คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 120

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 34 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3382/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินโดยสำคัญผิดในคุณสมบัติของทรัพย์อันเป็นสาระสำคัญ สัญญาเป็นโมฆียะ
ที่ดินของจำเลยถูกจำกัดสิทธิห้ามปลูกสร้างอาคารเพราะถูกสายไฟฟ้าแรงสูงผ่าน ตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยพ.ศ. 2511 จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินดังกล่าวให้โจทก์โดยมิได้แจ้งเรื่องนี้ให้โจทก์ทราบ ทำให้โจทก์เข้าใจผิดในคุณสมบัติของที่ดินซึ่งเป็นสารสำคัญเพราะโจทก์ซื้อที่พิพาทเพื่อปลูกสร้างโรงงาน การแสดงเจตนาของโจทก์เป็นโมฆียะ เมื่อโจทก์บอกล้างแล้วสัญญาจะซื้อขายจึงเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรก จำเลยต้องคืนเงินที่รับไว้ให้โจทก์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปกปิดความจริง เป็นกลฉ้อฉล จึงบอกล้างและฟ้องเรียกราคาที่ดินที่ชำระแล้วคืนจากจำเลย การที่จำเลยนิ่งเสียไม่ไขข้อความจริงในคุณสมบัติของทรัพย์ อันโจทก์ไม่รู้นั้นย่อมทำให้โจทก์สำคัญผิดในคุณสมบัติของทรัพย์ไปในตัวที่ศาลวินิจฉัยว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทโดยเข้าใจผิดในคุณสมบัติของที่ดินจึงไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น (อ้างฎีกาที่ 1034/2518)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3382/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินที่มีข้อจำกัดสิทธิ การปกปิดข้อเท็จจริงทำให้การแสดงเจตนาเป็นโมฆียะ
ที่ดินของจำเลยถูกจำกัดสิทธิห้ามปลูกสร้างอาคารเพราะถูกสายไฟฟ้าแรงสูงผ่าน ตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินดังกล่าวให้โจทก์โดยมิได้แจ้งเรื่องนี้ ให้โจทก์ทราบ ทำให้โจทก์เข้าใจผิดในคุณสมบัติของที่ดินซึ่งเป็นสารสำคัญเพราะโจทก์ซื้อที่พิพาทเพื่อปลูกสร้างโรงงาน การแสดงเจตนาของโจทก์เป็นโมฆียะ เมื่อโจทก์บอกล้างแล้วสัญญาจะซื้อขายจึงเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรก จำเลยต้องคืนเงินที่รับไว้ให้โจทก์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปกปิดความจริง เป็นกลฉ้อฉล จึงบอกล้างและฟ้องเรียกราคาที่ดินที่ชำระแล้วคืนจากจำเลย การที่จำเลยนิ่งเสียไม่ไขข้อความจริงในคุณสมบัติของทรัพย์ อันโจทก์ไม่รู้นั้นย่อมทำให้โจทก์สำคัญผิดในคุณสมบัติของทรัพย์ไปในตัวที่ศาลวินิจฉัยว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทโดยเข้าใจผิดในคุณสมบัติของที่ดินจึงไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น (อ้างฎีกาที่ 1034/2518)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2857/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเซ้งสัญญาเช่าและการมีอำนาจฟ้องขับไล่ เมื่อผู้เช่าเดิมยังไม่ยินยอมเป็นหนังสือต่อผู้ให้เช่า
ตามสัญญาเช่าระบุว่า ท. ผู้เช่ามีสิทธิโอนสิทธิการเช่าให้ผู้อื่นได้เมื่อได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่าการที่ ท. ได้โอนสิทธิการเช่าให้โจทก์จึงไม่เป็นการฝ่าฝืนสัญญา เพียงแต่ยังไม่ผูกพันผู้ให้เช่าจนกว่าจะได้รับความยินยอมเป็นหนังสือ โจทก์จึงชอบที่จะโอนสิทธิการเช่าให้จำเลยต่อไปได้โดยนัยเดียวกันสัญญาเซ้งตึกแถวพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยไม่เป็นโมฆียะโจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1229/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สำคัญผิดในคุณสมบัติทรัพย์ สัญญาจะซื้อขายโมฆียะ เลิกสัญญาคืนเงิน
จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่โจทก์ มีข้อความในสัญญาว่าที่ดินไม่มีภาระติดพันใดๆ เลย ซึ่งจำเลยรู้ดีว่าที่ดินนี้ติดจำนองไว้แก่ผู้อื่นและปกปิดความจริงข้อนี้ และมีพฤติการณ์ที่แสดงว่าหากโจทก์รู้ความจริงข้อนี้ก็คงจะไม่ทำสัญญากับจำเลยเป็นแน่ ย่อมถือว่าโจทก์สำคัญผิดในคุณสมบัติของทรัพย์อันเป็นวัตถุแห่งสัญญาจะซื้อขายซึ่งตามปกติย่อมนับว่าเป็นสาระสำคัญสัญญาดังกล่าวจึงเป็นโมฆียะ
เมื่อโจทก์ทราบความจริงแล้วได้ไปร้องทุกข์ เจ้าพนักงานตำรวจไกล่เกลี่ยจนตกลงกันว่าจำเลยยินยอมจะคืนเงิน 800,000 บาท ให้แก่โจทก์ ดังนี้ ฟังได้ว่าโจทก์จำเลยได้ตกลงเลิกสัญญากันแล้ว โจทก์และจำเลยย่อมต้องคืนสู่ฐานะเดิม จำเลยจึงต้องคืนเงิน 800,000 บาท นั้นให้แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยนับแต่วันที่ได้รับเงินไว้ แต่เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยเสียดอกเบี้ยนับแต่วันบอกล้างโมฆียะกรรม โจทก์มิได้อุทธรณ์ข้อนี้ จึงเป็นอันยุติไปตามนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อผิดพลาดในการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินร่วม ศาลแก้ไขให้ถูกต้องตามสัญญา
อ. ทำสัญญาจะขายที่ดินแก่โจทก์บางส่วน แล้วโอนโฉนดทั้งหมดขายแก่จำเลย จำเลยให้โจทก์มีชื่อถือกรรมสิทธิ์รวมในโฉนดด้วยโดยระบุว่า 140 ส่วนใน 762 ส่วน โจทก์นำสืบได้ว่าโจทก์สำคัญผิดที่ถูกเป็น 306 ส่วน ศาลบังคับจำเลยให้แบ่งตามส่วนที่ถูกต้องตามที่โจทก์สัญญากับจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1034/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายฝากโดยสำคัญผิดในสาระสำคัญของทรัพย์สิน ทำให้สัญญาเป็นโมฆียะและเรียกเงินคืนได้
ที่ดินของจำเลยถูกจำกัดสิทธิการปลูกสร้างเพราะถูกสายไฟฟ้าแรงสูงผ่านตาม พระราชบัญญัติการไฟฟ้ายันฮี พ.ศ.2500 จำเลยขายฝากแก่โจทก์ในราคาสูงโดยโจทก์ไม่ทราบ เป็นความสำคัญผิดในสารสำคัญของคุณสมบัติของทรัพย์การแสดงเจตนาเป็นโมฆียะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 120 โจทก์บอกล้างและเรียกเงินค่าซื้อฝากคืนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2426/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาส่งมอบวัตถุตามสัญญาจ้างเหมา คุณภาพวัตถุเป็นสาระสำคัญ ผู้รับจ้างต้องรับผิดแม้จะอ้างความเข้าใจผิด
จำเลยทำสัญญากับโจทก์รับจ้างเหมาขุดขนลูกรังและทรายกองรายทางตามคุณภาพและลักษณะซึ่งกำหนดไว้ในประกาศเรียกประกวดราคาและจำเลยต้องส่งตัวอย่างไปให้โจทก์วินิจฉัยก่อน แต่ตัวอย่างที่จำเลยส่งไปโจทก์วินิจฉัยแล้วแจ้งว่าใช้ไม่ได้ ให้นำทรายหยาบแม่น้ำผสมด้วยแม้ตัวอย่างนั้นจำเลยจะนำไปจากแหล่งที่โจทก์แนะนำในประกาศประกวดราคา ประกาศนั้นก็ระบุไว้แล้วว่าการระบุแหล่งวัตถุเป็นการแนะนำ ผู้รับจ้างจะถือเป็นเหตุเพื่อปัดความรับผิดใด ๆ ของตนไม่ได้ การสืบแสวงหาวัตถุตามสัญญา เป็นหน้าที่ของผู้รับจ้างที่จะต้องจัดหาตามคุณภาพและลักษณะที่กำหนด เมื่อจำเลยประกวดราคาได้และได้ทำสัญญากับโจทก์ดังนี้แล้ว จำเลยจึงจะอ้างเอาความเข้าใจหรือความเชื่อในลักษณะและคุณสมบัติของวัตถุที่โจทก์แนะนำและข้อแนะนำให้เอาทรายหยาบแม่น้ำผสมว่า ไม่ต้องรับผิดตามสัญญาหาได้ไม่
จำเลยมีหน้าที่ต้องส่งลูกรังและทรายให้มีคุณภาพและลักษณะตามสัญญา แต่จำเลยเอาลูกรังและทรายที่มีลักษณะไม่ถูกต้องส่งไปให้โจทก์วิจัย แม้จำเลยจะได้รับแจ้งผลการวิจัยว่าใช้ไม่ได้ก่อนสิ้นกำหนดสัญญาเพียง 5 วัน เมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานวิเคราะห์ของโจทก์ได้กลั่นแกล้งให้ล่าช้าหรือกระทำการโดยไม่สุจริต จำเลยจะอ้างเป็นเหตุสุดวิสัยว่าทำการขนให้ไม่ทันหาได้ไม่
ข้อสัญญาที่กำหนดให้จำเลยส่งตัวอย่างวัตถุไปให้โจทก์วิจัยก่อนเป็นแต่ข้อหนึ่งในสัญญาที่จำเลยต้องปฏิบัติก่อนส่งลูกรังและทรายให้โจทก์ตามสัญญา มิใช่เงื่อนไขแห่งสัญญา
ข้อสัญญาที่ว่าถ้าปรากฏว่าผู้รับจ้างส่งวัตถุไม่ถูกต้องตามคุณภาพและลักษณะตามสัญญา ผู้รับจ้างจะต้องนำวัตถุที่ถูกต้องมาเปลี่ยนให้จนเป็นการถูกต้อง โดยผู้รับจ้างจะคิดยืดเวลาเอากับผู้ว่าจ้างไม่ได้นั้นเป็นข้อสัญญาที่กำหนดไว้เพื่อให้ผู้ว่าจ้างได้รับวัตถุตรงตามสัญญาไม่เป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2426/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญารับเหมา: ผู้รับเหมาต้องส่งมอบงานตามคุณภาพที่กำหนด แม้จะได้รับคำแนะนำแหล่งวัตถุจากผู้ว่าจ้าง
จำเลยทำสัญญากับโจทก์รับจ้างเหมาขุดขนลูกรังและทรายกองรายทางตามคุณภาพ และลักษณะซึ่งกำหนดไว้ในประกาศเรียกประกวดราคา และจำเลยต้องส่งตัวอย่างไปให้โจทก์วินิจฉัยก่อน แต่ตัวอย่างที่จำเลยส่งไป โจทก์วินิจฉัยแล้วแจ้งว่าใช้ไม่ได้ ให้นำทรายหยาบแม่น้ำผสมด้วย แม้ตัวอย่างนั้นจำเลยจะนำไปจากแหล่งที่โจทก์แนะนำในประกาศประกวดราคา ประกาศนั้นก็ระบุไว้แล้วว่าการระบุแหล่งวัตถุเป็นการแนะนำ ผู้รับจ้างจะถือเป็นเหตุเพื่อปัดความรับผิดใด ๆ ของตนไม่ได้ การสืบแสวงหาวัตถุตามสัญญา เป็นหน้าที่ของผู้รับจ้างที่จะต้องจัดหาตามคุณภาพและลักษณะที่กำหนด เมื่อจำเลยประกวดราคาได้และได้ทำสัญญากับโจทก์ดังนี้แล้ว จำเลยจึงจะอ้างเอาความเข้าใจหรือความเชื่อในลักษณะและ คุณสมบัติของวัตถุที่โจทก์แนะนำและข้อแนะนำให้เอาทรายหยาบแม่น้ำผสมว่าไม่ต้องรับผิดตามสัญญาหาได้ไม่
จำเลยมีหน้าที่ต้องส่งลูกรังและทราบให้มีคุณภาพและลักษณะตามสัญญา แต่จำเลยเอาลูกรังและทราบที่มีลักษณะไม่ถูกต้องส่งไปให้โจทก์วิจัย แม้จำเลยจะได้รับแจ้งผลการวิจัยว่าใช้ไม่ได้ก่อนสิ้นกำหนดสัญญาเพียง 5 วัน เมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานวิเคราะห์ของโจทก์ได้กลั่นแกล้งให้ล่าช้าหรือกระทำการโดยไม่สุจริต จำเลยจะอ้างเป็นเหตุสุดวิสัยว่าทำการขนให้ไม่ทันหาได้ไม่
ข้อสัญญาที่กำหนดให้จำเลยส่งตัวอย่างวัตถุไปให้โจทก์วิจัยก่อน เป็นแต่ข้อหนึ่งในสัญญาที่จำเลยต้องปฏิบัติก่อนส่งลูกรังและทรายให้โจทก์ตามสัญญา มิใช่เงื่อนไขแห่งสัญญา
ข้อสัญญาที่ว่าถ้าปรากฏว่าผู้รับจ้างส่งวัตถุไม่ถูกต้องตามคุณภาพและลักษณะตามสัญญาผู้รับจ้างจะต้องนำวัตถุที่ถูกต้องมาปลี่ยนให้จนเป็นการถูกต้อง โดยผู้รับจ้างจะคิดยึดเวลาเอากับผู้ว่าจ้างไม่ได้นั้น เป็นข้อสัญญาที่กำหนดไว้เพื่อให้ผู้ว่าจ้างได้รับวัตถุตรงตามสัญญา ไม่เป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 40/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสำคัญผิดในฐานะทางกฎหมายไม่ทำให้สัญญาประนีประนอมยอมความเป็นโมฆะ
โจทก์ฟ้องบังคับจำเลยให้ปฏิบัติตามหนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งจำเลยทั้งสามได้ทำไว้กับโจทก์ จำเลยต่อสู้มีประเด็นเพียงว่าเหตุที่จำเลยทั้งสามยอมตกลงทำหนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความให้โจทก์ไว้นั้น เป็นเพราะจำเลยทั้งสามหลงสำคัญผิดในคุณสมบัติของโจทก์ โดยจำเลยเข้าใจว่าโจทก์เป็นภริยาชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดกและโจทก์เป็นผู้มีสิทธิในกองมรดกนี้ด้วย เมื่อจำเลยทราบความจริงว่าโจทก์ไม่ใช่ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดกจำเลยจึงได้บอกล้างหนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความนี้ต่อโจทก์หนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์นำมาฟ้องจึงตกเป็นโมฆะไม่มีผลบังคับ ดังนี้ ถึงแม้จะเป็นความจริงตามที่จำเลยอ้าง ก็เป็นเพียงความสำคัญผิดถึงฐานะทางกฎหมายของโจทก์ หาใช่ความสำคัญผิดในคุณสมบัติของบุคคล ซึ่งตามปกติย่อมนับว่าเป็นสารสำคัญที่ทำให้สัญญาประนีประนอมในเรื่องทรัพย์มรดกเสียไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 120, 138 ไม่ รูปคดีจึงไม่จำต้องฟังพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายในประเด็นดังกล่าวนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 40/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสำคัญผิดในฐานะทางกฎหมายของคู่กรณี ไม่ทำให้สัญญาประนีประนอมยอมความเป็นโมฆะ
โจทก์ฟ้องบังคับจำเลยให้ปฏิบัติตามหนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งจำเลยทั้งสามได้ทำไว้กับโจทก์ จำเลยต่อสู้มีประเด็นเพียงว่า เหตุที่จำเลยทั้งสามยอมตกลงทำหนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความให้โจทก์ไว้นั้น เป็นเพราะจำเลยทั้งสามหลงสำคัญผิดในคุณสมบัติของโจทก์โดยจำเลยเข้าใจว่าโจทก์เป็นภริยาชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดกและโจทก์เป็นผู้มีสิทธิในกองมรดกนี้ด้วย เมื่อจำเลยทราบความจริง ว่าโจทก์ไม่ใช่ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดกจำเลยจึงได้บอกล้างหนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความนี้ต่อโจทก์ หนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์นำมาฟ้องจึงตกเป็นโมฆะไม่มีผลบังคับ ดังนี้ ถึงแม้จะเป็นความจริงตามที่จำเลยอ้าง ก็เป็นเพียงความสำคัญผิดถึงฐานะทางกฎหมายของโจทก์ หาใช่ความสำคัญผิดในคุณสมบัติของบุคคล ซึ่งตามปกติย่อมนับว่าเป็นสารสำคัญที่ทำให้สัญญาประนีประนอมในเรื่องทรัพย์มรดกเสียไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 120,138 ไม่ รูปคดีจึงไม่จำต้องฟังพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายในประเด็นดังกล่าวนี้
of 4