พบผลลัพธ์ทั้งหมด 34 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2783/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิการเช่าต้องได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่า มิฉะนั้นสิทธิการเช่าไม่ตกไปยังผู้รับโอน
บันทึกข้อตกลงที่ผู้เช่าโอนสิทธิการเช่าให้โจทก์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่า ไม่มีผลให้สิทธิการเช่าของผู้เช่าโอนไปยังโจทก์
สัญญาเช่าตึกแถวมีข้อความว่า ผู้ให้เช่ายินยอมให้เช่าช่วงได้แต่ต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่าก่อนถ้าผู้เช่าให้โจทก์เช่าช่วงโดยผู้ให้เช่าไม่ได้ให้ความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร สัญญาเช่าระหว่างผู้เช่ากับโจทก์ย่อมไม่มีผลผูกพันผู้ให้เช่า ดังนั้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิและไม่มีอำนาจให้จำเลยเช่าช่วงต่อและไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกไปจากตึกแถวที่เช่า
สัญญาเช่าตึกแถวมีข้อความว่า ผู้ให้เช่ายินยอมให้เช่าช่วงได้แต่ต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่าก่อนถ้าผู้เช่าให้โจทก์เช่าช่วงโดยผู้ให้เช่าไม่ได้ให้ความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร สัญญาเช่าระหว่างผู้เช่ากับโจทก์ย่อมไม่มีผลผูกพันผู้ให้เช่า ดังนั้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิและไม่มีอำนาจให้จำเลยเช่าช่วงต่อและไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกไปจากตึกแถวที่เช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2783/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิเช่าต้องได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่า มิฉะนั้นสัญญาเช่าที่ทำกับผู้อื่นไม่มีผลผูกพัน
บันทึกข้อตกลงที่ผู้เช่าโอนสิทธิการเช่าให้โจทก์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่า ไม่มีผลให้สิทธิการเช่าของผู้เช่าโอนไปยังโจทก์
สัญญาเช่าตึกแถวมีข้อความว่า ผู้ให้เช่ายินยอมให้เช่าช่วงได้แต่ต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่า ก่อนถ้าผู้เช่าให้โจทก์เช่าช่วงโดยผู้ให้เช่าไม่ได้ให้ความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร สัญญาเช่าระหว่างผู้เช่ากับโจทก์ย่อมไม่มีผลผูกพันผู้ให้เช่า ดังนั้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิและไม่มีอำนาจให้จำเลยเช่าช่วงต่อและไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกไปจากตึกแถวที่เช่า
สัญญาเช่าตึกแถวมีข้อความว่า ผู้ให้เช่ายินยอมให้เช่าช่วงได้แต่ต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่า ก่อนถ้าผู้เช่าให้โจทก์เช่าช่วงโดยผู้ให้เช่าไม่ได้ให้ความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร สัญญาเช่าระหว่างผู้เช่ากับโจทก์ย่อมไม่มีผลผูกพันผู้ให้เช่า ดังนั้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิและไม่มีอำนาจให้จำเลยเช่าช่วงต่อและไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกไปจากตึกแถวที่เช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทของผู้รับจ้างในการตรวจสอบฐานะคู่สัญญา สัญญาไม่ตกเป็นโมฆียะ
ในการทำสัญญารับเหมาก่อสร้างเป็นหน้าที่ของผู้รับจ้างโดยตรงที่จะต้องระวังรักษาผลประโยชน์ของตนเอง ฉะนั้น จึงมีหน้าที่พิจารณาด้วยตนเองว่า ผู้ว่าจ้างเป็นบุคคลมีหลักฐานสมควรที่ผู้รับจ้างเข้าทำสัญญาด้วยหรือไม่ การที่ผู้รับจ้างไม่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวย่อมเป็นความประมาทและเลี่ยงภัยของตนเอง ฉะนั้น แม้ผู้อื่นจะแจ้งแก่ผู้รับจ้างโดยไม่เป็นความจริงว่า ผู้ว่าจ้างเป็นคนร่ำรวยมีฐานะดีกับยังถือไม่ได้ว่าผู้อื่นทำกลฉ้อฉลหลอกลวงโจทก์ สัญญารับเหมาก่อสร้างจึงไม่ตกเป็นโมฆียะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้รับเหมาในการตรวจสอบฐานะผู้ว่าจ้าง สัญญาไม่ตกเป็นโมฆียะจากกลฉ้อฉล
ในการทำสัญญารับเหมาก่อสร้างเป็นหน้าที่ของผู้รับจ้างโดยตรงที่จะต้องระวังรักษาผลประโยชน์ของตนเอง ฉะนั้น จึงมีหน้าที่ต้องพิจารณาด้วยตนเองว่า ผู้ว่าจ้างเป็นบุคคลมีหลักฐานสมควรที่ผู้รับจ้างเข้าทำสัญญาด้วยหรือไม่ การที่ผู้รับจ้างไม่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวย่อมเป็นความประมาทและเสี่ยงภัยของตนเอง ฉะนั้น แม้ผู้อื่นจะแจ้งแก่ผู้รับจ้างโดยไม่เป็นความจริงว่า ผู้ว่าจ้างเป็นคนร่ำรวยมีฐานะดีก็ยังถือไม่ได้ว่าผู้อื่นทำกลฉ้อฉลหลอกลวงโจทก์ สัญญารับเหมาก่อสร้างจึงไม่ตกเป็นโมฆียะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทของผู้รับเหมาในการตรวจสอบฐานะผู้ว่าจ้าง ไม่ถือเป็นกลฉ้อฉล สัญญาไม่ตกเป็นโมฆียะ
ในการทำสัญญารับเหมาก่อสร้างเป็นหน้าที่ของผู้รับจ้างโดยตรงที่จะต้องระวังรักษาผลประโยชน์ของตนเอง. ฉะนั้น จึงมีหน้าที่ต้องพิจารณาด้วยตนเองว่า ผู้ว่าจ้างเป็นบุคคลมีหลักฐานสมควรที่ผู้รับจ้างเข้าทำสัญญาด้วยหรือไม่. การที่ผู้รับจ้างไม่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวย่อมเป็นความประมาทและเสี่ยงภัยของตนเอง. ฉะนั้น แม้ผู้อื่นจะแจ้งแก่ผู้รับจ้างโดยไม่เป็นความจริงว่า. ผู้ว่าจ้างเป็นคนร่ำรวยมีฐานะดีก็ยังถือไม่ได้ว่าผู้อื่นทำกลฉ้อฉลหลอกลวงโจทก์. สัญญารับเหมาก่อสร้างจึงไม่ตกเป็นโมฆียะ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเป็นสมาชิกสมาคมฌาปนกิจต้องสมัครด้วยตนเองและมีคุณสมบัติครบถ้วน หากไม่เป็นไปตามข้อบังคับ สมาคมไม่ต้องจ่ายเงินสงเคราะห์
ข้อบังคับของสมาคมฌาปนกิจมีว่า ผู้สมัครเป็นสมาชิกของสมาคมต้องมีสุขภาพสมบูรณ์โดยมีใบรับรองแพทย์ และต้องไปให้กรรมการของสมาคมพิจารณาด้วยตนเอง และผู้สมัครต้องยื่นหนังสือแสดงความจำนงด้วยตนเอง ปรากฏว่าบุคคลผู้ไปยื่นใบสมัครและรับการตรวจโรคเป็นคนอื่น แต่ใช้ชื่อของอีกคนหนึ่งสมัครดังนี้ จึงถือไม่ได้ว่าผู้ที่มีชื่อตามใบสมัครเป็นสมาชิกของสมาคมฌาปนกิจนั้นโดยชอบ สมาคมไม่มีความผูกพันที่จะจ่ายเงินให้แก่ผู้ที่ถูกระบุชื่อให้เป็นผู้รับเงินฌาปนกิจ
แม้ทนายจำเลยไม่ได้แก้อุทธรณ์ แต่ได้ยื่นคำร้องและได้แถลงต่อศาลอันเป็นการปฏิบัติในการว่าคดี ศาลคิดค่าทนายให้ได้
แม้ทนายจำเลยไม่ได้แก้อุทธรณ์ แต่ได้ยื่นคำร้องและได้แถลงต่อศาลอันเป็นการปฏิบัติในการว่าคดี ศาลคิดค่าทนายให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมัครสมาชิกสมาคมฌาปนกิจต้องดำเนินการด้วยตนเอง หากมีเจตนาทุจริต สัญญาเป็นโมฆะ สมาคมไม่ต้องจ่ายเงิน
ข้อบังคับของสมาคมฌาปนกิจมีว่า ผู้สมัครเป็นสมาชิกของสมาคมต้องมีสุขภาพสมบูรณ์โดยมีใบรับรองแพทย์ และต้องไปให้กรรมการของสมาคมพิจารณาด้วยตนเอง และผู้สมัครต้องยื่นหนังสือแสดงความจำนงด้วยตนเอง ปรากฏว่า บุคคลผู้ไปยื่นใบสมัครและรับการตรวจโรคเป็นคนอื่นแต่ใช้ชื่อของอีกคนหนึ่งสมัคร ดังนี้จึงถือไม่ได้ว่า ผู้ที่มีชื่อตามใบสมัครเป็นสมาชิกของสมาคมฌาปนกิจนั้นโดยชอบ สมาคมไม่มีความผูกพันที่จะจ่ายเงินให้แก่ผู้ที่ถูกระบุชื่อให้เป็นผู้รับเงินฌาปนกิจ
แม้ทนายจำเลยไม่ได้แก้อุทธรณ์ แต่ได้ยื่นคำร้องและได้แถลงต่อศาลอันเป็นการปฏิบัติในการว่าคดี ศาลคิดค่าทนายให้ได้.
แม้ทนายจำเลยไม่ได้แก้อุทธรณ์ แต่ได้ยื่นคำร้องและได้แถลงต่อศาลอันเป็นการปฏิบัติในการว่าคดี ศาลคิดค่าทนายให้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 937/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์: ความสำคัญผิด กลฉ้อฉล และการบอกเลิกสัญญา
โจทก์ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่จำเลยผู้เช่า จำเลยให้การว่า ที่ทำสัญญาเช่าเพราะสำคัญผิดและต้องกลฉ้อฉลโดยโจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน แต่ความจริงเป็นที่รกร้างว่างเปล่าหรือที่ชายตลิ่งอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เช่นนี้ถือว่าคำให้การของจำเลยไม่ชัดเจนพอที่จะทำให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องกลฉ้อฉล
ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์กัน 5 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนการเช่าไว้ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่เมื่อพ้นกำหนด 5 ปีได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวเสียก่อนตามมาตรา 566
ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์กัน 5 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนการเช่าไว้ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่เมื่อพ้นกำหนด 5 ปีได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวเสียก่อนตามมาตรา 566
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 937/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ดิน: ข้อสำคัญผิด, กลฉ้อฉล, และการบอกกล่าวเลิกสัญญา
โจทก์ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่จำเลยผู้เช่า จำเลยให้การว่าที่ทำสัญญาเช่าเพราะสำคัญผิดและต้องกลฉ้อฉล โดยโจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน แต่ความจริงเป็นที่รกร้างว่างเปล่าหรือที่ชายตลิ่งอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เช่นนี้ถือว่าคำให้การของจำเลยไม่ชัดเจนพอที่จะทำให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องกลฉ้อฉล
ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์กัน 5 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนการเช่าไว้ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่เมื่อพ้นกำหนด 5 ปีได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวเสียก่อนตามมาตรา 566
ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์กัน 5 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนการเช่าไว้ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่เมื่อพ้นกำหนด 5 ปีได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวเสียก่อนตามมาตรา 566
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 23/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินกับคนต่างด้าวไม่เป็นโมฆะ หากยังสามารถขออนุญาตได้ การรบกวนสิทธิครอบครองถือเป็นการละเมิด
สัญญาจะซื้อขายที่ดินระหว่างโจทย์ซึ่งเป็นคนต่างด้าวกับจำเลยซึ่งเป็นคนไทย หาเป็นโมฆะหรือโมฆียะตามกฎหมายไม่ เพราะกฎหมายหาได้ห้ามขาดไม่ให้คนต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเสียทีเดียวไม่ คนต่างด้าวยังอาจขออนุญาตถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้อยู่