คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1463

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 43 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1693/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์เรือนหอจากค่าเรือนหอสู่สินเดิม
จำเลยที่ 1 ให้เงินแก่โจทก์ซึ่งเป็นมารดาจำเลยที่ 2 ที่จะแต่งงาน เป็นค่าเรือนหอ โจทก์ยินยอมให้เอาเรือนพิพาทเป็นเรือนหอ เมื่อแต่งงานแล้วจำเลยทั้ง 2 ก็อยู่ในเรือนพิพาท ๆ เป็นสินเดิมของจำเลยที่ 1 เมื่อจำเลยต้องการจะย้ายที่อยู่ ได้จัดการย้ายเรือนพิพาทไป เช่นนี้ โจทก์จะมาเรียกให้จำเลยคืนเรือนไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1693/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์เรือนหอจากค่าเรือนหอ: เรือนหอเปลี่ยนมือจากค่าเรือนหอไม่ใช่การซื้อขาย
จำเลยที่ 1 ให้เงินแก่โจทก์ซึ่งเป็นมารดาจำเลยที่ 2 ที่จะแต่งงาน เป็นค่าเรือนหอ โจทก์ยินยอมให้เอาเรือนพิพาทเป็นเรือนหอ เมื่อแต่งงานแล้วจำเลยทั้ง 2 ก็อยู่ในเรือนพิพาท เรือนพิพาทเป็นสินเดิมของจำเลยที่ 1เมื่อจำเลยต้องการจะย้ายที่อยู่ ได้จัดการย้ายเรือนพิพาทไป เช่นนี้ โจทก์จะมาเรียกให้จำเลยคืนเรือนไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1611/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์เรือนหอในกฎหมายลักษณะผัวเมีย การชำระราคาสำคัญกว่ารูปแบบสัญญา
โจทก์แต่งงานกับบุตรจำเลย ๆ ได้ขายเรือนของจำเลยให้แก่โจทก์เป็นเรือนหอซึ่งในขณะนั้นความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยายังใช้กฎหมายลักษณะผัวเมียอยู่ ซึ่งตามกฎหมายนั้นเรือนหอเป็นสินเดิมของฝ่ายที่ออกทรัพย์ปัญหาว่ากรรมสิทธิ์ในเรือนหอเป็นของใคร จึงอยู่ที่ว่าได้ชำระราคากันแล้วหรือยัง หาใช่เรื่องการปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนตามลักษณะซื้อขายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1611/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์เรือนหอในความสัมพันธ์ผัวเมีย: การชำระราคาเป็นสำคัญ
โจทก์แต่งงานกับบุตรจำเลย จำเลยได้ขายเรือนของจำเลยให้แก่โจทก์เป็นเรือนหอ ซึ่งในขณะนั้นความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยายังใช้กฎหมายลักษณะผัวเมียอยู่ ซึ่งตามกฎหมายนั้นเรือนหอเป็นสินเดิมของฝ่ายที่ออกทรัพย์ ปัญหาว่ากรรมสิทธิ์ในเรือนหอเป็นของใคร จึงอยู่ที่ว่าได้ชำระราคากันแล้วหรือยัง หาใช่เรื่องการปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนตามลักษณะซื้อขายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 459/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนทรัพย์สินก่อนและหลังสมรส สินเดิม สินส่วนตัว สินสมรส และผลกระทบต่อการแบ่งมรดก
โจทก์เป็นบุตรผู้ตาย จำเลยเป็นภรรยาผู้ตาย โจทก์,จำเลยแถลงรับกันว่าทรัพย์หมาย ก. 1 เดิมเป็นของผู้ตายมาแต่ก่อนที่ได้ทำการสมรสกับจำเลย เมื่อผู้ตายกับจำเลยสมรสกันแล้ว ผู้ตายได้โอนทรัพย์แปลงนั้นให้แก่บิดาจำเลย ต่อมาบิดาจำเลยจึงได้โอนให้จำเลยในระหว่างสมรสนั้น ฟ้องโจทก์ก็กล่าวความท้าวถึงข้อเท็จจริงเช่นว่านี้ แล้วอ้างว่าทรัพย์หมาย ก. 1 จึงกลับคืนเป็นสินเดิมอีกวาระหนึ่ง หรือมิฉะนั้นก็เป็นทรัพย์ที่ทดแทนสินเดิมที่ขาดไป ฉะนั้นที่โจทก์แถลงรับในรายงานพิจารณาว่าเป็นสินสมรส จึงมิได้หมายความว่าสินสมรสนั้นจะไม่ต้องเอามาใช้สินเดิมที่ขาดไปของผู้ตาย.
จำเลยได้แถลงต่อศาลว่าจะขอสืบว่าที่ดินตามหมาย ก.1 เป็นสินสอด โดยผู้ตายสัญญาว่าจะโอนให้บิดาจำเลยก่อนแต่งงาน แล้วต่อมาจึงได้โอนให้ไป ซึ่งข้อเท็จจริงที่จำเลยจะขอสืบนี้ ถ้าเป็นความจริง อาจถือได้ว่า ผู้ตายจำหน่ายสินเดิมของตนเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียว โดยไม่ได้ยินยอมด้วย กรณีอาจต้องตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 1514 ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพะยานจึงไม่ชอบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 459/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดก: ทรัพย์สินเดิมที่โอนระหว่างสมรส อาจต้องนำมาใช้ทดแทนสินเดิมที่ขาดไปได้
โจทก์เป็นบุตรผู้ตาย จำเลยเป็นภรรยาผู้ตาย โจทก์จำเลยแถลงรับกันว่าทรัพย์หมาย ก.1 เดิมเป็นของผู้ตายมาแต่ก่อนที่ได้ทำการสมรสกับจำเลย เมื่อผู้ตายกับจำเลยสมรสกันแล้ว ผู้ตายได้โอนทรัพย์แปลงนั้นให้แก่บิดาจำเลย ต่อมาบิดาจำเลยจึงได้โอนให้จำเลยในระหว่างสมรสนั้นฟ้องโจทก์ก็กล่าวความท้าวถึงข้อเท็จจริงเช่นว่านี้ แล้วอ้างว่าทรัพย์หมาย ก.1 จึงกลับคืนเป็นสินเดิมอีกวาระหนึ่ง หรือมิฉะนั้นก็เป็นทรัพย์ที่ทดแทนสินเดิมที่ขาดไป ฉะนั้นที่โจทก์แถลงรับในรายงานพิจารณาว่าเป็นสินสมรสจึงมิได้หมายความว่าสินสมรสนั้นจะไม่ต้องเอามาใช้สินเดิมที่ขาดไปของผู้ตาย
จำเลยได้แถลงต่อศาลว่าจะขอสืบว่าที่ดินตามหมาย ก.1 เป็นสินสอด โดยผู้ตายสัญญาว่าจะโอนให้บิดาจำเลยก่อนแต่งงานแล้วต่อมาจึงได้โอนให้ไป ซึ่งข้อเท็จจริงที่จำเลยจะขอสืบนี้ ถ้าเป็นความจริงอาจถือได้ว่า ผู้ตายจำหน่ายสินเดิมของตนเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียว โดยไม่ได้ยินยอมด้วย กรณีอาจต้องตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1514ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจึงไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัพย์มรดกก่อนสมรสเป็นสินเดิม แม้มีการแบ่งปันระหว่างสมรส
ทรัพย์ซึ่งเป็นมฤดกตกทอดแก่สามีก่อนสมรสกับภรรยาและทายาทตกลงแบ่งปันกันในระหว่างสมรส ทรัพย์นั้นเป็นสินเดิมของสามี หาใช่เป็นสินสมรสไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สินเดิมก่อนสมรส: ทรัพย์มรดกที่แบ่งร่วมกันระหว่างสมรส ไม่ถือเป็นสินสมรส
ทรัพย์ซึ่งเป็นมรดกตกทอดแก่สามีก่อนสมรสกับภรรยาและทายาทตกลงแบ่งปันกันในระหว่างสมรส ทรัพย์นั้นเป็นสินเดิมของสามี หาใช่เป็นสินสมรสไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 555/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สินเดิม สินสมรส การคำนวณราคา และการใช้เงินสมรสซื้อทรัพย์
เหมืองแร่ซึ่งภริยาอ้างว่าเป็นสินเดิมนั้น. ถ้ามิได้สืบว่า เมื่อได้กับสามีมีราคาเท่าไรแล้ว. ถือว่าคำนวณราคาไม่ได้. เหมืองแร่ลงทุนไว้ก่อนแต่งงาน 3,000 บาท. แต่งงานแล้วรายได้ 800 บาท. ภริยามิได้สืบว่าเมื่อแต่งงานแล้วมีราคาเท่าไร. ถือว่าเป็นสินเดิม 800 บาท. มีทรัพย์เป็นสินเดิมอันอาจใช้ประกอบอาชีพตามฐานะได้แล้ว. แม้มิได้นำมามอบให้สามี. ก็หักสมรสใช้เดิมซึ่งสูญไปนั้นได้. สามีเอาเงินสมรสไปซื้อทรัพย์ให้บุตรที่ติดมาโดยความยินยอมของภริยา. ทรัพย์นั้นเป็นสิทธิแก่บุตร. ผู้จัดการร้านค้าของบิดาเอาเงินของร้านไปปลูกสร้างในที่ดินของตัว. ถือว่าสิ่งปลูกสร้างเป็นของผู้จัดการแทนนั้น.แต่ถ้าเอาไปซื้อทั้งที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง. ก็ถือว่าทรัพย์ที่ซื้อเป็นของร้าน. ฟ้องเรียกสินเดิมสินสมรสจากจำเลยซึ่งเป็นผู้รับมรดกผู้ตาย.ได้ความว่าจำเลยเป็นหนี้ผู้ตาย. ศาลไม่ตัดสินให้จำเลยใช้เงินที่เป็นหนี้นั้น.(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 10/2485).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 555/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สินเดิม สินสมรส และการคำนวณราคาทรัพย์ การใช้เงินสมรสซื้อทรัพย์ และสิทธิในทรัพย์ที่ซื้อด้วยเงินสมรส
เหมืองแร่ซึ่งภริยาอ้างว่าเป็นสินเดิมนั้น ถ้ามิได้สืบว่า เมื่อได้กับสามีมีราคาเท่าไรแล้ว ถือว่าคำนวณราคาไม่ได้ เหมืองแร่ลงทุนไว้ก่อนแต่งงาน 3,000 บาท แต่งงานแล้วขายได้ 800 บาทภริยาได้สืบว่าเมื่อแต่งงานแล้วราคาเท่าไร ถือว่าเป็นสินเดิม 800 บาท +ทรัพย์เป็นสินเดิมอันอาจใช้ประกอบอาชีพตามฐานะได้แล้ว แม้มิได้นำมามอบให้สามี ก็หักสมรสใช้เดิมซึ่งสูญไปนั้นได้ สามีเอาเงินสมรสไปซื้อทรัพย์ให้บุตรที่ติดมาโดยความยินยอมของภริยา ทรัพย์นั้นเป็นสิทธิแก่บุตร ผู้จัดการร้านค้าของบิดาเอาเงินของร้านไปปลูกสร้างในที่ดินของตัว ถือว่าสิ่งปลูกสร้างเป็นของผู้จัดการแทนนั้น แต่ถ้าเอาไปซื้อทั้งทีดินและสิ่งปลูกสร้าง ก็ถือว่าทรัพย์ที่ซื้อเป็นของร้าน ฟ้องเรียกสินเดิมสินสมรสจากผู้รับมรดกผู้ตาย ได้ความว่าจำเลยเป็นหนี้ผู้ตาย ศาลไม่ตัดสินให้จำเลยใช้เงินที่เป็นหนี้นั้น
of 5