พบผลลัพธ์ทั้งหมด 12 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามลักทรัพย์เป็นเหตุร้ายตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานร้าย ศาลมีอำนาจกักกันได้
ความผิดฐานพยายามลักทรัพย์เป็นความผิดฐานประทุาร้ายต่อทรัพย์ อันเป็นเหตุร้ายตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.กักกัน ฯลฯ พ.ศ.2479 ม.4 เมื่อจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาแล้ว 2 ครั้งอันมิใช่ความผิดฐานประมาทหรือละหุโทษและมาทำผิดอาญาอันเป็นเหตุร้ายขึ้นอีก ศาลอาจถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายตาม ม.8.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามลักทรัพย์เป็นเหตุร้ายตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย ศาลมีอำนาจสั่งกักกันได้
ความผิดฐานพยายามลักทรัพย์เป็นความผิดฐานประทุษร้ายต่อทรัพย์อันเป็นเหตุร้ายตามที่ระบุไว้ใน พระราชบัญญัติกักกัน ฯลฯพ.ศ.2479 มาตรา 4 เมื่อจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาแล้ว 2 ครั้งอันมิใช่ความผิดฐานประมาทหรือลหุโทษและมาทำผิดอาญาอันเป็นเหตุร้ายขึ้นอีก ศาลอาจถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายตาม มาตรา8
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1135/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ โดยพิจารณาจากจำนวนครั้งที่ศาลพิพากษาให้จำคุก ไม่ใช่จำนวนครั้งที่พ้นโทษ
มาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายพ.ศ.2479 ความว่า"ถ้าผู้ใดเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาให้จำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ฯลฯ" นั้นหมายความถึงว่าผู้นั้นได้รับโทษโดยศาลพิพากษาให้จำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง อีกนัยหนึ่งคือครั้งตามคำพิพากษา หามีข้อความใดในบทบัญญัตินี้แสดงให้เห็นว่าผู้นั้นได้หลุดพ้นโทษไปแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง เช่นกฎหมายลักษณะอาญาเรื่องผู้กระทำผิดไม่เข็ดหลาบนั้นไม่
จำเลยเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาให้จำคุกมาแล้ว 3 คดีคือคดีแดงที่ 1221/2491 ฐานชิงทรัพย์ คดีแดงที่136/2492 ฐานลักทรัพย์คดีแดงที่ 769/2492 ฐานหลบหนีที่คุมขัง และปรากฏตามสำนวนคดีแดงที่ 136/2492 ว่าจำเลยรับโทษตามคำพิพากษาคดีแดงที่ 1221/2491 อยู่แล้วหลบหนีไปกระทำผิดในคดีแดงที่ 136/2492 นั้น ทั้ง 3 คดีนี้จำเลยจึงได้รับโทษจำคุกต่อเนื่องกันไป เพิ่งพ้นโทษไปคราวเดียว เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2494 เช่นนี้ เมื่อจำเลยมากระทำผิดในคดี(ลักทรัพย์)ขึ้นอีก ศาลก็เพิ่มโทษกักกันจำเลยได้ (อ้างฎีกาที่1307/2480 และที่ 1514/2482)
จำเลยเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาให้จำคุกมาแล้ว 3 คดีคือคดีแดงที่ 1221/2491 ฐานชิงทรัพย์ คดีแดงที่136/2492 ฐานลักทรัพย์คดีแดงที่ 769/2492 ฐานหลบหนีที่คุมขัง และปรากฏตามสำนวนคดีแดงที่ 136/2492 ว่าจำเลยรับโทษตามคำพิพากษาคดีแดงที่ 1221/2491 อยู่แล้วหลบหนีไปกระทำผิดในคดีแดงที่ 136/2492 นั้น ทั้ง 3 คดีนี้จำเลยจึงได้รับโทษจำคุกต่อเนื่องกันไป เพิ่งพ้นโทษไปคราวเดียว เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2494 เช่นนี้ เมื่อจำเลยมากระทำผิดในคดี(ลักทรัพย์)ขึ้นอีก ศาลก็เพิ่มโทษกักกันจำเลยได้ (อ้างฎีกาที่1307/2480 และที่ 1514/2482)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1135/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ โดยพิจารณาจากจำนวนครั้งที่ศาลพิพากษาให้จำคุก ไม่ใช่จำนวนครั้งที่พ้นโทษ
ม.8 แห่งพระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.2479 ความว่า "ถ้าผู้ใดเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาให้จำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ฯลฯ " นั้น หมายความถึงว่าผู้นั้นได้รับโทษโดยศาลพิพากษาให้จำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้งอีกนัยหนึ่งคือครั้งตามคำพิพากษา หามีข้อความใดในบทบัญญัตินี้แสดงให้เห็นว่า ผู้นั้นได้หลุดพ้นโทษไปแล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้งเช่นกฎหมายลักษณะอาญาเรื่องผู้กระทำผิดไม่เข็หลาบนั้นไม่
จำเลยเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาให้จำคุกมาแล้ว 3 คดีคือคดีแดงที่ 1221/2491 ฐานชิงทรัพย์ คดีแดงที่ 136/2492 ฐานลักทรัพย์ คดีแดงที่ 769/2492 ฐานหลบหนีที่คุมขัง และปรากฎตามสำนวนคดีแดงที่ 136/2492 ว่าจำเลยรับโทษตามคำพิพากษาคดีแดงที่ 1221/2491 อยู่แล้วหลบหนีไปกระทำผิดในคดีแดงที่ 136/2492 นั้นทั้ง 3 คดีนี้จำเลยจึงได้รับโทษจำคุกต่อเนื่องกันไป เพิ่งพ้นโทษไปคราวเดีว เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2494 เช่นนี้ เมื่อจำเลยมากระทำผิดในคดี ( ลักทรัพย์ ) ขึ้นอีก ศาลก็เพิ่มโทษกักกันจำเลยได้
อ้างฎีกาที่ 1307/2480 และที่ 1514/2482
จำเลยเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาให้จำคุกมาแล้ว 3 คดีคือคดีแดงที่ 1221/2491 ฐานชิงทรัพย์ คดีแดงที่ 136/2492 ฐานลักทรัพย์ คดีแดงที่ 769/2492 ฐานหลบหนีที่คุมขัง และปรากฎตามสำนวนคดีแดงที่ 136/2492 ว่าจำเลยรับโทษตามคำพิพากษาคดีแดงที่ 1221/2491 อยู่แล้วหลบหนีไปกระทำผิดในคดีแดงที่ 136/2492 นั้นทั้ง 3 คดีนี้จำเลยจึงได้รับโทษจำคุกต่อเนื่องกันไป เพิ่งพ้นโทษไปคราวเดีว เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2494 เช่นนี้ เมื่อจำเลยมากระทำผิดในคดี ( ลักทรัพย์ ) ขึ้นอีก ศาลก็เพิ่มโทษกักกันจำเลยได้
อ้างฎีกาที่ 1307/2480 และที่ 1514/2482
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 26/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบ หากไม่คัดค้านข้อผิดพลาดของศาลอุทธรณ์
ศาลล่างวางโทษให้กักกันจำเลยตาม พระราชบัญญัติกักกันจำเลยฎีกา แต่ไม่ได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าคลาดเคลื่อนข้อใดอย่างไรย่อมเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยมาตรา 193 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 26/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดีคาคัดค้านคำพิพากษาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กฎหมายกักกันผู้ร้าย
สาลล่างวางโทสไห้กักกันจำเลยตามพ.ร.บ.กักกัน จำเลยดีกา แต่ไม่ได้ดีกาคัดค้านคำพิพากสาสาลอุธรน์ว่าคลาดเคลื่อนข้อไดหย่างไรย่อมเปนการดีกาที่ไม่ชอบด้วย ม.193 ป.ว.อ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 831/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความพยายามกระทำความผิดเป็นองค์ประกอบของความผิดสำเร็จ และเป็นเหตุร้ายตาม พ.ร.บ.กักกัน
พยายามกระทำความผิดฐานใดย่อมอยู่ในความผิดฐานนั้น.ความผิดฐานพยายามลักทรัพย์ถือว่าเป็นเหตุร้ายตามพระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 831/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามลักทรัพย์เป็นเหตุร้ายตาม พ.ร.บ.กักกันผู้ร้ายหรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเข้าข่าย
พยายามกระทำความผิดฐานใดย่อมอยู่ในความผิดฐานนั้นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์ถือว่าเป็นเหตุร้ายตามพระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 274/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ดุลพินิจศาลในการกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พิจารณาจากประวัติโทษและระยะเวลา
จำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาแล้ว 3 ครั้งอันมิใช่ความผิดฐานลหุโทษหรือฐานประมาทนั้น จะถือว่าจำเลยเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายอันจะลงโทษกักกันแก่จำเลยหรือไม่นั้น อยู่ในดุลยพินิจของศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 274/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย: ดุลพินิจศาลในการลงโทษกักกัน
จำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาแล้ว 3 ครั้งอันมิใช่ความผิดฐานลหุโทษหรือฐานประมาทนั้น จะถือว่าจำเลยเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายอันจะลงโทษกักกันแก่จำเลยหรือไม่นั้นอยู่ในดุลพินิจของศาล