิงทรัพย์ประกอบด้วยเหตุฉกรรจ์อันมีอัตราโทษขั้นสุงสุดถึง 10 ปี ดังนี้เมื่อจำเลยที่ถูกกล่าวหาในตอนแรกรักสารภาพแล้ว ศาลพิพากษาลงโทษได้ตาม ม.176 วิ.อาญา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 70/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาพยายามฆ่า แม้ผิดตัวผู้ถูกยิง ก็ถือเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าโดยเจตนา
ตั้งใจฆ่าคนหนึ่งโดยพยายามด้วยความพยาบาทมาดหมาย แล้วยิงอีกคนหนึ่งผิดตัวไปโดยสำคัญผิดว่าเป็นคนที่ตั้งใจจะฆ่าโดยพยายามด้วยความพยาบาทมาดหมายนั้นคนที่ ถูกยิงไม่ตายเพราะกระสุนไม่ถูกที่สำคัญ ดังนี้ถือว่าเป็นการพยายามฆ่าคนให้ตายโดยพยายามด้วยความพยาบาทมาดหมาย
(อ้างฎีกาที่ 186/2466 และ ที่ 650/2471)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2111/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์ยังไม่สำเร็จ หากทรัพย์สินยังมิได้เคลื่อนย้าย
สายพานที่จำเลยลักและกำลังม้วนอยู่นั้น เพียงแต่หลุดจากมู่เล่อันบนและอันล่าง ที่สายพานเชื่อมกันอยู่ แต่สายพานยังคงพาดอยู่กับเพลาและสลักต่อสายพานถูกชักออกแล้ว จำเลยม้วนสายพานได้ 1 ใน 10 ของความยาว และคงอยู่ข้างมู่เล่นั้นเอง ดังนี้ ถือว่าการลักทรัพย์ยังไม่สำเร็จเพราะสายพานยังมิได้เคลื่อนหลุดไปจากที่ คงผิดเพียงฐานพยายาม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบร่วมกันลักทรัพย์: การกระทำที่ถือเป็นตัวการ
พฤตติการณ์ที่ถือว่า เป็นตัวการฐานลักทรัพย์
ศาลชั้นต้นลงโทษฐานลักทรัพย์ตาม มาตรา 295,54, จำคุก 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตามมาตนา 321 ,59 จำคุก 6 เดือน โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขุดถอนพืชผลยังไม่ถือเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปจนกว่าจะมีการนำไป การกระทำจึงเป็นเพียงพยายามชิงทรัพย์
ตามสภาพของพืชผลต้องติดอยู่กับต้นหรือปลูกปักอยู่ในดิน การทำให้ผลไม้หลุดออกจากต้น เช่นสอยมะม่วง หรือตัดขนุนให้หล่นลงมา หรือ ขุดถอนมันหรือต้นหอมให้หลุดพ้นขึ้นจากดินโดยยังไม่ทันเอาไปด้วยนั้น ยังเรียกไม่ได้ว่าเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปดังที่ท่านบัญญัติไว้ใน ก.ม.อาญา ม.288
คนร้ายถอนต้นหอมของผู้อื่นขึ้นมา ทิ้งเกลื่อนอยู่บนร่องสวน ยังไม่ทันจะเอาไป พอดีเจ้าทรัพย์มาพบเสีย+ดังนี้ เป็นผิดฐานพยายามลักทรัพย์เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 188/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีตราท่อนไม้เพื่อแสดงกรรมสิทธิและการเข้าข่ายความผิดฐานลักทรัพย์
เท่าที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าจำเลยเอาตราแสดงกรรมสิทธิของตนตีลงบนท่อนไม้ของผู้อื่นเพื่อเอากรรมสิทธินั้น เมื่อประกอบกับข้อเท็จจริง ซึ่งจะได้ความในชั้นพิจารณาแล้ว อาจเป็นเหตุให้เห็นได้ว่า การกระทำดังนี้ เป็นการลักทรัพย์ได้สมควรรับฟ้องไว้พิจารณา ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปความ
of 23