คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
กฎหมายลักษณะอาญา ม. 270

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 47 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่นำไปสู่การจับกุมผู้อื่นโดยตำรวจ ไม่ถือเป็นการหน่วงเหนี่ยวกักขังตามกฎหมาย
จำเลยเอาเครื่องมือปลอมเงินตราและเหรียญปลอมไปซุกใส่บ้านผู้เสียหายแล้วจำเลยติดต่อให้ตำรวจมาจับ ตำรวจมาค้นได้ของกลางและจับผู้เสียหายขัง 4 วัน จึงได้ประกันตัวเช่นนี้ การกระทำของจำเลยไม่ผิดฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพตาม มาตรา 270 เพราะการที่ผู้เสียหายถูกจับตัวไปกักขังนั้น เป็นเรื่องอยู่ในดุลพินิจของตำรวจที่จะพิจารณาเห็นสมควรจับกุมตามควรแก่กรณี หาใช่เป็นเรื่องที่จำเลยหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายแต่ประการใดไม่ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตำรวจใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เรียกรับเงินจากผู้ต้องสงสัย ศาลตัดสินผิดฐานทุจริต
การที่จำเลยหยิบเอาเงินไป เนื่องจากที่ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 ความผิดเรื่องลักทรัพย์เกลื่อนกลืนเข้าไปในกรณีนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตำรวจใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ทุจริตเรียกรับเงินจากผู้ต้องสงสัย คดีลักทรัพย์เกลื่อนกลืน
การที่จำเลยหยิบเอาเงินไป เนื่องจากที่ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148ความผิดเรื่องลักทรัพย์เกลื่อนกลืนเข้าไปในกรณีนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1263/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการลงโทษตามความผิดที่เบากว่าในหมวดเดียวกัน แม้โจทก์ฟ้องฐานความผิดหนักกว่า
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.276 ซึ่งอยู่ในหมวดฐานกระทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพ เมื่อฟังว่าจำเลยไม่มีผิดตาม ม.276 หากแต่ผิดตาม ม.270 อันเป็นความผิดอยู่ในหมวดเดียวกัน เป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษฐานทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพอยู่ในตัวศาลจึงมีอำนาจลงโทษจำเลยตาม ม.270 ซึ่งมีโทษเบากว่าได้ ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 192

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1263/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการลงโทษตามความผิดอื่นเมื่อไม่พบผิดตามฟ้องเดิม แต่ยังอยู่ในหมวดความผิดเดียวกัน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 276 ซึ่งอยู่ในหมวดฐานกระทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพ เมื่อฟังว่าจำเลยไม่มีผิดตาม มาตรา 276 หากแต่ผิด ตาม มาตรา 270 อันเป็นความผิดอยู่ในหมวดเดียวกัน เป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษฐานทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพอยู่ในตัว ศาลจึงมีอำนาจลงโทษจำเลยตาม มาตรา 270 ซึ่งมีโทษเบากว่าได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1779/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดกับเจ้าพนักงาน และการลงโทษผู้สมรู้ตาม พ.ร.บ.กักกันผู้ร้าย
เมื่อได้ความว่าจำเลยสมรู้ให้เจ้าพนักงานกระทำผิดตามมาตรา136 แล้วแม้จำเลยจะเป็นราษฎรก็ตามก็ย่อมมีความผิดฐานเป็นผู้สมรู้ในความผิดที่เจ้าพนักงานกระทำนั้น
ผู้สมรู้ก็เป็นกระทำผิดเมื่อความผิดนั้นๆ ต้องตามบทมาตราใน พระราชบัญญัติกักกันฯก็ลงโทษกักกันผู้สมรู้นั้นได้ พระราชบัญญัติกักกันฯมิได้ประสงค์ให้ลงโทษแต่เฉพาะตัวการไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1779/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดกับเจ้าพนักงาน และการลงโทษผู้สมรู้ตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย
เมื่อได้ความว่าจำเลยสมรู้ให้เจ้าพนักงานกระทำผิดตาม ม.136 แล้ว แม้จำเลยจะเป็นราษฎรก็ตามก็ย่อมมีความผิดฐานเป็นผู้สมรู้ในความผิดที่เจ้าพนักงานกระทำนั้น
ผู้สมรู้ก็เป็นกระทำผิดเมื่อความผิดนั้น ๆ ต้องตามบทมาตราใน พ.ร.บ. กักกัน ฯ ก็ลงโทษกักกันผู้สมรู้นั้นได้ พ.ร.บ. กักกันฯ มิได้ประสงค์ให้ลงโทษแต่เฉพาะตัวการไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 512/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉุดคร่าอนาจาร-หน่วงเหนี่ยวกักขัง: การกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ รวมกระทงลงโทษได้
จำเลยฉุดคร่าผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารและเมื่อพาไปถึงบ้านผู้อื่นแล้วจำเลยยังได้บังอาจหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายไว้อีกดังนี้เป็นการกระทำผิด 2 ตอนต่างกรรมต่างวาระกัน จำเลยย่อมมีผิดฐานฉุดคร่าอนาจารและฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 276,270 เป็นสองกระทง และศาลมีอำนาจให้รวมกระทงลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 512/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉุดคร่าอนาจาร-หน่วงเหนี่ยวกักขัง: การกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ ศาลรวมโทษได้
จำเลยฉุดคร่าผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารและเมื่อพาไปถึงบ้านผู้อื่นแล้ว จำเลยยังได้บังอาจหน่วงเหนึ่ยวกักขังผู้เสียหายไว้อีกดังนี้ เป็นการกระทำผิด 2 ตอน ต่างกรรมต่างวาระกัน จำเลยย่อมมีผิดฐานฉุดคร่าห์อนาจารและฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 276,270 เป็นสองกะทง และศาลมีอำนาจให้รวมกะลงลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 300/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งต้องชัดเจนบังคับ มิใช่แค่แนะนำ หากเจ้าพนักงานอ้างอำนาจผู้อื่นเพื่อข่มขู่ ไม่ถือเป็นคำสั่ง
คำสั่งต้องเป็นคำบังคับมิใช่คำแนะนำซึ่งผู้รับจะกระทำหรือไม่ก็แล้วความตกลงใจของผู้นั้น
ผู้ใหญ่บ้านพูดว่า 'นายบัวมันบ้าๆบอๆ ให้จำเลยไปเอามาดีกว่าเป็นเจ้าพนักงานมันจะได้กลัว'เพียงแค่นี้ยังถือไม่ได้ว่าผู้ใหญ่บ้านมีคำสั่งให้จำเลยไปทำการจับกุมนายบัวมาโดยใช้อำนาจบังคับหากแต่เป็นการแนะนำจำเลยว่าจำเลยควรจะไปเอามาดีกว่า เพราะจำเลยเป็นเจ้าพนักงาน(นายตรวจสรรพสามิต) ผู้ใหญ่บ้านกลับมาแอบอ้างอำนาจจำเลยเสียเองเพื่อให้นายบัวกลัว
เมื่อจำเลยขึ้นไปบนบ้านผู้เสียหายและบังคับตบตี นำผู้เสียหายมาเช่นนี้ จำเลยก็ต้องมีความผิดตาม มาตรา 329,และ 270 จะอ้างว่ากระทำไปตามคำสั่งของเจ้าพนักงานให้พ้นผิดไม่ได้
of 5