คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ดุลยทรรศน์ปฏิภาณ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,005 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 989/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ร้องสอดเป็นจำเลยย่อมผูกพันตามคำพิพากษา แม้ไม่ได้ยึดครองที่ดิน ศาลบังคับให้งดเว้นการขัดขวางการส่งมอบที่ดินคืน
ผู้ที่ร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยในคดียกข้อต่อสู้พิพาทต่อโจทก์นั้นย่อมถือได้ว่าได้เข้ามามีฐานะเป็นจำเลยตามที่ตนขอ ต่อมาเมื่อคดีถึงที่สุดในชั้นบังคับคดี จะมาอ้างข้อต่อสู้ขึ้นใหม่ไม่ได้ เพราะเป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ เพื่อลบล้างข้อเท็จจริงในคดีที่ถึงที่สุดแล้ว
ในกรณีดังกล่าวแล้ว เมื่อโจทก์ชนะคดีโจทก์ย่อมขอให้ศาลออกคำบังคับเอาแก่ผู้ร้องสอดที่เข้ามาเป็นจำเลยนั้นในประเด็นที่ได้ยกขึ้นพิพาทกับโจทก์ได้ (แม้โจทก์จะมิได้ขอเพิ่มเติมให้บังคับเอาแก่ผู้ร้องสอดหลังจากที่ได้มีการร้องสอดเข้ามาแล้วก็ตาม)
โจทก์ฟ้องเรียกที่ดินคืนจากจำเลย ผู้ร้องสอดร้องเข้ามาว่าเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่นั้น โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้อง คดีถึงที่สุดว่าจำเลยต้องคืนที่ให้แก่โจทก์ ศาลย่อมออกคำบังคับผู้ร้องสอดไม่ให้มาเกี่ยวข้องขัดขวางการได้คืนที่ดินของโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 758/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์สิทธิในที่ดินมรดกโดยการนำสืบพยานเพื่อหักล้างข้อกล่าวอ้างของคู่ความ และการรับฟังพยานนอกฟ้องเพื่อแก้เหตุ
โจทก์ฟ้องขอให้แสดงสิทธิที่ดินมรดกของบิดาโจทก์ ซึ่งจำเลยผู้เป็นบิดาเลี้ยง และมารดาโจทก์ครอบครองแทนโจทก์มา จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยก่อนได้กับมารดาโจทก์ และว่ามีคนภายนอกฟ้องจำเลยมาครั้งหนึ่ง โจทก์ย่อมนำสืบพยานได้ว่า คดีที่คนภายนอกฟ้องจำเลยนั้น เป็นเรื่องฟ้องมรดกของบิดาโจทก์ โดยโจทก์ไม่ต้องอ้างถึงคดีที่ฟ้องกันนี้เป็นประเด็นมาในฟ้อง เพราะเป็นประเด็นที่จำเลยอ้างมาในคำให้การ โจทก์นำสืบแก้ให้เห็นว่าข้ออ้างของจำเลยไม่เป็นความจริงย่อมมีสิทธินำสืบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การควบคุมตัวผู้ต้องหาเกินความจำเป็นทำให้เกิดความอับอาย เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
การควบคุมตัวผู้ต้องหาในคดีการพนันโดยใส่กุญแจมือล่ามโซ่เพื่อให้ผู้ต้องหาอับอายนั้นเป็นการมิชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 86 และย่อมเป็นผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 145

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การควบคุมตัวผู้ต้องหาอย่างเกินความจำเป็นและทำให้ได้รับความอับอาย ถือเป็นความผิดทางอาญา
การควบคุมตัวผู้ต้องหาในคดีการพนันโดยใส่กุญแจมือล่ามโซ่เพื่อให้ผู้ต้องหาอับอายนั้นเป็นการมิชอบด้วย วิ.อาญา มาตรา 86 และย่อมเป็นผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา 145

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741-743/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ถือหุ้นจำกัด: เงินปันผล vs. เงินผลกำไร, สิทธิหลังการโอนหุ้น
ผู้ถือหุ้นบริษัทจำกัดจะฟ้องเรียกแบ่งเงินผลกำไรของบริษัทไม่ได้จะฟ้องเรียกได้ก็แต่เงินปันผลจากเงินกำไรนั้น
ผู้รับโอนหุ้นย่อมได้สิทธิของผู้โอนหุ้นไปทั้งหมดผู้โอนหุ้นจึงหลุดพ้นไม่มีนิติสัมพันธ์ใดๆ กับบริษัทอีกนับจากวันโอนนั้นเป็นต้นไป ผู้โอนหุ้นจะเรียกร้องเงินกำไรอันเกิดก่อนแต่ได้มาภายหลังการโอนหุ้นไม่ได้
จะนำกฎหมายลักษณะทั่วไปเรื่องดอกผลนิตินัยมาใช้บังคับกันเรื่องเงินผลกำไรของบริษัทจำกัดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741-743/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ถือหุ้นจำกัด: เงินปันผล vs. เงินผลกำไร และผลกระทบจากการโอนหุ้น
ผู้ถือหุ้นบริษัทจำกัดจะฟ้องเรียกแบ่งเงินผลกำไรของบริษัทไม่ได้จะฟ้องเรียกได้ก็แต่เงินปันผลจากเงินกำไรนั้น
ผู้รับโอนหุ้นย่อมได้สิทธิของผู้โอนหุ้นไปทั้งหมด ผู้โอนหุ้นจึงหลุดพ้นไม่มีนิติสัมพันธ์ใด ๆ กับบริษัทอีก นับจากวันโอนนั้นเป็นต้นไป ผู้โอนหุ้นจะเรียกร้องเงินกำไรอันเกิดก่อนแต่ได้มาภายหลังการโอนหุ้นไม่ได้
จะนำกฎหมายลักษณะทั่วไปเรื่องดอกผลนิตินัยมาใช้บังคับกับเรื่องเงินผลกำไรของบริษัทจำกัดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบสิทธิหุ้นและผลผูกพันจากการชำระค่าหุ้น การแสดงเจตนาที่ชัดเจนของผู้โอนสิทธิ
โอนหุ้นที่จองไว้ เมื่อบริษัทได้ก่อตั้งขึ้นแล้ว ผู้โอนต้องไปจัดการโอนให้ผู้รับโอนตามสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728-730/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเพื่ออยู่อาศัย vs. เช่าเพื่อค้า: เหตุผลการเช่าและสภาพการใช้งานเป็นหลัก
ในการที่จะวินิจฉัยว่าการเช่ารายใดเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยอันได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ หรือเป็นการเช่าเพื่อประกอบธุรกิจการค้าอันมีผลตรงข้ามนั้น จะถือหลักเกณฑ์ตายตัวแบบองค์ความผิดในทางอาญา เป็นต้นว่าที่เช่าอยู่ในทำเลการค้า จดทะเบียนการค้า ยอมให้ขึ้นค่าเช่าได้เรื่อยมา ถือว่าเป็นการเช่าเพื่อประกอบธุรกิจการค้าเช่นนั้นไม่ได้ เหตุผลเหล่านี้เป็นเพียงเครื่องประกอบข้อวินิจฉัยทั่วๆ ไปเท่านั้น และในเรื่องจดทะเบียนการค้า เมื่อผู้เช่าไปจดทะเบียนประเภทตรงตามที่จำเลยกระทำอยู่ เพื่อความสะดวกในการเรียกเก็บภาษีของเจ้าพนักงานส่วนหนึ่งโดยเฉพาะ ไม่เป็นการเด็ดขาดตายตัวว่าเป็นการเช่าเพื่อประกอบธุรกิจการค้าขึ้นมาได้
หลักสำคัญอยู่ที่เหตุผลแห่งการเช่าและการค้าของผู้เช่าแต่ละรายในห้องเช่านั้นๆ ว่ามีอยู่มากหรือน้อยเพียงใด ตลอดจนรายได้จากการค้าดังกล่าว อันปรากฏจากพยานหลักฐานในสำนวนประกอบกับสภาพความจริงตามที่ศาลได้ไปตรวจดูสถานที่มานั้น ซึ่งควรที่จะได้บันทึกโดยละเอียดและชัดแจ้ง ย่อมชี้ถึงความจริงได้ว่าเป็นการเช่าเพื่อประกอบธุรกิจการค้าโดยตรง หรือเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ หากแต่มีการค้าปะปนบ้างเล็กๆ น้อยๆ เพียงเพื่อการดำรงชีวิตของตนเองหรือครอบครัวเท่านั้น ซึ่งเหตุผลเหล่านี้ล้วนแต่เป็นข้อเท็จจริงโดยเฉพาะของแต่ละเรื่อง ไม่ใช่หลักเกณฑ์ตายตัวที่จะนำไปใช้กันได้ในทุกเรื่อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728-730/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเพื่ออยู่อาศัย vs. เช่าเพื่อประกอบธุรกิจ: พิจารณาจากเหตุผลการเช่าและพยานหลักฐาน
ในการที่จะวินิจฉัยว่าการเช่ารายใดเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยอันได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ หรือเป็นการเช่าเพื่อประกอบธุรกิจการค้าอันมีผลตรงข้ามนั้น จะถือหลักเกณฑ์ตายตัวแบบองค์ความผิดในทางอาญา เป็นต้นว่าที่เช่าอยู่ในทำเลการค้า จดทะเบียนการค้า ยอมให้ขึ้นค่าเช่าได้เรื่อยมา ถือว่าเป็นการเช่าเพื่อประกอบธุรกิจการค้าเช่นนั้นไม่ได้ เหตุผลเหล่านี้เป็นเพียงเครื่องประกอบข้อวินิจฉัยทั่ว ๆ ไปเท่านั้น และในเรื่องจดทะเบียนการค้า เมื่อผู้เช่าไปจดทะเบียนประเภทตรงตามที่จำเลยกระทำอยู่ เพื่อความสดวกในการเรียกเก็บภาษีของเจ้าพนักงานส่วนหนึ่งโดยเฉพาะ ไม่เป็นการเด็ดขาดตายตัวว่าเป็นการเช่าเพื่อประกอบธุกิจการค้าขึ้นมาได้
หลักสำคัญอยู่ที่เหตุผลแห่งการเช่าและการค้าของผู้เช่าแต่ละรายในห้องเช่านั้น ๆ ว่ามีอยู่มากหรือน้อยเพียงใด ตลอดจนรายได้จากการค้าดังกล่าว อันปรากฎจากพยานหลักฐานในสำนวนประกอบกับสภาพความจริงตามที่ศาลได้ไปตรวจดูสถานที่มานั้น ซึ่งควรที่จะได้บันทึกโดยละเอียดและชัดแจ้ง ย่อมชี้ถึงความจริงได้ว่าเป็นการเช่าเพื่อประกอบธุรกิจการค้าโดยตรง หรือเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ หากแต่มีการค้าปะปนบ้างเล็กๆ น้อย ๆ เพียงเพื่อการดำรงชีวิตของตนเองหรือครอบครัวเท่านั้น ซึ่งเหตุผลเหล่านี้ล้วนแต่เป็นข้อเท็จจริงโดยเฉพาะของแต่ละเรื่อง ไม่ใช่หลักเกณฑ์ตายตัวที่จะนำไปใช้กันได้ในทุกเรื่อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กลฉ้อฉลซื้อขายที่ดิน: เพิกถอนนิติกรรม, สิทธิเรียกร้อง, ความสุจริต, การสมคบคิด
น. ทำสัญญาจะขายที่ดินให้ ย. ชำระราคาบางส่วนเกือบครบแล้ว น. กลับไปจดทะเบียนขายที่ดินนั้นให้ อ. เสีย โดย ธ.บิดาอ.เป็นผู้รับมอบฉันทะจากน.แต่ธ. รู้ดีว่า น. ได้ทำสัญญาจะขาย ย.แล้วและอ.นั้นก็แล้วแต่ธ.บิดาจะเชิดไป ธ.และอ. ไม่สุจริต รูปคดีเป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์ไม่มีทางบังคับชำระหนี้ได้น. ได้กระทำทั้งที่รู้ว่าทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ ย. เพิกถอนนิติกรรมระหว่างน. กับ อ. ได้ตาม มาตรา 237
of 101