คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.2479

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 36 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1641/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ โดยพิจารณาจากพฤติกรรมและความถี่ในการกระทำผิด
จำเลยเคยต้องโทษมาแล้ว 2 ครั้ง ๆ แรกฐานลักทรัพย์ถูกจำคุก 1 ปี ครั้งที่ 2 ฐานรับของโจร ถูกจำคุก 8 เดือนและครั้งหลังฐานลักมะพร้าว 5 ลูก จำเลยกระทำผิดเป็นระยะ ๆ ในระหว่าง 7 ปี แม้ครั้งหลังจะเป็นทรัพย์เพียงเล็กน้อยก็ดี ย่อมแสดงให้เห็นว่า จำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายตามความประสงค์ของ พ.ร.บ.กักกัน ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1641/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้กระทำผิดซ้ำ แสดงถึงสันดานเป็นผู้ร้ายตาม พ.ร.บ.กักกัน
จำเลยเคยต้องโทษมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกฐานลักทรัพย์ถูกจำคุก 1 ปี ครั้งที่ 2 ฐานรับของโจร ถูกจำคุก 8 เดือน และครั้งหลังฐานลักมะพร้าว 5 ลูก จำเลยกระทำผิดเป็นระยะๆ ในระหว่าง 7 ปี แม้ครั้งหลังจะเป็นทรัพย์เพียงเล็กน้อยก็ดี ย่อมแสดงให้เห็นว่า จำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายตามความประสงค์ของพระราชบัญญัติกักกัน ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์และฎีกาเพื่อขอลดโทษกักกัน ศาลฎีกายกรับฟังเนื่องจากเป็นดุลพินิจของศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี และกำหนดโทษกักกันไม่เกิน 5 ปีจำเลยจะฎีกาขอให้ลดหรืองดโทษกักกันอันเป็นเรื่องเกี่ยวแก่ดุลพินิจของศาล ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงนั้นไม่ได้ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาขอลดโทษกักกันหลังศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น การพิจารณาเป็นดุลยพินิจของศาล
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี และกำหนดโทษกักกันไม่เกิน 5 ปี จำเลยจะฎีกาขอให้ลดหรืองดโทษกักกันอันเป็นเรื่องเกี่ยวแก่ดุลยพินิจของศาล ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงนั้นไม่ได้ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ ระยะเวลาระหว่างความผิดมีผลต่อการพิจารณา
จำเลยรับโทษจำคุกฐานลักทรัพย์ 45 วัน ต่อมา 6 ปีเศษต้องโทษฐานทำร้ายต่อทรัพย์และทำร้ายร่างราย 1 เดือน ต่อมา 13 ปีเศษจึงมาต้องโทษครั้งหลังฐานทำร้ายร่างกาย ดังนี้ย่อมถือได้ว่าการกระทำผิดของจำเลยเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ และมีระยะเวลาห่างไกลกันยังไม่ควรลงโทษกักกันจำเลย
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 4 เดือนและให้ส่งไปกักกัน 3 ปีศาลอุทธรณ์ให้ยกโทษกักกัน ดังนี้ โจทก์ฎีกาในเรื่องขอให้ลงโทษกักกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาโทษกักกันสำหรับผู้กระทำผิดซ้ำที่มีระยะเวลาระหว่างความผิดนาน และความผิดไม่ร้ายแรง
จำเลยรับโทษจำคุกฐานลักทรัพย์ 45 วัน ต่อมา 6 ปีเศษต้องโทษฐานทำร้ายต่อทรัพย์และทำร้ายร่างกาย 1 เดือน ต่อมา 13 ปีเศษจึงมาต้องโทษครั้งหลังฐานทำร้ายร่างกาย ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าการกระทำผิดของจำเลยเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆและมีระยะเวลาห่างไกลกัน ยังไม่ควรลงโทษกักกันจำเลย
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 4 เดือนและให้ส่งไปกักกัน 3 ปี ศาลอุทธรณ์ให้ยกโทษกักกัน ดังนี้ โจทก์ฎีกาในเรื่องขอให้ลงโทษกักกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 399/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาโทษกักกันสำหรับผู้กระทำผิดซ้ำ โดยคำนึงถึงลักษณะความผิดและเหตุผลเฉพาะคดี
เมื่อความผิดครั้งก่อนที่จำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาแล้วทั้งสองครั้งไม่ใช่หตุร้าย แม้ครั้งหลังนี้ จำเลยได้ทำผิดฐานลักทรัพย์ โดยล้วงกระเป๋าซึ่งเป็นเหตุร้ายก็ตาม ศาลอาจพิเคราะห์ความผิดครั้งก่อนและเหตุผลเฉพาะคดีหลังนี้มาวินิจฉัยว่า จำเลยยังไม่มีสันดานเป็นผู้ร้าย และไม่ลงโทษกักกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 399/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาโทษกักกันสำหรับผู้กระทำผิดซ้ำ โดยคำนึงถึงลักษณะความผิดและความหนักเบาของแต่ละกรณี
เมื่อความผิดครั้งก่อนที่จำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาแล้วทั้งสองครั้งไม่ใช่เหตุร้าย แม้ครั้งหลังนี้ จำเลยได้ทำผิดฐานลักทรัพย์ โดยล้วงกระเป๋าซึ่งเป็นเหตุร้ายก็ตาม ศาลอาจพิเคราะห์ความผิดครั้งก่อนๆ และเหตุผลเฉพาะคดีหลังนี้มาวินิจฉัยว่า จำเลยยังไม่มีสันดานเป็นผู้ร้าย และไม่ลงโทษกักกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 474/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พฤติการณ์แสดงสันดานผู้ร้ายและการลงโทษกักกัน
พฤติการณ์ที่ถือว่าจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้าย
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 2 ปี 4 เดือนและลงโทษกักกันอีก 3 ปีศาลอุทธรณ์แก้ให้ยกโทษกักกันเสียดังนี้ โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงในเรื่องกักกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจศาลในการส่งตัวผู้ต้องโทษไปกักกัน พิจารณาจากระยะห่างของโทษและความร้ายแรงของโทษปัจจุบัน
ในคดีที่โจทก์ขอให้ส่งตัวจำเลยไปกักกัน ตาม พ.ร.บ.กักกัน ฯลฯ มาตรา 8-9 นั้น เมื่อปรากฏต้องโทษครั้งที่หนึ่งจำเลยต้องจำคุก 3 เดือน พ้นโทษ พ.ศ.2466 โทษครั้งที่ 2 ต้องจำคุก 8 ปี พ้นโทษ พ.ศ.2475 โทษครั้งที่ 3 ต้องจำคุก 8 เดือน พ้นโทษ พ.ศ.2479 ดังนี้เป็นการต้องโทษระยะห่าง ๆ กัน และเมื่อต้องโทษครั้งที่ฟ้องนี้เพียง 6 เดือนเท่านั้น ศาลย่อมใช้ดุลยพินิจไม่ส่งตัวจำเลยไปกักกันได้
ศาลชั้นต้นให้จำคุก 6 เดือน+ไปกักกัน 3 ปี ศาลอุทธรณ์ให้+โทษกักกัน โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงในเรื่องกักกันได้
of 4