พบผลลัพธ์ทั้งหมด 57 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 359/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ค้ำประกันร่วมกันมีสิทธิไล่เบี้ยกันได้ตามหลักทั่วไป
ผู้ค้ำประกันร่วมกัน 2 คน เมื่อผู้ค้ำประกันคนหนึ่งได้ชำระหนี้ทั้งหมดแทนลูกหนี้ไป ย่อมรับช่วงสิทธิของเจ้าหนี้ไล่เบี้ยเอากับผู้ค้ำประกันอีกคนหนึ่งได้กึ่งหนึ่งตามมาตรา 229(3) และ 296 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 682 วรรค 2 บัญญัตินิติสัมพันธ์ระหว่างผู้ค้ำประกันกับเจ้าหนี้ และมาตรา 693บัญญัตินิติสัมพันธ์ระหว่างผู้ค้ำประกันกับลูกหนี้แต่ในระหว่างผู้ค้ำประกันด้วยกันบทบัญญัติในลักษณะค้ำประกันมิได้กำหนดความรับผิดต่อกันไว้จึงต้องใช้หลักทั่วไปตามมาตรา 229,296
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 682 วรรค 2 บัญญัตินิติสัมพันธ์ระหว่างผู้ค้ำประกันกับเจ้าหนี้ และมาตรา 693บัญญัตินิติสัมพันธ์ระหว่างผู้ค้ำประกันกับลูกหนี้แต่ในระหว่างผู้ค้ำประกันด้วยกันบทบัญญัติในลักษณะค้ำประกันมิได้กำหนดความรับผิดต่อกันไว้จึงต้องใช้หลักทั่วไปตามมาตรา 229,296
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 359/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ค้ำประกันร่วมกัน ไล่เบี้ยเรียกคืนหนี้ได้กึ่งหนึ่งตามหลักทั่วไป
ผู้ค้ำประกันร่วมกัน 2 คน เมื่อผู้ค้ำประกันคนหนึ่งได้ชำระหนี้ทั้งหมดแทนลูกหนี้ไป ย่อมรับช่วงสิทธิของเจ้าหนี้ไล่เบี้ยเอากับผู้ค้ำประกันอีกคนหนึ่งได้กึ่งหนึ่งตามมาตรา 229(3) และ 296 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 682 วรรค 2 บัญญัตินิติสัมพันธ์ระหว่างผู้ค้ำประกันกับเจ้าหนี้ และมาตรา 693 บัญญัตินิติสัมพันธ์ระหว่างผู้ค้ำประกันกับลูกหนี้ แต่ในระหว่างผู้ค้ำประกันด้วยกัน บทบัญญัติในลักษณะค้ำประกันมิได้กำหนดความรับผิดต่อกันไว้ จึงต้องใช้หลักทั่วไปตามมาตรา 229,296.
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 682 วรรค 2 บัญญัตินิติสัมพันธ์ระหว่างผู้ค้ำประกันกับเจ้าหนี้ และมาตรา 693 บัญญัตินิติสัมพันธ์ระหว่างผู้ค้ำประกันกับลูกหนี้ แต่ในระหว่างผู้ค้ำประกันด้วยกัน บทบัญญัติในลักษณะค้ำประกันมิได้กำหนดความรับผิดต่อกันไว้ จึงต้องใช้หลักทั่วไปตามมาตรา 229,296.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีลูกหนี้ตามคำพิพากษาเมื่อลูกหนี้เดิมไม่มีทรัพย์สิน - ความรับผิดของลูกหนี้ตามสัญญา
คดีเดิมศาลพิพากษาว่าให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินค่าเช่าตามฟ้อง ถ้าไม่สามารถจะใช้ก็ให้จำเลยที่ 2 ใช้แทน แต่โจทก์ยังมิได้บังคับจำเลยที่ 1 จึงให้งดการบังคับจำเลยที่ 2 ดังนี้เป็นการชั่วคราว เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้บังคับผู้รับมรดกจำเลยที่ 1 แล้ว แต่กองมรดกไม่มีทรัพย์จะชำระหนี้ได้ ก็บังคับจำเลยที่ 2 ได้ เพราะชั้นนี้เป็นความรับผิดฐานเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา ไม่ใช่ฐานเป็นผู้ค้ำประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลำดับการบังคับคดีหนี้ตามคำพิพากษา: ลูกหนี้หลักก่อนผู้ค้ำประกัน
คดีเดิมศาลพิพากษาว่าให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินค่าเช่าตามฟ้อง ถ้าไม่สามารถจะใช้ก็ให้จำเลยที่ 2 ใช้แทน แต่โจทก์ยังมิได้บังคับจำเลยที่ 1 จึงให้งดการบังคับจำเลยที่ 2 ดังนี้เป็นการชั่วคราวเมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้บังคับผู้รับมรดกจำเลยที่ 1 แล้วแต่กองมรดกไม่มีทรัพย์จะชำระหนี้ได้ ก็บังคับจำเลยที่ 2 ได้ เพราะชั้นนี้เป็นความรับผิดฐานเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา ไม่ใช่ฐานเป็นผู้ค้ำประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 351/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ลูกหนี้โดยผู้ค้ำประกันและการขัดทรัพย์: อำนาจการยึดและสิทธิในทรัพย์สิน
ผู้ค้ำประกันกับลูกหนี้ถูกตัดสินให้ใช้เงินแก่เจ้าหนี้แล้วไม่ใช้ ผู้ค้ำประกันร้องขอต่อศาลนำยึดทรัพย์ของลูกหนี้ ศาลสั่งอนุญาตให้ยึด และมีผู้ร้องขัดทรัพย์ผู้ค้ำประกันเข้าว่าความกับผู้ขัดทรัพย์ตลอดมาจนถึงศาลฎีกา เมื่อคู่คดีไม่ยกปัญหาเรื่องความสมบูรณ์แห่งการยึดทรัพย์และการว่าความขึ้นว่ากล่าวแล้วศาลฎีกาไม่วินิจฉัยถึง