คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1647

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 51 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1548/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนายกทรัพย์โดยพินัยกรรม: การตีความพินัยกรรมสั่งให้ยกทรัพย์เมื่อเสียชีวิต มิใช่การยกทรัพย์โดยเสน่หา
ความในพินัยกรรมข้อหนึ่งกล่าวว่า ผู้ตายเจตนายกทรัพย์ให้ผู้มีชื่อตั้งแต่วันทำพินัยกรรมฉบับนี้ มีข้อความเริ่มต้นระบุไว้ชัดว่าขอทำหนังสือพินัยกรรมเป็นคำสั่งเผื่อตายไว้ และตอนท้ายก็ยังกล่าวยืนยันว่าผู้ตายได้ทำพินัยกรรมไว้ด้วยความเต็มใจและมีสติดี มีพยานลงชื่ออย่างพินัยกรรมทุกประการ เช่นนี้ ย่อมถือว่าเป็นพินัยกรรมที่ผู้ตายมุ่งหมายจะยกทรัพย์ให้เมื่อผู้ตายตายลง หาใช่เป็นหนังสือยกทรัพย์ให้โดยเสน่หาไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1548/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในพินัยกรรม: การยกทรัพย์เมื่อตาย มิใช่การยกทรัพย์โดยเสน่หา
ความในพินัยกรรมข้อหนึ่งกล่าวว่า ผู้ตายเจตนายกทรัพย์ให้ผู้มีชื่อตั้งแต่วันทำพินัยกรรมฉะบับนี้มีข้อความเริ่มต้นระบุไว้ชัดว่าขอทำหนังสือพินัยกรรมเป็นคำสั่งเผื่อตายไว้ และตอนท้ายก็ยังกล่าวยืนยันว่าผู้ตายได้ทำพินัยกรรมไว้ด้วยความเต็มใจและมีสติดีมีพยานลงชื่ออย่างพินัยกรรม ทุกประการเช่นนี้ย่อมถือว่าเป็นพินัยกรรมที่ผู้ตายมุ่งหมายจะยกทรัพย์ให้เมื่อผู้ตายตายลง หาใช่เป็นหนังสือยกทรัพย์ให้ดดยเสน่หาไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1215/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความพินัยกรรม: ทรัพย์สินตกเป็นของภรรยาผู้รับพินัยกรรมก่อน หากภรรยาเสียชีวิตจึงตกแก่บุตรที่ระบุไว้
พินัยกรรมมีข้อความว่า "ฯลฯ ข้อ 1. ถ้าข้าพเจ้าถึงแก่กรรมไปแล้ว บรรดาทรัพย์สินของข้าพเจ้าขอยกให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่นางขำ เรืองแสงภรรยาของข้าพเจ้าทั้งสิ้นถ้าภรรยาข้าพเจ้าชีวิตหาไม่แล้ว จึงให้ทรัพย์นั้นตกทอดแก่บุตรผู้ที่ได้ระบุนามไว้ในพินัยกรรมนี้ ให้เป็นผู้รับทรัพย์สินตามจำนวนซึ่งกำหนดไว้ดังต่อไปนี้ ฯลฯ" ดังนี้ ต้องแปลว่าผู้ทำพินัยกรรมตั้งใจยกทรัพย์มรดกทั้งหมดให้แก่นางขำภรรยาแต่ผู้เดียวโดยเด็ดขาด แต่นางขำหามีชีวิตไม่ กล่าวคือตายเสียก่อน ผู้ทำพินัยกรรมจึงยกทรัพย์มรดกให้แก่ผู้ที่ระบุนามไว้ ฉะนั้นเมื่อผู้ทำพินัยกรรมตายก่อนนางขำ ทรัพย์มรดกจึงตกเป็นกรรมสิทธิ์ของนางขำโดยสิ้นเชิง ข้อความว่าที่ว่า ถ้านางขำหาชีวิตไม่แล้ว จึงให้ตกแก่ผู้มีนามดังระบุไว้ก็ไม่มีผล และเมื่อต่อมานางขำตาย ทรัพย์นั้นก็ตกได้แก่ทายาทนางขำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 489/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในพินัยกรรม: ทรัพย์ที่ไม่ได้ระบุในรายการพินัยกรรมถือเป็นมรดกนอกพินัยกรรม
พินัยกรรมที่ระบุในตอนต้นว่ายกทรัพย์ที่มีอยู่และที่จะเกิดมีมาในภายหน้าให้ผู้รับพินัยกรรมคนเดียวนั้น แต่ในตอนต่อไปมีรายการทรัพย์ว่า ยกทรัพย์สิ่งใดให้บ้างแต่ทรัพย์พิพาทไม่มีระบุไว้ในพินัยกรรมซึ่งมีเหตุให้เห็นได้ว่า เจ้ามรดกมิได้มีเจตนาจะยกทรัพย์ที่พิพาทนี้ให้แก่ผู้รับพินัยกรรมด้วย ดังนี้ทรัพย์พิพาทจึงเป็นทรัพย์มรดกนอกพินัยกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 489/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมไม่ชัดเจน ทรัพย์สินพิพาทนอกพินัยกรรม ศาลพิจารณาเจตนาเจ้ามรดก
พินัยกรรมที่ระบุในตอนต้นว่ายกทรัพย์ที่มีอยู่และที่จะเกิดมาในภายหน้าให้ผู้รับพินัยกรรมคนเดียวนั้นแต่ในตอนต่อไปมีรายการทรัพย์ว่า ยกทรัพย์สิ่งใดให้บ้าง แต่ทรัพย์พิพาทไม่มีระบุไว้ในพินัยกรรม ซึ่งมีเหตุให้เห็นได้ว่า แจ้งมรดกมิให้มีเจตนาจะยกทรัพย์ที่พิพาทนี้ให้แก่ผู้รับพินยกรรมด้วย ดังมีทรัพย์พิพาทจึงเป็นทรัพย์มรดกนอกพินัยกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมธรรมดาเพิกถอนพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองได้ แม้ทำเป็นบันทึกต่อหน้าเจ้าพนักงานและพยาน
นายอำเภอได้บันทึกถ้อยคำเจ้ามรดกต่อหน้าผู้นั่งซึ่งลงลายมือชื่อเป็นพยาน 2 คน เจ้ามรดกให้ถ้อยคำขอถอนพินัยกรรมเดิม และแบ่งทรัพย์ให้บุตรหลานใหม่ แล้วลงลายมือชื่อต่อหน้าผู้นั่งที่ลงชื่อเป็นพยานและบันทึกนั้นลงวันเดือนปีไว้ด้วย ดังนี้ ถือว่าบันทึกนั้นเป็นพินัยกรรมตามแบบธรรมดา และมีผลลบล้างพินัยกรรมฉบับเก่าซึ่งเป็นเอกสารฝ่ายเมือง
ฟ้องอุทธรณ์จะลงชื่อศาลเดิมหรือศาลอุทธรณ์ก็มีผลเช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมธรรมดาเพิกถอนพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองได้ แม้ทำต่อหน้าเจ้าพนักงานและพยาน
นายอำเภอได้บันทึกถ้อยคำเจ้ามฤดกต่อหน้าผู้นั่งซึ่งลงลายมือชื่อเป็นพะยาน 2 คน เจ้ามฤดกให้ถ้อยคำขอถอนพินัยกรรม์เดิม และแบ่งทรัพย์ให้บุตรหลานใหม่ แล้วลงลายมือชือต่อหน้าผู้นั่งที่ลงชื่อเป็นพะยานและบันทึกนั้นลงวันเดือนปีไว้ด้วย ดังนี้ ถือว่าบันทึกนั้นเป็นพินัยกรรมตามแบบธรรมดา และมีผลลบล้างพินัยกรรม์ฉะบับเก่า ซึ่งเป็นเอกสารฝ่ายเมือง
ฟ้องอุทธรณ์จะลงชื่อศาลเดิมหรือศาลอุทธรณ์ก็มีผลเช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2113/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมยกที่ดิน: ถ้อยคำ 'คืนยกให้' เมื่อรวมกับเจตนาของผู้ทำพินัยกรรม และการระบุทรัพย์สินชัดเจน ถือเป็นพินัยกรรมได้
โจทก์เคยขายที่พิพาทให้ผู้ตายแปลงเดียว ผู้ตายได้ทำหนังสือให้โจทก์ไว้ว่าถ้าผู้ตายๆก่อนโจทก์ ที่ที่โจทก์ขายให้นี้จะคืนยกให้แก่โจทก์ แต่ถ้าผู้ตายมีชีวิตอยู่ จะถือกรรมสิทธิต่อไปโดยผู้ตายเขียนหนังสือนั้นเองทั้งฉะบับและลงชื่อเป็นผู้เขียนกับมีคนอื่นลงชื่อเป็นพะยานสามคน ดังนี้ ถือว่าหนังสือดังกล่าว มีลักษณะเป็นพินัยกรรม์ เมื่อผู้ตายตายก่อนโจทก์ ที่พิพาทย่อมตกเป็นของโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2113/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมยกทรัพย์สิน: การตีความเจตนาผู้ตายและทรัพย์สินที่ระบุชัดเจน
โจทก์เคยขายที่พิพาทให้ผู้ตายแปลงเดียว ผู้ตายได้ทำหนังสือให้โจทก์ไว้ว่าถ้าผู้ตาย ตายก่อนโจทก์ ที่ที่โจทก์ขายให้นี้จะคืนยกให้แก่โจทก์ แต่ถ้าผู้ตายมีชีวิตอยู่ จะถือกรรมสิทธิ์ต่อไปโดยผู้ตายเขียนหนังสือนั้นเองทั้งฉบับและลงชื่อเป็นผู้เขียนกับมีคนอื่นลงชื่อเป็นพยานสามคน ดังนี้ ถือว่าหนังสือดังกล่าว มีลักษณะเป็นพินัยกรรม เมื่อผู้ตายตายก่อนโจทก์ ที่ที่พิพาทย่อมตกเป็นของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงเจตนาในพินัยกรรม, การกำหนดวิธีการให้พินัยกรรมสมบูรณ์, และการรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ
ข้อความในพินัยกรรมว่า "เมื่อฉัยตายไปแล้วก็ขอให้ทรัพย์ทั้งหมดดังกล่าวแล้ว ตกเป็นกรรมสิทธิแก่เก็กหลานของฉันตามที่กล่าวมาแล้ว ผู้ใดอื่นหรือนายกระจ่างซึ่งเป็นบุตรของฉันจะมาเกี่ยวข้องด้วยไม่ได้เป็นอันขาด ฯลฯ" นี้เป็นอันถือได้ว่าเป็นการแสดงเจตนากำหนดการเผื่อตายไว้โดยพินัยกรรมแล้ว
ในพินัยกรรมที่มีข้อความต่อไปว่า "และขอให้นางช่วยซึ่งเป็นน้องของฉัน เป็นผู้แทนฉันจัดการยื่นคำร้องต่ออำเภอมอบกรรมสิทธิทรัพย์ให้" นั้น เป็นการกำหนดวิธีการที่จะให้เป็นผลสมบูรณ์ตามพินัยกรรม เนื่องจากทรัพย์ที่ยกให้บางอย่างเป็นที่ดิน ดังนี้ หาทำให้พินัยกรรมขาดลักษณะของการเป็นพินัยกรรมไม่
พยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมนั้น ไม่จำต้องระบุเขียนลงไว้ว่า ได้รับรองลายพิมพ์นิ้วมือ เมื่อได้ความว่า เจ้ามฤดกกดพิมพ์ลายนิ้วมือต่อหน้าพยาน ก็เป็นการใช้ได้ (อ้างฎีกาที่ 45 พ.ศ.2485)
of 6