พบผลลัพธ์ทั้งหมด 230 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการกระทำความผิดฐานฆ่า: การเปลี่ยนแปลงเป้าหมายการกระทำไม่ถือเป็นข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยบังอาจใช้อาวุธปืนยิงนายทองหล่อ เขียนกันให้ถึงแก่ความตาย แต่นายทองหล่อรู้ตัวและหลบบังนายรอดหรือบุญรอด หุ่นเสือ กระสุนปืน จึงพลาดไปถูกนายรอดถึงแก่ความตาย แต่ทางพิจารณาฟังได้ว่า จำเลยมิได้เจตนาฆ่านายทองหล่อ หากเจตนาฆ่านายรอด กระสุนปืนที่จำเลยใช้ยิงก็ถูกนายรอถึงแก่ความตายจำเลยมีความผิดฐานฆ่านายรอดหรือบุญรอด หุ่นเสือ ตายโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
กรณีเช่นนี้ ถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกันข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง อันเป็นเหตุให้ศาลต้องพิพากษาฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
กรณีเช่นนี้ ถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกันข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง อันเป็นเหตุให้ศาลต้องพิพากษาฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า vs. ผลแห่งการกระทำ: การพิจารณาความผิดฐานฆ่าเมื่อพลาดเป้าหมาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยบังอาจใช้อาวุธปืนยิงนายทองหล่อเขียนกันให้ถึงแก่ความตาย แต่นายทองหล่อรู้ตัวและหลบบังนายรอดหรือบุญรอด หุ่นเสือ กระสุนปืนจึงพลาดไปถูกนายรอดถึงแก่ความตาย แต่ทางพิจารณาฟังได้ว่า จำเลยมิได้เจตนาฆ่านายทองหล่อ หากเจตนาฆ่านายรอด กระสุนปืนที่จำเลยใช้ยิงก็ถูกนายรอดถึงแก่ความตายจำเลยมีความผิดฐานฆ่านายรอดหรือบุญรอด หุ่นเสือ ตายโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
กรณีเช่นนี้ ถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง อันเป็นเหตุให้ศาลต้องพิพากษายกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
กรณีเช่นนี้ ถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง อันเป็นเหตุให้ศาลต้องพิพากษายกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าและการเปลี่ยนแปลงเป้าหมายการกระทำความผิดทางอาญา
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยบังอาจใช้อาวุธปืนยิงนายทองหล่อเขียนกันให้ถึงแก่ความตาย. แต่นายทองหล่อรู้ตัวและหลบบังนายรอดหรือบุญรอด หุ่นเสือ กระสุนปืนจึงพลาดไปถูกนายรอดถึงแก่ความตาย. แต่ทางพิจารณาฟังได้ว่า. จำเลยมิได้เจตนาฆ่านายทองหล่อ. หากเจตนาฆ่านายรอด กระสุนปืนที่จำเลยใช้ยิงก็ถูกนายรอดถึงแก่ความตายจำเลยมีความผิดฐานฆ่านายรอดหรือบุญรอด หุ่นเสือ ตายโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288.
กรณีเช่นนี้ ถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง. อันเป็นเหตุให้ศาลต้องพิพากษายกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192.
กรณีเช่นนี้ ถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง. อันเป็นเหตุให้ศาลต้องพิพากษายกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1917/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย: การตีความ 'ผู้อื่น' ในมาตรา 340
ความผิดฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสุดท้าย นั้นหมายถึงบุคคลอื่น มิใช่พวกปล้นด้วยกันเอง ฉะนั้นการที่จำเลยกับพวกร่วมกันมีปืนเป็นอาวุธปล้นทรัพย์ และจำเลยได้ใช้ปืนยิงเจ้าทรัพย์บาดเจ็บและกระสุนพลาดไปถูกพวกคนร้ายด้วยกันตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานปล้นโดยใช้ปืนยิงและฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1917/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความความผิดฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย: ผู้ตายต้องไม่ใช่พวกปล้นด้วยกัน
ความผิดฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสุดท้าย นั้น.หมายถึงบุคคลอื่น มิใช่พวกปล้นด้วยกันเอง. ฉะนั้นการที่จำเลยกับพวกร่วมกันมีปืนเป็นอาวุธปล้นทรัพย์ และจำเลยได้ใช้ปืนยิงเจ้าทรัพย์บาดเจ็บและกระสุนพลาดไปถูกพวกคนร้ายด้วยกันตาย. จำเลยจึงมีความผิดฐานปล้นโดยใช้ปืนยิงและฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1917/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย: ผู้เสียชีวิตต้องไม่ใช่พวกปล้นทรัพย์
ความผิดฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสุดท้าย นั้นหมายถึงบุคคลอื่น มิใช่พวกปล้นด้วยกันเอง ฉะนั้นการที่จำเลยกับพวกร่วมกันมีปืนเป็นอาวุธปล้นทรัพย์ และจำเลยได้ใช้ปืนยิงเจ้าทรัพย์บาดเจ็บและกระสุนพลาดไปถูกพวกคนร้ายด้วยกันตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานปล้นโดยใช้ปืนยิงและฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิโดยชอบธรรมและการทำร้ายร่างกายโดยบันดาลโทสะ: พฤติการณ์และเหตุผลในการใช้ความรุนแรง
เมื่อคดีฟังได้ว่าจำเลยเพียงยกขวดแตกขึ้นรับเมื่อผู้ตายโถมเข้าแทงจำเลยทำให้พับแขนของผู้ตายถูกขวดเข้าเองเป็นบาดแผล. และผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา. ฉะนั้นเมื่อจำเลยมิได้ทำร้ายผู้ตาย จำเลยจึงไม่มีความผิด.
แต่สำหรับเหตุการณ์ตอนที่ผู้ตายแทงผู้อื่นพลาดมาถูกจำเลย. เมื่อจำเลยเข้าห้ามการทะเลาะวิวาท แล้วจำเลยใช้ขวดสุราตีศีรษะผู้ตายบาดเจ็บนั้น. ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการป้องกันโดยชอบ เพราะภยันตรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว. แต่การกระทำของจำเลยเนื่องมาจากการที่ผู้ตายข่มเหงโดยเหตุอันไม่เป็นธรรม. จึงต้องถือว่าจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายโดยเหตุบันดาลโทสะ.
แต่สำหรับเหตุการณ์ตอนที่ผู้ตายแทงผู้อื่นพลาดมาถูกจำเลย. เมื่อจำเลยเข้าห้ามการทะเลาะวิวาท แล้วจำเลยใช้ขวดสุราตีศีรษะผู้ตายบาดเจ็บนั้น. ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการป้องกันโดยชอบ เพราะภยันตรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว. แต่การกระทำของจำเลยเนื่องมาจากการที่ผู้ตายข่มเหงโดยเหตุอันไม่เป็นธรรม. จึงต้องถือว่าจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายโดยเหตุบันดาลโทสะ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย การทำร้ายร่างกายโดยบันดาลโทสะ และขอบเขตการป้องกันตนเอง
เมื่อคดีฟังได้ว่าจำเลยเพียงยกขวดแตกขึ้นรับเมื่อผู้ตายโถมเข้าแทงจำเลยทำให้พับแขนของผู้ตายถูกขวดเข้าเองเป็นบาดแผล และผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ฉะนั้นเมื่อจำเลยมิได้ทำร้ายผู้ตาย จำเลยจึงไม่มีความผิด
แต่สำหรับเหตุการณ์ตอนที่ผู้ตายแทงผู้อื่นพลาดมาถูกจำเลย เมื่อจำเลยเข้าห้ามการทะเลาะวิวาท แล้วจำเลยใช้ขวดสุราตีศีรษะผู้ตายบาดเจ็บนั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการป้องกันโดยชอบ เพราะภยันตรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่การกระทำของจำเลยเนื่องมาจากการที่ผู้ตายข่มเหงโดยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงต้องถือว่าจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายโดยเหตุบันดาลโทสะ
แต่สำหรับเหตุการณ์ตอนที่ผู้ตายแทงผู้อื่นพลาดมาถูกจำเลย เมื่อจำเลยเข้าห้ามการทะเลาะวิวาท แล้วจำเลยใช้ขวดสุราตีศีรษะผู้ตายบาดเจ็บนั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการป้องกันโดยชอบ เพราะภยันตรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่การกระทำของจำเลยเนื่องมาจากการที่ผู้ตายข่มเหงโดยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงต้องถือว่าจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายโดยเหตุบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายและการทำร้ายร่างกายโดยบันดาลโทสะ กรณีขวดแตกบาดเจ็บและเสียชีวิต
เมื่อคดีฟังได้ว่าจำเลยเพียงยกขวดแตกขึ้นรับเมื่อผู้ตายโถมเข้าแทงจำเลยทำให้พับแขนของผู้ตายถูกขวดเข้าเองเป็นบาดแผล และผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ฉะนั้นเมื่อจำเลยมิได้ทำร้ายผู้ตาย จำเลยจึงไม่มีความผิด
แต่สำหรับเหตุการณ์ตอนที่ผู้ตายแทงผู้อื่นพลาดมาถูกจำเลยเมื่อจำเลยเข้าห้ามการทะเลาะวิวาท แล้วจำเลยใช้ขวดสุราตีศีรษะผู้ตายบาดเจ็บนั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการป้องกันโดยชอบ เพราะภยันตรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่การกระทำของจำเลยเนื่องมาจากการที่ผู้ตายข่มเหงโดยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงต้องถือว่าจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายโดยเหตุบันดาลโทสะ
แต่สำหรับเหตุการณ์ตอนที่ผู้ตายแทงผู้อื่นพลาดมาถูกจำเลยเมื่อจำเลยเข้าห้ามการทะเลาะวิวาท แล้วจำเลยใช้ขวดสุราตีศีรษะผู้ตายบาดเจ็บนั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการป้องกันโดยชอบ เพราะภยันตรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่การกระทำของจำเลยเนื่องมาจากการที่ผู้ตายข่มเหงโดยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงต้องถือว่าจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายโดยเหตุบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1439/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่า: การสมคบคิด การกระทำโดยพลการ และเจตนา
ขณะที่ผู้ตายต่อยกับน้องภริยาจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ได้ยิงไปก่อน1 นัด ถูกผู้ตาย แล้วต่อมาจำเลยที่ 1 จึงได้ยิงไป ตามพฤติการณ์ดังกล่าวที่จำเลยทั้งสองยิงไปนั้นเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นในทันทีทันใดนั้น โดยต่างคนต่างกระทำลงไป มิได้สมคบร่วมรู้กันมาก่อน จะฟังว่าจำเลยที่ 1 สมคบกับจำเลยที่ 2 ฆ่าผู้ตายไม่ ได้ ผู้ตายมีบาดแผลถูกยิงแผลเดียว และฟังได้ว่าแผลที่ถูกยิงนั้นเป็นผลแห่งการกระทำของจำเลยที่ 2 แต่ผู้เดียว ฉะนั้น จำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดฐานฆ่าผู้ตาย
การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงไปยังผู้ตายกับพวกหลายนัดนั้น ส่อเจตนาให้เห็นว่าจำเลยตั้งใจฆ่า แต่กระสุนปืนพลาดไปถูกที่ไม่สำคัญ จึงไม่ถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน
การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงไปยังผู้ตายกับพวกหลายนัดนั้น ส่อเจตนาให้เห็นว่าจำเลยตั้งใจฆ่า แต่กระสุนปืนพลาดไปถูกที่ไม่สำคัญ จึงไม่ถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน