คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1646

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 217 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1243/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดกตามพินัยกรรม: อำนาจฟ้องของผู้รับพินัยกรรมและหน้าที่การนำสืบข้อเท็จจริง
ป. เป็นผู้จัดการมรดกของฉ. ตามคำสั่งศาลจึงเป็นผู้ครอบครองทรัพย์มรดกไว้แทนผู้รับพินัยกรรมป. ตายขณะที่ยังไม่ได้แบ่งทรัพย์มรดกจำเลยเข้าเป็นผู้จัดการมรดกของป.ตามคำสั่งศาลโดยระบุรายการทรัพย์สินต่างๆของป. ไว้เป็นอย่างเดียวกับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมของฉ. จึงถือว่าจำเลยครอบครองทรัพย์มรดกของฉ. สืบต่อจากป. และตามคำฟ้องแสดงว่าโจทก์ฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวด้วยมิใช่ฟ้องในฐานะผู้จัดการมรดกของป. แต่ประการเดียวดังนี้เมื่อโจทก์เป็นทายาทผู้มีสิทธิตามพินัยกรรมของฉ. ด้วยผู้หนึ่งได้ทวงถามจำเลยให้แบ่งปันทรัพย์มรดกแล้วจำเลยปฏิเสธสิทธิของโจทก์จึงถูกโต้แย้งโจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลย พินัยกรรมข้อ4ระบุว่าป. ผู้เดียวมีสิทธิในทรัพย์สินของผู้ทำพินัยกรรมแต่ให้บุตรคนอื่นๆถือประโยชน์ได้บ้างและเมื่อป. ถึงแก่กรรมลงให้จัดการแบ่งทรัพย์สินดังต่อไปนี้เว้นแต่ข้อ4.10ให้จัดการทันทีและความในข้อต่อๆไปกล่าวถึงการยกทรัพย์สินให้บุคคลอื่นๆแต่ละคนไว้อย่างละเอียดรวมทั้งการยกให้แก่ป.ด้วยและความในข้อ4.10กล่าวถึงการแบ่งทรัพย์สินให้แก่บุคคลต่างๆไว้ยกเว้นป. ดังนี้หากผู้ทำพินัยกรรมประสงค์จะยกทรัพย์สินให้ป. แต่ผู้เดียวก็ไม่จำเป็นต้องระบุข้อความดังกล่าวซ้ำอีกพินัยกรรมดังกล่าวตีความได้ว่าเมื่อป. ถึงแก่กรรมลงจึงให้มีการแบ่งทรัพย์มรดกระหว่างทายาททั้งหลายระหว่างที่ป.ยังมีชีวิตอยู่ให้ทรัพย์มรดกยังคงรวมกันอยู่เท่านั้นหาใช่มีความหมายเลยไปถึงขนาดที่ว่าให้ทรัพย์มรดกทั้งหมดตกได้แก่ป.แต่ผู้เดียวไม่ โจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์ตามพินัยกรรม2รายการแต่ทรัพย์2รายการนี้ไม่ปรากฏในบัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องขอจัดการมรดกของจำเลยและจำเลยให้การโต้แย้งกรรมสิทธิ์ว่าไม่ใช่เป็นของผู้ทำพินัยกรรมดังนี้ปัญหาว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นทรัพย์มรดกหรือไม่เมื่อโจทก์อ้างว่าเป็นมรดกโจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบ ศาลพิพากษาให้จำเลยแบ่งทรัพย์มรดกอันเป็นอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ประเภทที่มิใช่ตัวเงินความรับผิดของจำเลยมีเพียงหนี้ที่จะต้องแบ่งทรัพย์มรดกที่มิใช่หนี้เงินจำเลยจึงไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแก่โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1243/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดกต่อเนื่องจากผู้จัดการมรดกคนเดิม, การตีความพินัยกรรม, และสิทธิของผู้รับพินัยกรรม
ป.เป็นผู้จัดการมรดกของ ฉ.ตามคำสั่งศาล จึงเป็นผู้ครอบครองทรัพย์มรดกไว้แทนผู้รับพินัยกรรม ป.ตายขณะที่ยังไม่ได้แบ่งทรัพย์มรดก จำเลยเข้าเป็นผู้จัดการมรดกของ ป.ตามคำสั่งศาลโดยระบุรายการทรัพย์สินต่าง ๆ ของ ป.ไว้เป็นอย่างเดียวกับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมของ ฉ. จึงถือว่าจำเลยครอบครองทรัพย์มรดกของ ฉ. สืบต่อจาก ป. และตามคำฟ้องแสดงว่าโจทก์ฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวด้วย มิใช่ฟ้องในฐานะผู้จัดการมรดกของ ป.แต่ประการเดียว ดังนี้ เมื่อโจทก์เป็นทายาทผู้มีสิทธิตามพินัยกรรมของ ฉ.ด้วยผู้หนึ่ง ได้ทวงถามจำเลยให้แบ่งปันทรัพย์มรดกแล้ว จำเลยปฏิเสธ สิทธิของโจทก์จึงถูกโต้แย้ง โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลย
พินัยกรรมข้อ 4 ระบุว่า ป.ผู้เดียวมีสิทธิในทรัพย์สินของผู้ทำพินัยกรรมแต่ให้บุตรคนอื่น ๆ ถือประโยชน์ได้บ้าง และเมื่อ ป.ถึงแก่กรรมลงให้จัดการแบ่งทรัพย์สินดังต่อไปนี้ เว้นแต่ข้อ 4.10 ให้จัดการทันที และความในข้อต่อๆ ไปกล่าวถึงการยกทรัพย์สินให้บุคคลอื่น ๆ แต่ละคนไว้อย่างละเอียดรวมทั้งการยกให้แก่ ป.ด้วย และความในข้อ 4.10 กล่าวถึงการแบ่งทรัพย์สินให้แก่บุคคลต่างๆ ไว้ยกเว้น ป. ดังนี้หากผู้ทำพินัยกรรมประสงค์จะยกทรัพย์สินให้ ป. แต่ผู้เดียวก็ไม่จำเป็นต้องระบุข้อความดังกล่าวซ้ำอีก พินัยกรรมดังกล่าวตีความได้ว่า เมื่อ ป.ถึงแก่กรรมลงจึงให้มีการแบ่งทรัพย์มรดกระหว่างทายาททั้งหลาย ระหว่างที่ ป.ยังมีชีวิตอยู่ ให้ทรัพย์มรดกยังคงรวมกันอยู่เท่านั้น หาใช่มีความหมายเลยไปถึงขนาดที่ว่าให้ทรัพย์มรดกทั้งหมดตกได้แก่ ป.แต่ผู้เดียวไม่
โจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์ตามพินัยกรรม 2 รายการ แต่ทรัพย์ 2 รายการนี้ไม่ปรากฏในบัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องขอจัดการมรดกของจำเลย และจำเลยให้การโต้แย้งกรรมสิทธิ์ว่าไม่ใช่เป็นของผู้ทำพินัยกรรม ดังนี้ ปัญหาว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นทรัพย์มรดกหรือไม่ เมื่อโจทก์อ้างว่าเป็นมรดก โจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบ.
ศาลพิพากษาให้จำเลยแบ่งทรัพย์มรดกอันเป็นอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ประเภทที่มิใช่ตัวเงิน ความรับผิดของจำเลยมีเพียงหนี้ที่จะต้องแบ่งทรัพย์มรดกที่มิใช่หนี้เงิน จำเลยจึงไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแก่โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1243/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดกตามพินัยกรรม: สิทธิทายาท, การครอบครองทรัพย์สิน, และการตีความพินัยกรรม
ป.เป็นผู้จัดการมรดกของฉ.ตามคำสั่งศาลจึงเป็นผู้ครอบครองทรัพย์มรดกไว้แทนผู้รับพินัยกรรมป.ตายขณะที่ยังไม่ได้แบ่งทรัพย์มรดกจำเลยเข้าเป็นผู้จัดการมรดกของป.ตามคำสั่งศาลโดยระบุรายการทรัพย์สินต่างๆของป.ไว้เป็นอย่างเดียวกับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมของฉ.จึงถือว่าจำเลยครอบครองทรัพย์มรดกของฉ.สืบต่อจากป.และตามคำฟ้องแสดงว่าโจทก์ฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวด้วยมิใช่ฟ้องในฐานะผู้จัดการมรดกของป.แต่ประการเดียวดังนี้เมื่อโจทก์เป็นทายาทผู้มีสิทธิตามพินัยกรรมของฉ.ด้วยผู้หนึ่งได้ทวงถามจำเลยให้แบ่งปันทรัพย์มรดกแล้วจำเลยปฏิเสธสิทธิของโจทก์จึงถูกโต้แย้งโจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลย พินัยกรรมข้อ4ระบุว่าป.ผู้เดียวมีสิทธิในทรัพย์สินของผู้ทำพินัยกรรมแต่ให้บุตรคนอื่นๆถือประโยชน์ได้บ้างและเมื่อป.ถึงแก่กรรมลงให้จัดการแบ่งทรัพย์สินดังต่อไปนี้เว้นแต่ข้อ4.10ให้จัดการทันทีและความในข้อต่อๆไปกล่าวถึงการยกทรัพย์สินให้บุคคลอื่นๆแต่ละคนไว้อย่างละเอียดรวมทั้งการยกให้แก่ป.ด้วยและความในข้อ4.10กล่าวถึงการแบ่งทรัพย์สินให้แก่บุคคลต่างๆไว้ยกเว้นป.ดังนี้หากผู้ทำพินัยกรรมประสงค์จะยกทรัพย์สินให้ป.แต่ผู้เดียวก็ไม่จำเป็นต้องระบุข้อความดังกล่าวซ้ำอีกพินัยกรรมดังกล่าวตีความได้ว่าเมื่อป.ถึงแก่กรรมลงจึงให้มีการแบ่งทรัพย์มรดกระหว่างทายาททั้งหลายระหว่างที่ป.ยังมีชีวิตอยู่ให้ทรัพย์มรดกยังคงรวมกันอยู่เท่านั้นหาใช่มีความหมายเลยไปถึงขนาดที่ว่าให้ทรัพย์มรดกทั้งหมดตกได้แก่ป.แต่ผู้เดียวไม่ โจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์ตามพินัยกรรม2รายการแต่ทรัพย์2รายการนี้ไม่ปรากฏในบัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องขอจัดการมรดกของจำเลยและจำเลยให้การโต้แย้งกรรมสิทธิ์ว่าไม่ใช่เป็นของผู้ทำพินัยกรรมดังนี้ปัญหาว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นทรัพย์มรดกหรือไม่เมื่อโจทก์อ้างว่าเป็นมรดกโจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบ. ศาลพิพากษาให้จำเลยแบ่งทรัพย์มรดกอันเป็นอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ประเภทที่มิใช่ตัวเงินความรับผิดของจำเลยมีเพียงหนี้ที่จะต้องแบ่งทรัพย์มรดกที่มิใช่หนี้เงินจำเลยจึงไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแก่โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4805/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรม: การกำหนดการเผื่อตาย, สำเนาพินัยกรรมใช้ได้เมื่อต้นฉบับหาย, ไม่ต้องลงชื่อผู้เขียน
ข้อความในเอกสารระบุไว้ว่าขอทำพินัยกรรม ถือได้ว่าเป็นการกำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สิน เอกสารดังกล่าวจึงเป็นพินัยกรรม เมื่อต้นฉบับพินัยกรรมหาย คู่ความนำสำเนาที่ถูกต้องมาสืบได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(2) ไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายบังคับให้ลงชื่อผู้เขียนพินัยกรรมลงในพินัยกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมสมบูรณ์: ศาลฎีกายกฟ้องข้อกล่าวหาปลอมแปลงพินัยกรรม โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานและเจตนาของผู้ทำพินัยกรรม
พินัยกรรมทำขึ้นในขณะเจ้ามรดกมีสติดี สามารถแสดงเจตนาทำพินัยกรรมได้ แม้จะเป็นบุคคลผู้เสมือนไร้ความสามารถก็เพียงไม่สามารถจัดการงานบางประการของตนเองได้เท่านั้น การทำพินัยกรรมเป็นกิจการเฉพาะตัวที่จะต้องแสดงเจตนาด้วยตนเองและผู้พิทักษ์ก็ได้ให้ความยินยอมแล้ว พินัยกรรมจึงสมบูรณ์ตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2643/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในเรือนพิพาทตกทายาทโดยธรรม สินเดิมของมารดา แม้บิดามีพินัยกรรมยกให้ผู้อื่นก็ไม่สมบูรณ์
คำฟ้องได้แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับส่วนข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหานั้น โจทก์บรรยายตามลำดับเหตุการณ์มิได้ขัดแย้งกันดังที่จำเลยฎีกา ไม่เป็น ฟ้องเคลือบคลุม ฟ้องเรียกเอาเรือนพิพาทที่เป็นทรัพย์ส่วนของโจทก์จาก จำเลยซึ่งบิดาจำเลยทำพินัยกรรมยกให้จำเลยโดยไม่มีสิทธิและโจทก์ก็ได้อาศัยอยู่ในเรือนพิพาทตลอดมา จะนำเอา อายุความมรดกมาใช้บังคับไม่ได้ เรือนพิพาทเป็นสินเดิมของช. เมื่อ ช. ตายโดยมิได้ ทำพินัยกรรมไว้ กรรมสิทธิ์ในเรือนพิพาทย่อมตกได้แก่ทายาทโดยธรรมของ ช. ทุกคนรวมทั้งโจทก์และจำเลยด้วยบิดาจำเลยซึ่งเป็นสามี ช. ย่อมไม่มีอำนาจทำพินัยกรรม ยกเรือนพิพาทให้จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2643/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในเรือนพิพาทที่สร้างบนที่ดินเช่า: สิทธิของทายาทสินเดิม vs. พินัยกรรมที่ไม่มีอำนาจ
คำฟ้องได้แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับส่วนข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหานั้น โจทก์บรรยายตามลำดับเหตุการณ์ มิได้ขัดแย้งกันดังที่จำเลยฎีกา ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องเรียกเอาเรือนพิพาทที่เป็นทรัพย์ส่วนของโจทก์จากจำเลยซึ่งบิดาจำเลยทำพินัยกรรมยกให้จำเลยโดยไม่มีสิทธิและโจทก์ก็ได้อาศัยอยู่ในเรือนพิพาทตลอดมา จะนำเอาอายุความมรดกมาใช้บังคับไม่ได้
เรือนพิพาทเป็นสินเดิมของช. เมื่อ ช. ตายโดยมิได้ทำพินัยกรรมไว้ กรรมสิทธิ์ในเรือนพิพาทย่อมตกได้แก่ทายาทโดยธรรมของ ช. ทุกคนรวมทั้งโจทก์และจำเลยด้วย บิดาจำเลยซึ่งเป็นสามี ช. ย่อมไม่มีอำนาจทำพินัยกรรมยกเรือนพิพาทให้จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1936/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาตามพินัยกรรม: การยกทรัพย์สินรวมถึงที่ดินที่สิ่งปลูกสร้างตั้งอยู่ แม้ไม่ได้ระบุในพินัยกรรม
ตามพินัยกรรม ข้อ 9 มีข้อความว่า 'ตึก 2 ชั้น1 หลัง 7 ห้อง ชั้นบนเป็นโรงแรมชายทะเล ชั้นล่างเป็นห้องแถวและเป็นทางขึ้นโรงแรมเสีย 1 ห้องให้ได้แก่....เท่านั้น' เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าตึกแถวสร้างเต็มเนื้อที่ดิน หากไม่ให้ที่ดินที่ตึกตั้งอยู่ตกแก่ผู้รับพินัยกรรมแล้วก็ต้องรื้อตึกทำให้ตึกไร้ค่าไป แสดงว่าเจ้ามรดกมีความประสงค์จะให้ตึกแถว 2 ชั้นนั้นตั้งอยู่ในที่ดินอย่างถาวรในลักษณะเป็นอสังหาริมทรัพย์ แม้ตามพินัยกรรม ข้อ 9 ดังกล่าวจะไม่กล่าวถึงที่ดินที่ตั้งตึก2ชั้นไว้ต้องถือว่าเจ้ามรดกมีเจตนายกที่ดินที่ตั้งของตึกให้แก่ผู้รับพินัยกรรมด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1936/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาตามพินัยกรรม: การยกทรัพย์สินรวมถึงที่ดินที่สิ่งปลูกสร้างตั้งอยู่ แม้ไม่ได้ระบุในพินัยกรรม
ตามพินัยกรรม ข้อ 9 มีข้อความว่า "ตึก 2 ชั้น 1 หลัง 7 ห้อง ชั้นบนเป็นโรงแรมชายทะเล ชั้นล่างเป็นห้องแถวและเป็นทางขึ้นโรงแรมเสีย 1 ห้องให้ได้แก่....เท่านั้น" เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า ตึกแถวสร้างเต็มเนื้อที่ดิน หากไม่ให้ที่ดินที่ตึกตั้งอยู่ตกแก่ผู้รับพินัยกรรมแล้วก็ต้องรื้อตึกทำให้ตึกไร้ค่าไป แสดงว่าเจ้ามรดกมีความประสงค์จะให้ตึกแถว 2 ชั้นนั้นตั้งอยู่ในที่ดินอย่างถาวรในลักษณะเป็นอสังหาริมทรัพย์ แม้ตามพินัยกรรม ข้อ 9 ดังกล่าวจะไม่กล่าวถึงที่ดินที่ตั้งตึก 2 ชั้นไว้ ต้องถือว่าเจ้ามรดกมีเจตนายกที่ดินที่ตั้งของตึกให้แก่ผู้รับพินัยกรรมด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2924/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารระบุแต่การยกที่ดินให้ ไม่มีการกำหนดการเผื่อตาย ไม่เป็นพินัยกรรม
หนังสือที่ผู้ตายทำขึ้นระบุว่าเป็นพินัยกรรม แต่ข้อความกลับมีเพียงว่า ผู้ตายตกลงยกที่ดินให้เท่านั้น ไม่มีข้อความกำหนดการเผื่อตายตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1646 บัญญัติบังคับไว้ จึงไม่ใช่พินัยกรรม
of 22