พบผลลัพธ์ทั้งหมด 21 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1989/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำด่าที่มีความหมายดูหมิ่นชัดเจน ไม่จำเป็นต้องสืบอธิบายความหมาย การแก้ไขคำในฟ้องเล็กน้อยไม่ทำให้คดีเสีย
คำกล่าวดูหมิ่นว่า "กูไม่เอามึงให้เสียน้ำ อีหน้าหัวควยพรรค์นี้"เป็นถ้อยคำที่มีความหมายดูหมิ่นผู้อื่นอยู่ในตัวแล้ว เพราะเป็นถ้อยคำที่สามัญชนเข้าใจได้ชัดอยู่ในตัวเองไม่ใช่ถ้อยคำพิเศษ ส่วนถ้อยคำพิเศษนั้นเป็นถ้อยคำที่สามัญชนฟังแล้วไม่เข้าใจ หรือฟังแล้วแปลเป็น 2 แง่ได้โจทก์ไม่ต้องนำสืบอธิบาย
ฟ้องว่า จำเลยดูหมิ่นผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงว่า "กูไม่เอามึงให้เสียน้ำ อีหน้าหัวควยพรรค์นี้ฯลฯ" แต่ชั้นพิจารณา ผู้เสียหายให้การว่าจำเลยดูหมิ่นผู้เสียหายว่า "กูไม่เอามึงให้เสียน้ำ ไอ้หน้าควยพรรค์นี้อีเฮงซวย" เป็นการแตกต่างกันแต่เพียงพลความไม่ใช่แตกต่างกันในข้อสารสำคัญ
ฟ้องว่า จำเลยดูหมิ่นผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงว่า "กูไม่เอามึงให้เสียน้ำ อีหน้าหัวควยพรรค์นี้ฯลฯ" แต่ชั้นพิจารณา ผู้เสียหายให้การว่าจำเลยดูหมิ่นผู้เสียหายว่า "กูไม่เอามึงให้เสียน้ำ ไอ้หน้าควยพรรค์นี้อีเฮงซวย" เป็นการแตกต่างกันแต่เพียงพลความไม่ใช่แตกต่างกันในข้อสารสำคัญ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1989/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำด่าที่มีความหมายดูหมิ่นชัดเจน ไม่จำเป็นต้องสืบความหมายเพิ่มเติม แม้ข้อเท็จจริงบางส่วนต่างจากฟ้อง ก็ไม่ถึงขนาดทำให้คดีเสีย
คำกล่าวดูหมิ่นว่า "กูไม่เอามึงให้เสียน้ำ อีหน้าหัวควยพรรค์นี้" เป็นถ้อยคำที่มีความหมายดูหมิ่นผู้อื่นอยู่ในตัวแล้ว เพราะเป็นถ้อยคำที่สามัญชนเข้าใจได้ชัดอยู่ในตัวเอง ไม่ใช่ถ้อยคำพิเศษ ส่วนถ้อยคำพิเศษนั้น เป็นถ้อยคำที่สามัญชนฟังแล้วไม่เข้าใจ หรือฟังแล้วแปลเป็น 2 แง่ได้ โจทก์ไม่ต้องนำสืบอธิบาย
ฟ้องว่า จำเลยดูหมิ่นผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงว่า "กูไม่เอามึงให้เสียน้ำ อีหน้าหัวควยพรรค์นี้ฯลฯ" แต่ชั้นพิจารณา ผู้เสียหายให้การว่าจำเลยดูหมิ่นผู้เสียหายว่า "กูไม่เอากับมึงให้เสียน้ำ ไอ้หน้าควยพรรค์นี้ อีเฮงซวย" เป็นการแตกต่างกันแต่เพียงพอความ ไม่ใช่แตกต่างกันในข้อสารสำคัญ
ฟ้องว่า จำเลยดูหมิ่นผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงว่า "กูไม่เอามึงให้เสียน้ำ อีหน้าหัวควยพรรค์นี้ฯลฯ" แต่ชั้นพิจารณา ผู้เสียหายให้การว่าจำเลยดูหมิ่นผู้เสียหายว่า "กูไม่เอากับมึงให้เสียน้ำ ไอ้หน้าควยพรรค์นี้ อีเฮงซวย" เป็นการแตกต่างกันแต่เพียงพอความ ไม่ใช่แตกต่างกันในข้อสารสำคัญ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปล้นทรัพย์: เจ้าของทรัพย์ที่แท้จริง และสถานที่เกิดเหตุ ไม่กระทบต่อการลงโทษหากจำเลยไม่โต้แย้ง
ฟ้องเรื่องปล้นระบุชื่อเจ้าทรัพย์ แต่ทางพิจารณาได้ความว่า ผู้นั้นเป็นเพียงผู้รับจ้างหาบหามและอยู่ในความปกครองของผู้นั้นจำเลยก็ไม่หลงข้อต่อสู้ดังนี้ลงโทษ
ฟ้องได้ระบุตำบลที่เกิดเหตุตามคำพะยานโจทก์ว่าเหตุเกิดที่เขาฤาษี เขาฤาษีจะอยู่ในตำบลนั้นหรือไม่ไม่ได้ความ และจำเลยไม่ได้คัดค้านอย่างใดดังนี้ต้องถือว่าอยู่ในตำบลตามฟ้อง
ฟ้องได้ระบุตำบลที่เกิดเหตุตามคำพะยานโจทก์ว่าเหตุเกิดที่เขาฤาษี เขาฤาษีจะอยู่ในตำบลนั้นหรือไม่ไม่ได้ความ และจำเลยไม่ได้คัดค้านอย่างใดดังนี้ต้องถือว่าอยู่ในตำบลตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปล้นทรัพย์: เจ้าของทรัพย์ที่แท้จริงไม่ใช่ผู้ถูกปล้นโดยตรง ไม่เป็นเหตุให้ยกฟ้องหากจำเลยไม่โต้แย้งสถานที่เกิดเหตุ
ฟ้องเรื่องปล้นระบุชื่อเจ้าทรัพย์ แต่ทางพิจารณาได้ความว่าผู้นั้นเป็นเพียงผู้รับจ้างหาบหามและอยู่ในความปกครองของผู้นั้นจำเลยก็ไม่หลงข้อต่อสู้ ดังนี้ลงโทษได้
ฟ้องระบุตำบลที่เกิดเหตุตามคำพยานโจทก์ว่า เหตุเกิดที่เขาฤาษีเขาฤาษีจะอยู่ในตำบลนั้นหรือไม่ ไม่ได้ความ และจำเลยไม่ได้คัดค้านอย่างใด ดังนี้ ต้องถือว่าอยู่ในตำบลตามฟ้อง
ฟ้องระบุตำบลที่เกิดเหตุตามคำพยานโจทก์ว่า เหตุเกิดที่เขาฤาษีเขาฤาษีจะอยู่ในตำบลนั้นหรือไม่ ไม่ได้ความ และจำเลยไม่ได้คัดค้านอย่างใด ดังนี้ ต้องถือว่าอยู่ในตำบลตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 52/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างของทรัพย์สินระหว่างผู้เสียหายกับผู้ร่วมเรือนมีผลต่อการฟ้องลักทรัพย์
ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์ของบุคคลหนึ่ง พิจารณาได้ความว่าจำเลยลักของอีกคนหนึ่ง แม้จะเป็นผู้อยู่ร่วมเรือนกันก็ต้องถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 52/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องลักทรัพย์ต้องตรงกับผู้เสียหาย หากลักทรัพย์ผู้อื่น แม้ร่วมเรือนกัน ก็ถือเป็นข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์ของบุคคลหนึ่ง พิจารณาได้ความว่าจำเลยลักของอีกคนหนึ่ง แม้จะเป็นผู้อยู่ร่วมเรือนกันก็ต้องถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกทรัพย์: วันที่เริ่มนับความผิดฐานยักยอก
ฟ้องว่า 'จำเลยรับมอบหมายสร้อยของ ส. ไปในวันที่ 3 ต.ค.86 เวลากลางวันแล้วบังอาจมีเจตนาทุจริตเบียดบังเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย'ดังนี้ เป็นฟ้องสมบูรณ์ตามกฎหมายในความผิดฐานยักยอกแล้ว
ความผิดฐานยักยอกนั้นเกิดขึ้นแต่วันที่รับมอบหมายจนถึงวันที่ไม่ยอมส่งคืน ดังนี้ เมื่อฟ้องว่าจำเลยยักยอกแต่วันที่ 3 ต.ค.86 ซึ่งเป็นวันได้รับมอบหมาย แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยไม่ยอมคืนทรัพย์ให้ในเดือน พ.ย.2486 จึงไม่ถือว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับฟ้อง
ความผิดฐานยักยอกนั้นเกิดขึ้นแต่วันที่รับมอบหมายจนถึงวันที่ไม่ยอมส่งคืน ดังนี้ เมื่อฟ้องว่าจำเลยยักยอกแต่วันที่ 3 ต.ค.86 ซึ่งเป็นวันได้รับมอบหมาย แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยไม่ยอมคืนทรัพย์ให้ในเดือน พ.ย.2486 จึงไม่ถือว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 252/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขเวลาเกิดเหตุในฟ้องคดี: เหตุอันควรและผลกระทบต่อการต่อสู้คดี
โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้เวลาเกิดเหตุ เวลากลางวัน เป็นเวลากลางคืน ในวันที่จำเลยให้การนั้น โดยกล่าวว่าเวลาในฟ้องเดิมพิมพ์ผิดความจริงไปถือว่าเป็นเหตุอันควรให้แก้ได้ตาม มาตรา 163
โจทก์ขอแก้เวลาเกิดเหตุโดยที่จำเลยทราบเวลาเกิดเหตุดีอยู่แล้วแสดงว่าจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้อย่างใด
การขอแก้เวลาเกิดเหตุถือว่าเป็นการแก้รายละเอียดในฟ้อง
โจทก์ขอแก้เวลาเกิดเหตุโดยที่จำเลยทราบเวลาเกิดเหตุดีอยู่แล้วแสดงว่าจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้อย่างใด
การขอแก้เวลาเกิดเหตุถือว่าเป็นการแก้รายละเอียดในฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 852/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อเท็จจริงในชั้นพิจารณาต่างจากฟ้องไม่มากถือว่าไม่ต่าง
พฤติการณ์ที่ถือว่าข้อเท็จจริงในทางพิจารณาไม่ต่างกับฟ้อง ฟ้องว่าใช้มีดทำร้ายเขาบาดเจ็บทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยใช้ไม้ทำร้ายเขาบาดเจ็บ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18/2486
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 852/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อแตกต่างระหว่างข้อกล่าวหาในฟ้องกับข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ ไม่ทำให้คดีขาดอายุความ หากยังคงประเด็นหลักเดิม
พรึติการน์ที่ถือว่าข้อเท็ดจิงไนทางพิจารนาไม่ต่างกับฟ้อง
ฟ้องว่าไช้มีดทำร้ายเขาบาดเจ็บทางพิจารนาได้ความว่าจำเลยไช้ไม้ทำร้ายเขาบาดเจ็บไม่ถือว่าข้อเท็ดจิงต่างกับฟ้อง.
ฟ้องว่าไช้มีดทำร้ายเขาบาดเจ็บทางพิจารนาได้ความว่าจำเลยไช้ไม้ทำร้ายเขาบาดเจ็บไม่ถือว่าข้อเท็ดจิงต่างกับฟ้อง.