พบผลลัพธ์ทั้งหมด 217 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 450/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารยกทรัพย์สินที่ไม่มีเจตนาเผื่อตาย ไม่เป็นพินัยกรรม และการครอบครองมรดกหลังเจ้ามรดกเสียชีวิตไม่ขาดอายุความ
แม้ในหนังสือที่จำเลยอ้างจะมีข้อความว่าเป็นใบแทนพินัยกรรมก็ดี แต่ข้อความที่บรรยายไว้ ผู้ทำหาได้กำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพยสินเพื่อให้มีผลบังคับเมื่อตนตายอย่างไรไม่ ฉะนั้นจึงไม่มีลักษณะเป็นพินัยกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1646 คงมีลักษณะเป็นการให้โดยเสน่หาเท่านั้น เมื่อไม่ได้จดทะเบียนจึงไม่สมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือยกทรัพย์ที่มีเงื่อนไข มิใช่พินัยกรรม หากมิได้กำหนดการเผื่อตาย
การที่เจ้ามรดกทำหนังสือยกทรัพย์ให้แก่โจทก์ พร้อมทั้งวางเงื่อนไขไม่ให้โอนทรัพย์และให้ใช้หนี้ให้เจ้ามรดกด้วย แต่มิได้กำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สิน หนังสือนี้ไม่ใช่หนังสือพินัยกรรม เป็นหนังสือยกให้อย่างธรรมดา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือยกทรัพย์ที่มีเงื่อนไข ไม่ถือเป็นพินัยกรรม หากมิได้กำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สิน
การที่เจ้ามรดกทำหนังสือยกทรัพย์ให้แก่โจทก์พร้อมทั้งวางเงื่อนไขไม่ให้โอนทรัพย์และให้ใช้หนี้ให้เจ้ามรดกด้วยแต่มิได้กำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินหนังสือนี้ไม่ใช่หนังสือพินัยกรรมเป็นหนังสือยกให้อย่างธรรมดา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 816/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมที่ชอบด้วยกฎหมาย: การระบุผู้รับมรดกและการห้ามมิให้ผู้อื่นเกี่ยวข้องกับทรัพย์มรดก
เจ้ามรดกเขียนพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้บุตรและบุตรเขยแม้จะไม่มีข้อความว่าให้คำสั่งของตนมีผลเมื่อตายแล้วก็ดี แต่เมื่ออ่านเอกสารนี้รวมกันทั้งฉบับแล้ว คงได้ความว่า ทรัพย์ของเจ้ามรดกที่มีอยู่เมื่อตายเจ้ามรดกไม่ปลงใจยกให้แก่ใคร นอกจากบุตรและบุตรเขย ฯลฯ ที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ นั้น จึงย่อมเป็นคำสั่งของเจ้ามรดกได้กำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินของตนอันจะให้เกิดมีผลบังคับได้ตามกฎหมายเมื่อตายแล้วจึงเป็นพินัยกรรมที่ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1646
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1513/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมที่แก้ไขโดยการขีดฆ่าและการเขียนใหม่ ยังสมบูรณ์หากไม่เปลี่ยนแปลงเจตนาเดิม
เอกสารที่มีข้อความว่าผู้ยกทรัพย์สินยอมยกให้เป็นกรรมสิทธิแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง ต่อเมื่อผู้ให้วายชนม์ และผู้รับได้ทำการณาปนกิจผู้ให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าเป็นพินัยกรรม์
ในพินัยกรรม์ แม้จะมีการขีดฆ่าถ้อยคำบางตอนออก โดยผู้เขียนเซ็นชื่อกำกับที่ข้างกระดาษเอง ผู้ทำพินัยกรรม์มิได้ลงลายมือชื่อกำกับด้วยนั้น ถ้าเป็นที่เห็นได้ชัดว่าผู้เขียน เขียนพลาดไปจึงได้ขีดฆ่าคำที่กล่าวนั้นออก เอามาเขียนไว้ในข้อต่อมา จะขีดฆ่าคำที่เขียนไว้ออกเสียดังกล่าวแล้วหรือจะไม่ขีดฆ่าออกก็ตาม หากระทำให้ข้อความ ในพินัยกรรมนั้นเปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใดไม่ดังนี้ ย่อมไม่เป็นเหตุทำให้พินัยกรรมนั้นไม่สมบูรณ์แต่อย่างใด หากจะว่าไม่สมบูรณ์ ก็ไม่สมบูรณ์เฉพาะข้อความที่ขีดฆ่าออกดังกล่าวเท่านั้น
ในพินัยกรรม์ แม้จะมีการขีดฆ่าถ้อยคำบางตอนออก โดยผู้เขียนเซ็นชื่อกำกับที่ข้างกระดาษเอง ผู้ทำพินัยกรรม์มิได้ลงลายมือชื่อกำกับด้วยนั้น ถ้าเป็นที่เห็นได้ชัดว่าผู้เขียน เขียนพลาดไปจึงได้ขีดฆ่าคำที่กล่าวนั้นออก เอามาเขียนไว้ในข้อต่อมา จะขีดฆ่าคำที่เขียนไว้ออกเสียดังกล่าวแล้วหรือจะไม่ขีดฆ่าออกก็ตาม หากระทำให้ข้อความ ในพินัยกรรมนั้นเปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใดไม่ดังนี้ ย่อมไม่เป็นเหตุทำให้พินัยกรรมนั้นไม่สมบูรณ์แต่อย่างใด หากจะว่าไม่สมบูรณ์ ก็ไม่สมบูรณ์เฉพาะข้อความที่ขีดฆ่าออกดังกล่าวเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1513/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรม: การขีดฆ่าแก้ไขและการสมบูรณ์ของพินัยกรรม
เอกสารที่มีข้อความว่าผู้ยกทรัพย์สินยอมยกให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้ใดผู้หนึ่ง ต่อเมื่อผู้ให้วายชนม์ และผู้รับได้ทำการฌาปนกิจผู้ให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วดังนี้ ย่อมถือได้ว่าเป็นพินัยกรรม
ในพินัยกรรม แม้จะมีการขีดฆ่าถ้อยคำบางตอนออก โดยผู้เขียนเซ็นชื่อกำกับที่ข้างกระดาษเอง ผู้ทำพินัยกรรมมิได้ลงลายมือชื่อกำกับด้วยนั้น ถ้าเป็นที่เห็นได้ชัดว่าผู้เขียนเขียนพลาดไปจึงได้ขีดฆ่าคำที่กล่าวนั้นออกเอามาเขียนไว้ในข้อต่อมา จะขีดฆ่าคำที่เขียนไว้ออกเสียดังกล่าวแล้วหรือจะไม่ขีดฆ่าออกก็ตามหากระทำให้ข้อความในพินัยกรรมนั้นเปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใดไม่ดังนี้ ย่อมไม่เป็นเหตุทำให้พินัยกรรมนั้นไม่สมบูรณ์แต่อย่างใด หากจะว่าไม่สมบูรณ์ ก็ไม่สมบูรณ์เฉพาะข้อความที่ขีดฆ่าออกดังกล่าวเท่านั้น
ในพินัยกรรม แม้จะมีการขีดฆ่าถ้อยคำบางตอนออก โดยผู้เขียนเซ็นชื่อกำกับที่ข้างกระดาษเอง ผู้ทำพินัยกรรมมิได้ลงลายมือชื่อกำกับด้วยนั้น ถ้าเป็นที่เห็นได้ชัดว่าผู้เขียนเขียนพลาดไปจึงได้ขีดฆ่าคำที่กล่าวนั้นออกเอามาเขียนไว้ในข้อต่อมา จะขีดฆ่าคำที่เขียนไว้ออกเสียดังกล่าวแล้วหรือจะไม่ขีดฆ่าออกก็ตามหากระทำให้ข้อความในพินัยกรรมนั้นเปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใดไม่ดังนี้ ย่อมไม่เป็นเหตุทำให้พินัยกรรมนั้นไม่สมบูรณ์แต่อย่างใด หากจะว่าไม่สมบูรณ์ ก็ไม่สมบูรณ์เฉพาะข้อความที่ขีดฆ่าออกดังกล่าวเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1302/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างพินัยกรรมปลอมและการแบ่งมรดก กรณีทรัพย์สินจากการสมรสเดิม
โจทก์ฟ้องอ้างว่ามารดาโจทก์มีสินเดิมและสินสมรสกับบิดาโจทก์ มารดาโจทก์ถึงแก่กรรม จึงตกทอดเป็นมรดกได้แก่โจทก์กับน้องและบิดา ต่อมาบิดาโจทก์ถึงแก่กรรมอีก จำเลยเป็นภรรยาน้อยบิดาโจทก์ ไม่มีสินเดิมได้นำสำเนาพินัยกรรมปลอมไปอ้างขอรับมรดกของบิดาโจทก์ โจทก์จึงขอให้ศาลทำลายพินัยกรรมปลอมนั้น ถ้าเป็นพินัยกรรมจริง บิดาโจทก์ก็ไม่มีอำนาจที่จะเอาส่วนสินเดิมและสินสมรสของมารดาโจทก์ไปทำได้ จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยเอาทรัพย์ตามบัญชีท้ายฟ้องขายทอดตลาดแบ่งกัน
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าพินัยกรรมที่โต้เถียงเป็นพินัยกรรมจริงแล้ว และข้อที่โจทก์ว่าบิดาโจทก์เอาสินบริคณห์ระหว่างมารดาโจทก์กับบิดาโจทก์มาทำพินัยกรรมยกให้จำเลยเป็นการไม่ชอบนั้น ก็ได้ความว่าบิดาโจทก์แต่งงานอยู่กินกับจำเลยมาร่วม 20 ปีเศษ เกิดบุตรด้วยกันหลายคน ส่วนมารดาโจทก์อยู่เมืองจีน มิได้มาอยู่ร่วมด้วยเลย และโจทก์สืบไม่ได้ว่าบิดาโจทก์ได้นำทรัพย์ของมารดาโจทก์มาเป็นทุน อันเป็นทางให้เกิดสมรสอย่างใด ไม่มีเหตุพอที่จะให้รับฟังได้ว่าทรัพย์สิ่งใดบ้างเป็นส่วนของมารดาโจทก์ ฉะนั้นเมื่อบิดาโจทก์ได้ทำพินัยกรรมให้จำเลย ก็ไม่มีทางจะแบ่งให้โจทก์ได้
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าพินัยกรรมที่โต้เถียงเป็นพินัยกรรมจริงแล้ว และข้อที่โจทก์ว่าบิดาโจทก์เอาสินบริคณห์ระหว่างมารดาโจทก์กับบิดาโจทก์มาทำพินัยกรรมยกให้จำเลยเป็นการไม่ชอบนั้น ก็ได้ความว่าบิดาโจทก์แต่งงานอยู่กินกับจำเลยมาร่วม 20 ปีเศษ เกิดบุตรด้วยกันหลายคน ส่วนมารดาโจทก์อยู่เมืองจีน มิได้มาอยู่ร่วมด้วยเลย และโจทก์สืบไม่ได้ว่าบิดาโจทก์ได้นำทรัพย์ของมารดาโจทก์มาเป็นทุน อันเป็นทางให้เกิดสมรสอย่างใด ไม่มีเหตุพอที่จะให้รับฟังได้ว่าทรัพย์สิ่งใดบ้างเป็นส่วนของมารดาโจทก์ ฉะนั้นเมื่อบิดาโจทก์ได้ทำพินัยกรรมให้จำเลย ก็ไม่มีทางจะแบ่งให้โจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การก่อตั้งตรัสต์ต้องมีเจตนาชัดเจนยกทรัพย์และผูกมัดการใช้ประโยชน์ให้ชัดเจน มิฉะนั้นถือเป็นทรัพย์มรดก
กรณีจะเป็นตรัสต์นั้น ต้องมีข้อความให้เห็นได้ว่า ยกกรรมสิทธิในทรัพย์ให้ แต่ผูกมัดไว้ว่า ผู้รับกรรมสิทธินั้จะต้องใช้ทรัพย์นั้นให้เป็นประโยชน์แก่บุคคลใด ๆ อันกำหนดตัวได้แน่นอนหรือเพื่อสาธารณะกุศลอันแน่นอน
การสั่งให้ทรัพย์สมบัติทุกอย่างเป็นกองกลาง เพื่อให้บุตรหลานมีสิทธิได้อยู่อาศัยและเก็บกิน ซึ่งผลประโยชน์ไปจนตลอดชีวิต เมื่อบุตรหลานคนใดไม่มีทุนรอน ก็ให้เงินทำทุนพอสมควร โดยตั้งให้ทายาทคนหนึ่งเป็นผู้ปกครองทรัพย์ กับมีหน้าที่เก็บเงิน ทำบุญวัดและบ้านนั้น เป็นคำสั่งที่ใช้คำกว้าง ๆ ไม่แน่นอนมิได้กำหนดให้ชัดว่าทำบุญอะไร วัดไหน และบ้านแห่งใด ดังนี้ จึงไม่ใช่เป็นกรณีก่อให้ตั้งตรัสต์ และต้องถือว่าข้อกำหนดในพินัยกรรมดังกล่าวแล้ว ไม่มีผล ทรัพย์มรดกจึงตกทอดไปยังทายาทโดยธรรมไป
การสั่งให้ทรัพย์สมบัติทุกอย่างเป็นกองกลาง เพื่อให้บุตรหลานมีสิทธิได้อยู่อาศัยและเก็บกิน ซึ่งผลประโยชน์ไปจนตลอดชีวิต เมื่อบุตรหลานคนใดไม่มีทุนรอน ก็ให้เงินทำทุนพอสมควร โดยตั้งให้ทายาทคนหนึ่งเป็นผู้ปกครองทรัพย์ กับมีหน้าที่เก็บเงิน ทำบุญวัดและบ้านนั้น เป็นคำสั่งที่ใช้คำกว้าง ๆ ไม่แน่นอนมิได้กำหนดให้ชัดว่าทำบุญอะไร วัดไหน และบ้านแห่งใด ดังนี้ จึงไม่ใช่เป็นกรณีก่อให้ตั้งตรัสต์ และต้องถือว่าข้อกำหนดในพินัยกรรมดังกล่าวแล้ว ไม่มีผล ทรัพย์มรดกจึงตกทอดไปยังทายาทโดยธรรมไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การก่อตั้งทรัสต์ต้องมีเจตนาชัดเจน ยกทรัพย์ให้เพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่นหรือสาธารณะ คำสั่งกว้างๆ ไม่ถือเป็นทรัสต์
กรณีจะเป็นทรัสต์นั้น ต้องมีข้อความให้เห็นได้ว่า ยกกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ให้ แต่ผูกมัดไว้ว่า ผู้รับกรรมสิทธิ์นั้นจะต้องใช้ทรัพย์นั้นให้เป็นประโยชน์แก่บุคคลใดๆอันกำหนดตัวได้แน่นอนหรือเพื่อสาธารณะกุศลอันแน่นอน
การสั่งให้ทรัพย์สมบัติทุกอย่างเป็นกองกลาง เพื่อให้บุตรหลานมีสิทธิได้อยู่อาศัยและเก็บกิน ซึ่งผลประโยชน์ต่อไปจนตลอดชีวิต เมื่อบุตรหลานคนใดไม่มีทุนรอน ก็ให้เงินทำทุนพอสมควร โดยตั้งให้ทายาทคนหนึ่งเป็นผู้ปกครองทรัพย์ กับมีหน้าที่เก็บเงิน ทำบุญวัดและบ้านนั้นเป็นคำสั่งที่ใช้คำกว้างๆ ไม่แน่นอนมิได้กำหนดให้ชัดว่าทำบุญอะไร วัดไหนและบ้านแห่งใด ดังนี้ จึงไม่ใช่เป็นกรณีก่อตั้งทรัสต์ และต้องถือว่าข้อกำหนดในพินัยกรรมดังกล่าวแล้วไม่มีผล ทรัพย์มรดกจึงตกทอดไปยังทายาทโดยธรรมต่อไป
การสั่งให้ทรัพย์สมบัติทุกอย่างเป็นกองกลาง เพื่อให้บุตรหลานมีสิทธิได้อยู่อาศัยและเก็บกิน ซึ่งผลประโยชน์ต่อไปจนตลอดชีวิต เมื่อบุตรหลานคนใดไม่มีทุนรอน ก็ให้เงินทำทุนพอสมควร โดยตั้งให้ทายาทคนหนึ่งเป็นผู้ปกครองทรัพย์ กับมีหน้าที่เก็บเงิน ทำบุญวัดและบ้านนั้นเป็นคำสั่งที่ใช้คำกว้างๆ ไม่แน่นอนมิได้กำหนดให้ชัดว่าทำบุญอะไร วัดไหนและบ้านแห่งใด ดังนี้ จึงไม่ใช่เป็นกรณีก่อตั้งทรัสต์ และต้องถือว่าข้อกำหนดในพินัยกรรมดังกล่าวแล้วไม่มีผล ทรัพย์มรดกจึงตกทอดไปยังทายาทโดยธรรมต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 800/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือที่ระบุการจัดการทรัพย์สินหลังเสียชีวิต มีผลเป็นพินัยกรรมได้ หากมีองค์ประกอบครบถ้วนตามกฎหมาย
เอกสารที่ผู้ตายทำก่อนตายหนึ่งมีข้อความกำหนดไว้ว่าถ้าตายลงแล้ว ให้ทรัพย์ตามที่+แก่ภรรยา ดังนี้เรียกได้ผู้ตายได้กำหนดการเผื่อตายเรื่องทรัพย์สินของตนไว้ให้มีบังคับเมื่อตนตายจึงเป็นเอกสารลักษณะเป็นพินัยกรรมตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1646 เมื่อได้ทำ+หนังสือลงวันเดือนปีที่ทำ ผู้+ได้ลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้า+ครบถ้วน ก็ย่อมเป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์ตามแบบที่บังคับไว้ในมาตรา 1656