คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 329

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 147 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์สถานะเจ้าพนักงานทางการแพทย์ในการชันสูตรบาดแผลและการหมิ่นประมาท
รายงานชันสูตรบาดแผลนั้นไม่มีกฎหมายบังคับว่า ต้องให้เจ้าพนักงานเป็นผู้ทำ โจทก์จึงต้องนำสืบให้ศาลเห็นว่าผู้ทำเป็นเจ้าพนักงาน ต่างกับการชันสูตรพลิกศพ ป.วิ.อ. มาตรา 150 ได้บัญญัติไว้ ซึ่งเมื่อนายแพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพด้วย ศาลย่อมรับรู้ว่านายแพทย์เป็นเจ้าพนักงาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์สถานะเจ้าพนักงานในการชันสูตรบาดแผล: โจทก์ต้องพิสูจน์เองหากไม่มีกฎหมายกำหนด
รายงานชันสูตรบาดแผลนั้นไม่มีกฎหมายบังคับว่า ต้องให้เจ้าพนักงานเป็นผู้ทำ โจทก์จึงต้องนำสืบให้ศาลเห็นว่าผู้ทำเป็นเจ้าพนักงานต่างกับการชันสูตรพลิกศพ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 ได้บัญญัติไว้ ซึ่งเมื่อนายแพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพด้วยศาลย่อมรับรู้ว่านายแพทย์เป็นเจ้าพนักงาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ในที่สาธารณะ ไม่เข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(4) และอำนาจศาลในการนับโทษ
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(4) บัญญัติถึงกรณีที่ว่าได้มีการดำเนินการอันเปิดเผยในศาลหรือในการประชุม แล้วได้มีการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรมในเรื่องนั้นๆ
จำเลยพูดกล่าวถ้อยคำอันเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ในที่ประชุมสาธารณะ จำเลยจะยก มาตรา 329(4) มาเพื่อให้พ้นผิดหาได้ไม่
การนับโทษจำเลยต่อ เป็นอำนาจศาลที่จะสั่งให้โทษจำคุกในคดีหนึ่งๆเริ่มนับแต่วันใดได้ตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ในที่สาธารณะ ไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 329(4) และอำนาจศาลในการนับโทษ
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา329 (4) บัญญัติถึงกรณีที่ว่า ได้มีการดำเนินการอันเปิดเผยในศาลหรือในการประชุมแล้วได้มีการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรมในเรื่องนั้น ๆ
จำเลยพูดกล่าวถ้อยคำอันเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ในที่ประชุมสาธารณะจำเลยจะยก มาตรา 329(4) มาเพื่อให้พ้น ผิดหาได้ไม่
การนับโทษจำเลยต่อ เป็นอำนาจศาลที่จะสั่งให้โทษจำคุกในคดีหนึ่ง ๆ เริ่มนับแต่วันใดได้ตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1688/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำในความผิดเดิม และการพิจารณาองค์ประกอบความผิดฐานบุกรุกและเสื่อมเสียอิสสระภาพ
เดิมโจทก์ผู้เดียวถูกฟ้องฐานวิวาทกับจำเลยในท้องถนนหลวงศาลปรับไปแล้วตามคดีแดงที่ 551/2497
ต่อมาโจทก์มาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในคดีนั้นฐานบุกรุกทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพและทำร้ายร่างกาย เมื่อฟ้องของโจทก์กล่าวว่าจำเลยเข้าไปฉุดโจทก์ออกมาจากห้องโดยใช้กำลังทำร้ายและฉุดคร่า ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่บริบูรณ์ตาม ม.329,254,338(3),268,63 ส่วนกรณีเดิมตามที่คดีแดงที่ 551/2497 นั้นเป็นข้อหาว่าวิวาทต่อสู้กันในถนนหลวง แต่ในกรณีบุกรุกทำร้ายและทำให้เสื่อเสียอิสสระภาพในเคหะสถานนั้นยังหาได้มีการฟ้องร้องและพิจารณาพิพากษาไม่จึงไม่เป็นฟ้องที่ต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1545/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเช่าและการครอบครอง: การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินเช่าเมื่อสัญญาหมดอายุและการไม่มีสิทธิในทรัพย์สินเนื่องจากไม่ได้เข้าครอบครอง
ข้อเท็จจริงได้ความว่าห้องแถวและโรงโจทก์เช่ามามีกำหนด 1 ปี ครบกำหนดผู้ให้เช่าได้บอกเลิกสัญญาเช่าทั้งได้ความว่าโจทก์ไม่เคยเข้าครอบครองที่พิพาทนี้เลยดังนี้โจทก์จึงไม่มีสิทธิในห้องแถวและโรง เมื่อจำเลยเป็นผู้เช่าต่อมาและเข้ารื้อห้องแถวและโรงจึงไม่เป็นการกระทำละเมิดสิทธิ์ต่อโจทก์และไม่มีความผิดฐานบุกรุกเคหสถานของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาฐานบุกรุกและทำร้ายร่างกาย จำเป็นต้องพิสูจน์ความเป็นเจ้าของเคหสถานก่อน หากพิสูจน์ไม่ได้ ศาลต้องยกฟ้อง
โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหาย แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเคหสถานที่เกิดเหตุนั้นไม่ใช่ของผู้เสียหายศาลก็ต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 933/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองห้องเช่าและการบุกรุก: เมื่อผู้เช่าแจ้งยกเลิกและยินยอมให้ผู้อื่นอยู่ต่อ ผู้ให้เช่าไม่ผิดฐานบุกรุก
ผู้เช่าห้อง เมื่อจะออกจากห้องเช่าไปอยู่ที่อื่น ได้บอกผู้เช่าและขอให้คนอื่นอาศัยอยู่ช่วงเวลา 1 เดือนนั้น ถือว่าผู้ให้เช่าเป็นผู้ครอบครองห้องเช่านั้นต่อมาส่วนคนอื่นที่มาอาศัยอยู่นั้น เป็นเพียงผู้อาศัยเมื่อครบกำหนด 1 เดือนแล้วยังไม่ออกไปผู้ให้เช่าจึงจัดให้คนเข้ามานอนในห้องเช่านั้น ดังนี้ผู้ให้เช่าและผู้ที่ผู้ให้เช่าจัดให้เข้านอนไม่มีผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 329

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 340/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างระหว่างเจ้าของเคหะสถานกับผู้ครอบครองและการฟ้องคดีอาญา
โจทก์ฟ้องบรรยายว่า จำเลยบุกรุกเคหะสถานของผู้เสียหายแล้วทำร้ายร่างกายผู้เสียหายและกระทำอนาจารแก่หญิงที่เคหะสถานนั้น
พิจารณาได้ความว่า จำเลยได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายและกระทำอนาจารแก่หญิงที่เคหะสถานนั้นจริง ปรากฏว่าเคหะสถานนั้นเป็นของมารดาผู้เสียหาย และมารดาผู้เสียหายไม่ได้ไปร้องทุกข์ในข้อหาฐานบุกรุกดังนี้ แม้ศาลจะยกฟ้องในข้อหาฐานบุกรุกโดยเหตุที่เจ้าของเคหะสถานไม่ได้ร้องทุกข์ก็ดี ศาลก็ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายและทำอนาจารได้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความต่างกับฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกทำลายทรัพย์สินในที่ดินพิพาท แม้มีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์ ไม่ถือเป็นความสุจริต
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ บุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ เมื่อศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วประทับฟ้องฉะเพาะฐานทำให้เสียทรัพย์และบุกรุก ดังนี้ ศาลจะลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ไม่ได้ เพราะเป็นการลงโทษในข้อที่ศาลไม่รับไว้พิจารณา
ในเรื่องบุกรุกนั้นการที่ยังมีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์กันอยู่นั้น มิใช่เป็นเหตุแสดงว่ากระทำโดยสุจริต
เข้าไปรื้อเรือนซึ่งมีการโต้เถียงกรรมสิทธิกันอยู่และเขาเป็นฝ่ายครอบครองเรือนอยู่นั้นถือว่าเป็นการกระทำโดยบังอาจ ย่อมมีผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 328
ในเรื่องต้องหาว่าบุกรุกที่ดินนั้น การที่ยังมีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์อยู่นั้นมิใช่เป็นเหตุแสดงความสุจริตของจำเลย
of 15